แค่พริบตาเดียว ปีค.ศ. 2025 ก็ผ่านไปแล้วหนึ่งเดือน บางคนตั้งใจจะลองทำอะไรใหม่ๆ โดยการเดินออกจากเซฟโซน บางคนอยากเลิกยึดติดกับบิวตี้สแตนดาร์ด บางคนตั้งปณิธานจะกลับมายึดมั่นในความต้องการของตัวเอง สำหรับ นิว-ฐิติภูมิ เตชะอภัยคุณ ที่เพิ่งจะก้าวเข้าวัย 32 หมาดๆ สิ่งหนึ่งที่เป็นชาเลนจ์ของเขาอาจไม่ใช่เป้าหมายยิ่งใหญ่ แต่เป็นความตั้งใจเล็กๆ อย่างการลงคอร์สเรียนภาษาจีน “ด้วยความที่มีเชื้อสายจีน ผมเลยอยากเพิ่มทักษะสื่อสาร คิดไว้นานแล้วเหมือนกัน แต่ยังไม่ได้เริ่มลงมือทำเสียที” ดาราหนุ่มเล่าพลางหัวเราะแก้เขิน ทว่ายิ่งตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตัวตนไปสู่เวอร์ชันที่ดีกว่า
ย้อนกลับไปในช่วงระหว่างวัย 20-30 นิวคือคนหนุ่มที่ทุ่มเทเวลาเพื่อการเรียนและการทำงาน บัณฑิตวิศวะจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเลือกศึกษาต่อระดับปริญญาโท ควบคู่ไปพร้อมกับงานบันเทิงที่เขารัก จนกระทั่งเรียนจบสาขาวิชาบริหารธุรกิจ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จากรั้วมหาวิทยาลัยเดียวกันได้สำเร็จ

จวบจนปัจจุบันรวมเวลา 10 ปีกับการโลดแล่นบนเส้นทางนี้ นิวมีผลงานต่อเนื่องและกลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบท ‘เก้า’ ในซีรีส์เรื่องฮิตอย่าง Kiss Me Again จูบให้ได้ถ้านายแน่จริง และ Dark Blue Kiss จูบสุดท้ายเพื่อนายคนเดียว ที่มีกระแสตอบรับล้นหลาน ทำให้ชื่อของเขากับนักแสดงคู่ขวัญทะยานขึ้นสู่อันดับต้นๆ ยืนระยะบนโลกโซเชียลตลอดมา
และโดยตัวพล็อตของผลงานทั้งหมดทั้งมวล ล้วนเป็นเรื่องเล่าที่ฉายภาพความสัมพันธ์หลากรสหลายรูปแบบ แอลเมนจึงเปิดบทสนทนาเกี่ยวกับเรื่องราวความรักเพื่อต้อนรับวันวาเลนไทน์ ว่าแท้จริงแล้วความรักคืออะไรกันแน่ ร่วมค้นหาคำตอบพร้อมพูดคุยอัปเดตชีวิตผ่านแง่มุมต่างๆ กับเขาได้เลย
ความชอบด้านการแสดงเกิดขึ้นเมื่อไหร่
ตอนอายุ 25 เหมือนเป็นจุดหักเหของชีวิตที่ต้องเลือกว่าจะทำอาชีพอะไรเป็นหลักเป็นแหล่ง รู้สึกว่ามันคงช้าเกินไปถ้าจะเริ่มทำอย่างอื่น งั้นลองมาเอาดีด้านการแสดงแล้วกัน พอตัดสินใจได้ก็มุ่งมั่นพัฒนาตัวเองและจริงจังกับการแสดงมากขึ้น

