แบรนด์น้ำหอมสุดนิช Le Labo จากนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เป็นที่รู้จักกันในวงกว้างว่าด้วยเรื่องคุณภาพของกลิ่นและความเป็น Slow Perfumery ที่เน้นความเฟอร์เฟคขั้นที่ว่าไม่มีกรอบของเวลาการออกกลิ่นใหม่ แต่จะรอเวลาที่เหมาะสมตามฤดูกาลและคอยให้วัตถุดิบได้เบ่งบานตามช่วงเวลาที่เหมาะสม หรือแม้แต่การเสาะแสวงหาแรงบันดาลใจในการกำเนิดกลิ่นใหม่ที่คู่ควรกับการมาวางบนชั้นขายในร้าน ทำให้เกิดเป็นกลิ่นหอมครองใจคนทั่วโลกที่กำลังมองหาความยูนีค มีเอกลักษณ์ แทบจะไม่ซ้ำใคร อย่างตอนนี้ก็ถึงเวลาอันสมควรที่แบรนด์จะเปิดตัว Lavende 31 น้ำหอมลำดับที่ 20 จาก Classic Collection หลังปล่อยให้แฟนคลับรอกลิ่นใหม่มานานกว่า 2 ปี

ชื่อที่อยู่บนฉลาก Lavende 31 ยังคงคอนเซปต์บอกอย่างตรงไปตรงมา (กลิ่นเด่น และจำนวนส่วนผสม) แน่นอนว่ากลิ่นของ ‘ลาเวนเดอร์’ คือตัวชูโรงของขวดล่าสุดนี้ และหากคุณกำลังนึกถึงกลิ่นของทุ่งดอกลาเวนเดอร์ หรือลองหลับตาแล้วนึกถึงภาพของห้องน้ำที่มีวอลเปเปอร์ลายโปรดของคุณยายที่ให้ความรู้สึกนึกหวนถึงอดีต ในบริเวณนั้นมีสบู่ก้อนสีม่วงลาเวนเดอร์วางอยู่ข้างอ่างล้างหน้า หรือร้านตัดผมวินเทจที่มีกลิ่นหอมของลาเวนเดอร์หอมอบอวลผสมกับโอ๊คมอสลอยคละคลุ้งทั่วไปทั้งร้าน บอกได้เลยว่ากลิ่นใหม่นี้ตอบสนองถึงห้วงอารมณ์แห่งความคิดถึง ส่งมอบแรงบันดาลใจโดยถ่ายทอดออกมาเป็นเป็นกลิ่นที่ทั้งให้ความรู้สึกคุ้นชิน และแตกต่างจากจินตนาการเดิมๆ เกิดเป็นเอกลักษณ์ใหม่ที่ยากจะลืมเลือน

ความพิเศษของ Lavende 31 จาก Le Labo อยู่ที่การคัดสรรดอกลาเวนเดอร์เฉพาะดอกตูมเท่านั้น และเพื่อสร้างมิติอันเข้มข้นจึงเลือกใช้เอสเซนส์เชียลออยล์จากผลเบอร์กาม็อต และดอกเนโลลี เสริมกลิ่นสดชื่นแบบบางเบาไม่บาดจมูก อีกทั้งยังเป็นตัวเสริมให้กลิ่นของลาเวนเดอร์โดดเด่น คล้ายการมอบแสงสว่างให้ และยังไม่ทิ้งกลิ่นที่ติดความ Dirty และมักกี้อันเป็นเอกลักษณ์ ผสานกับกลิ่นของตองกาบีนเสริมความหวานที่มีสไตล์คลาสสิก Lavende 31 จึงเป็นกลิ่นของลาเวนเดอร์ที่มีความสดใส ทว่าติดกลิ่นความเปรอะดินของโอ๊คมอส และกลิ่นของความเป็นมักกี้ บาลานซ์ที่ลงตัวของความ Dirty และ Clean แบบคอสเมติก-ฟลอรัล ทั้งน่าจดจำ และดูจริงใจแบบยากที่อธิบาย ต้องลองด้วยตัวเองแล้วรับรองว่าจะประทับใจเช่นเดียวกัน
