Jonathan Anderson ดีไซเนอร์ผู้สร้างงานศิลป์และจุดประเด็นใหม่ให้โลกแฟชั่น

จากสารพัดข่าวลือในโลกแฟชั่นช่วงเวลานี้ คงจะไม่มีข่าวใดน่าสนใจไปกว่า Jonathan Anderson (โจนาทาน แอนเดอร์สัน) นักออกแบบและผู้ก่อตั้งแบรนด์แฟชั่น JW Anderson เตรียมย้ายไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ประจำเมซง Dior แถมยังอาจจะได้ทำหน้าที่ดูแลควบทั้งแผนกสินค้าบุรุษและสตรี ทำให้เขากลายเป็นนักออกแบบรายแรกของเมซงหลังนี้ที่ได้ดูแลสินค้าของทั้งชายและหญิงคู่กัน

Jonathan Anderson

แต่! … นั่นยังเป็นเพียงแค่ข่าวลือที่ยังไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ แต่ก็อีกนั่นละครับ ช่วงเวลาที่ผมกำลังเขียนบทความฉบับนี้ เขาได้โบกมือลาจาก Loewe แบรนด์แฟชั่นที่กลับมามีภาพลักษณ์แสนเก๋ได้ด้วยมนต์วิเศษของ Jonathan ถือเป็น 12 ปีแห่งความสำเร็จ พิสูจน์ได้ด้วยผลงานและวิสัยทัศน์ในการเปลี่ยนให้เมซงเก่าแก่ 179 ปี กลายเป็นแบรนด์แฟชั่นผนวกงานศิลปะที่กลับมาได้รับความนิยมอย่างล้นหลามอีกครั้ง

ผลงานจากดินน้ำมัน จาก JW Anderson Spring-Summer 2024

“เขาคู่ควรกับ Dior หรือไม่?” คำถามสำคัญซึ่งเป็นผลพวงจากข่าวลือที่ว่านั้น ชวนให้คอแฟชั่นพากันถกเถียง ทางฟากความเห็นที่เอียงมาทาง “คู่ควร” ได้ยกเรื่องราวตลอด 17 ปีที่โลดแล่นบนถนนสายแฟชั่นอย่างเต็มตัวมาเป็นเครื่องการันตี เขาคือแฟชั่นดีไซเนอร์ที่สามารถปรับเปลี่ยนและหลอมตัวตนเข้ากับดีเอ็นเอของแบรนด์ที่รับผิดชอบได้อย่างน่าอัศจรรย์ ไม่ว่าจะผลงานสำหรับ JW Anderson ที่คลอดออกมาปี 2008, การร่วมงานกับแบรนด์ฟาสต์แฟชั่นเจ้าดังจากเกาะอังกฤษ Topshop ในปี 2012 หรือการได้ร่วมงานกับ Versus ไลน์น้องสาวของ Versace ในปี 2013

Jonathan Anderson และ Donatella Versace
Versus Versace by Jonathan Anderson 2013

เมื่อกลายเป็นชื่อที่ถูกพูดถึงจากการไปเข้าตา Donatella Versace และถูกชักชวนมาให้ร่วมงานด้วยกันเพียงแค่ครึ่งปีปลายปีเดียวกันนั้นเองทาง LVMH ได้ประกาศให้เขาเข้าคุมบังเหียนที่ Loewe แบรนด์ดังที่กระแสแผ่วมานานพักใหญ่ๆ นี่ยังไม่นับการถูกเสนอชื่อเข้าชิงและได้รับรางวัลด้านแฟชั่นในสาขาต่างๆ มาตั้งแต่ในปี 2012 จากรางวัลนักออกแบบคลื่นลูกใหม่ที่ต้องจับตา จนถึงรางวัลล่าสุดในปี 2023 จาก CFDA Fashion Awards กับสาขา International Designer of The Year

Jonathan Anderson กับรางวัลจากหลากเวทีชั้นนำ

“นักออกแบบคนนี้คือยอดอัจฉริยะ!” Donatella Versace กล่าวถึงเขาในวาระเปิดตัว Versus Versace โฉมใหม่เมื่อกลางปี 2013 และยังเล่าเสริมด้วยว่า “เขาเป็นคนทุ่มเทกับสิ่งที่ต้องรับผิดชอบตรงหน้า มักง่วนอยู่กับการศึกษาข้อมูลจากคลังเก็บอาร์ไคฟ์ของแบรนด์ เป็นคนที่กล้า ชอบความท้าทายและไม่กลัวที่จะทำอะไรซึ่งก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์” ด้วยการเปิดรับและรักในการค้นคว้าคืออีกคุณสมบัติที่ทำให้เขาสามารถรังสรรค์ผลงานสำหรับแบรนด์ต่างๆ ได้อย่างชัดเจนไม่ทับซ้อน ขณะเดียวกันก็ยังคงลายเซ็นของตนเอาไว้อย่างชัดเจน