เคยคิดไหมว่าอยากขึ้นไปสู่จุดไหนในอนาคต
อยู่จุดไหนคงไม่สำคัญ นิวแค่อยากเป็นนักแสดงที่ผู้คนให้การยอมรับและเชื่อมือได้ทั้งในแง่ของความสามารถและเคมี เวลาเข้าฉากกับเพื่อนนักแสดงก็อยากให้พวกเขารู้สึกไว้ใจเรา
ความเป็นคนเต็มที่กับทุกอย่าง ทำให้อยากรู้ว่านิวเคยย้อนกลับไปดูผลงานแล้วประเมินตัวเองบ้างไหม
ด้วยคาแร็กเตอร์ของตัวละครที่ได้รับ นิวมักจะแสดงออกไปโดยสัญชาตญาณ ไม่ได้ปรุงแต่ง ไม่ได้คิดซับซ้อน นิวจะโฟกัสกับปัจจุบัน ณ ขณะนั้น พยายามทำความเข้าใจก่อนว่าตัวละครนั้นต้องการอะไร เหตุใดถึงตัดสินใจทำแบบนั้น เมื่อรู้แบ็กกราวนด์และบริบทก็จะสามารถถ่ายทอดออกมาได้ ถ้ายังไม่เป็นไปตามที่ผู้กำกับต้องการ นิวจะปรับแก้เดี๋ยวนั้นเลย เมื่อเต็มที่ไปแล้วกับทุกฉากทุกตอน หลังจากนั้นคือมูฟออน

สิ่งที่ประเมินคุณค่าไม่ได้จากการทำงานในวงการ
คงเป็นมิตรภาพจากกลุ่มเพื่อนและแฟนๆ ที่คอยติดตามนิวมาตลอด ใช่ว่าทุกอาชีพจะมีผู้คนรายล้อม มอบความรัก ความปรารถนาดี และสนับสนุนกันมากขนาดนี้
ถ้าวันนี้ไม่ได้เป็นนักร้อง นักแสดง หรือนายแบบ
อาจจะประกอบอาชีพสายการเงินการธนาคาร ทำเกี่ยวกับหลักทรัพย์ภาคเอกชน บริหารเงินลงทุน เพราะมันรีเลทกับสิ่งที่ได้เรียนมา อีกอย่างนิวมองว่าไม่มีงานอะไรที่เหมือนเดิมไปตลอดชีวิต เราควรหาความรู้ใส่ตัวและวางแผนเพื่อสร้างความมั่นคงในอนาคต

เพียบพร้อมด้วยรูปร่างหน้าตาและมันสมอง ผู้ชายคุณสมบัติรอบด้านแบบนี้จะมีมุมมองความรักแบบไหน
ความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน พูดเหมือนง่ายนะ แต่มันทำยากมากเลย
เสน่ห์ของนิวที่ไม่เหมือนใคร
นิวค่อนข้างขี้เล่นมาตั้งแต่เด็กแล้ว คนอื่นเลยกล้าเข้ามาทักทาย กล้าเข้ามาสานสัมพันธ์ เพราะรู้สึกว่านิวเป็นคนเข้าถึงง่าย ไม่ถือตัว

เคยมีเพื่อนมาปรึกษาปัญหาหัวใจบ้างไหม
ส่วนใหญ่จะถามว่าจีบผู้หญิงยังไง บางทีเพื่อนๆ ก็เจอโจทย์ยาก ถ้าตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ควรรับมืออย่างไร
คิดว่าคนเราจะสามารถอยู่โดยไม่มีความรักได้หรือเปล่า
ความรักมันเกิดขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ คนที่ไม่มีความรักให้ใครเลยมันคงไม่มีหรอก เพราะความรักเกิดขึ้นได้ง่ายมาก แม้แต่ในชีวิตประจำวันเราก็สามารถมองเห็นความรักได้จากผู้คนรอบตัว

Credit Team
Fashion Editor: Ratchakrit Chalermsan
Photographer: Mark Kawinkrua
Makeup: Sutipat Pinchum
Hair: Sirasit Sirikarin
Style Assistant: Dulyadej Sangfueng
Photo Assistants: Narisa Songkhramsri, Pongtorn bua-im, Thad Piyasoontorn
Fashion Intern: Theerapong Khwankhum