หนึ่งในนั้นคือเครื่องแต่งกายซึ่งดูคลุมเครือว่ามีไว้สำหรับเพศใด ซึ่งเป็นแนวคิดหลักตั้งแต่แรกเริ่มจนประสบความสำเร็จ “หากมีบางอย่างที่สามารถทำได้ในฐานะนักออกแบบนั่นก็คือการท้าทาย เพราะคือสิ่งที่แฟชั่นเป็น คุณต้องท้าทายความคิดเห็นของผู้คนเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ยูนิเซ็กซ์คือความร่วมสมัยที่หลายคนยังไม่กล้าพูดถึง นั่นคือเหตุผลที่ผมไม่มองว่ามันเป็นเรื่องของผู้ชายที่สวมชุดเดรสหรือผู้หญิงที่สวมแจ็กเก็ตของผู้ชาย มันเกี่ยวกับการท้าทายการรับรู้ของผู้คนเพื่อทำให้พวกเขาฉุกคิด”

Loewe Fall-Winter 2014 คอลเล็กชั่นสำหรับผู้ชายแรกโดย Jonathan Anderson

อีกแนวคิดที่ควบคู่กับการออกแบบเครื่องแต่งกายสำหรับทุกเพศซึ่งทำให้ชื่อของ Jonathan Anderson กลายเป็นที่รู้จักคือการเปลี่ยนงานศิลปะให้กลายเป็นงานศิลป์ที่สวมใส่ได้ ซึ่งทิศทางการออกแบบลักษณะนี้ทำให้ Loewe กลายเป็นไฮไลท์บทตาราง Paris Fashion Week หลังซบเซาไปนานเกือบทศวรรษ ศิลปะถูกนำมาใช้เป็นตัวช่วยเติมเต็มความรู้สึกอิ่มเอมในรูปแบบสุนทรียภาพของชีวิต งานหัตถศิลป์ถูกนำมาช่วยเพิ่มคุณค่าและมูลค่าของตัวผลิตภัณฑ์ Jonathan เปลี่ยนให้ Loewe กลายเป็นอาเตอลิเยร์ด้านงานหัตถศิลป์และยังให้ความสำคัญกับศิลปะทุกแขนง คอยสนับสนุนศิลปินทั้งอินดี้และที่มีชื่อเสียงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่คอลเล็กชั่นแรกในต้นปี 2014

กระเป๋ารุ่น Puzzle นำเสนอครั้งแรกบนรันเวย์ Spring-Summer 2015

จนถึงล่าสุดกับ Loewe Fall-Winter 2025 กับจุดเด่นเรื่องศิลปะลวงตา trompe l’oeil และการร่วมมือกับมูลนิธิ Josef & Anni Albers สองผู้บุกเบิกงานศิลป์จากศตวรรษที่ 20 ผู้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์กระเป๋ารุ่นไอคอนิกอย่าง Puzzle สุดโด่งดัง กลายเป็น ‘It-Bag’ ในฝันของหนุ่มสาวทั่วโลกตลอดช่วง 10 ปี

ผลงานการร่วมมือกันระหว่าง Loewe และ Studio Ghibli

หากข่าวลือ ‘Jonathan Anderson คือผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์คนใหม่ของเมซง Dior เป็นจริง’ ผมเชื่อว่าเขาก็ยังคงสองแนวคิดด้านการออกแบบเอาไว้ดังเดิม แต่ที่เพิ่มเติมและเชื่อได้ว่าจะยิ่งชัดเจนขึ้น คือการผนวกความหรูหราของอาภรณ์ชั้นสูงหรือโอตกูตูร์เข้ากับเสื้อผ้าบุรุษอย่างชัดเจน ชนิดที่ดีไม่ดีอาจชัดกว่าที่ Kim Jones (คิม โจนส์) อดีตผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์แผนกเสื้อผ้าบุรุษของ Dior ได้วางรากฐานไว้

Loewe Foundation Craft Prize โครงการสนับสนุนเหล่าศิลปินที่สร้างสรรค์งานฝีมือ

เพราะในเมื่อ Dior มีกองทัพทีมช่างตัดเย็บและแผนกงานฝีมือที่สามารถเนรมิตทุกสิ่งได้ดังใจ นักออกแบบที่เชิดชูคุณค่างานศิลป์แขนงต่างๆ ยิ่งชีพ มีหรือจะไม่ชักชวนกันให้พร้อมใจโชว์ศักยภาพ เพื่อให้สมกับชื่อเสียงของการเป็นกูตูร์เฮาส์เก่าแก่ทรงคุณค่าที่สุดหลังหนึ่งของกรุงปารีส … ส่วน Jonathan Anderson ก็ได้พิสูจน์ว่า ‘เขาคู่ควร’ อย่างแท้จริง

Celebrity

Similar Articles

More