เมื่อได้รับการเชิญชมงานอาร์ต Arch Of Soul Light สุดฮิป ณ La Vela Khao Lak (ลา เวล่า เขาหลัก) โรงแรมระดับ 5 ดาวริมทะเลที่ขึ้นชื่อเรื่องงานอาร์ตแล้ว ก็ยากที่จะปฎิเสธคำเชิญครั้งนี้ และยิ่งรู้ว่าครั้งนี้จะได้มาพบกับอาร์ตติสเจ้าของผลงานอย่าง กบ บอร์ (Kobored) หรือ กบ – พงษ์ภาสกร กุลถิรธรรม Visual Artist แถวหน้าของเมืองไทยที่โด่งดังไปไกลถึงระดับโลกแล้ว ก็ตอบตกลงทันที เพื่อนัดขอเข้าพูดคุยแบบเอ็กซ์คลูซีฟสืบสาวถึงความเป็นมาของงานสุดเจ๋ง Arch Of Soul Light ที่จัดแสดงเป็นครั้งแรกของเขาหลักในการร่วมกันจัดแสดงงานศิลปะในรูปแบบ Site-Specific Installation Laser Art ที่คว้ารางวัลชนะเลิศสาขา Visual Contest ระดับนานาชาติกับผลงานชิ้นล่าสุดนี้ ผ่าน 5 คำถามที่จะทำให้คุณอินมากขึ้นเมื่ออ่านจบ
Editor's Notes
การเดินทางทุกครั้งมักเต็มไปด้วยเรื่องราวพิเศษครั้งนี้ก็เช่นกัน ก้าวแรกออกจากบ้านในเวลาเช้าตรู่มุ่งสู่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อเดินทางไปยังสนามบินนานาชาติภูเก็ตโดยบางกอกแอร์เวย์ที่เสิร์ฟความอิ่มท้องอิ่มใจอย่างข้าวต้มมัดเมนูซิกเนเจอร์มารองท้องระหว่างรอเสริมฟีลลิ่ง Get Ready ได้อย่างดี เมื่อเท้าแตะยังโลเคชั่น La Vela Khao Lak ก็รับรู้เลยว่าเดสติเนชั่นแห่งนี้ช่างอบอวลด้วยความรื่นรมย์ธรรมชาติที่เมื่อมีศิลปะมาแต่งแต้มแล้วจะยิ่งมีเสน่ห์กว่าที่เคย Arch Of Soul Light by Kobored ก็เป็นอีกหนึ่งพลังที่ช่วยเพิ่มแสดงให้ที่แห่งนี้ควรค่าแก่การมาเยือน
จุดเริ่มต้นของงาน Arch Of Soul Light by Kobored
Kob: สเปซแห่งนี้ผมค่อยข้างคุ้นเคยดีจากการทำกิจกรรมหลายอย่างกับ La Vela Khao Lak มาตั้งแต่ช่วงโควิด-19 แล้วเป็นจังหวะที่ดีของการเริ่มโปรเจกต์นี้กับ Bridge Art Agency ที่ให้ผมได้มาร่วมงานครั้งนี้ ด้วยโลเคชั่นที่โรงแรมเลือกให้คือ ‘อุโมงค์ทางเชื่อมระหว่างโซนที่พักกับชายหาด’ เป็นสเปซที่เหมาะมากกับ Lighting installation ตั้งแต่แรกเห้น ผมจึงเริ่มตีความพื้นที่จากคาแล็กเตอร์ของผู้คนที่ผ่านไปมาผ่านอุโมงค์ ตลอดถึงสถาปัตยกรรมมุมสามเหลี่ยมของที่แห่งนี้ มุมยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่มักโพสลงในโซเชียลมีเดียส่วนตัว ซึ่งสิ่งเหล่านี้ผมนำมาพัฒนาต่อ แล้วเชื่อมโยงกับการตีความสิ่งแวดล้อมของ ลา เวล่า และเขาหลัก
แรงบันดาลใจของผลงาน Arch Of Soul Light
Kob: หลังจากที่ผมได้พื้นที่ตรงนี้ก็กลับมาคิดตั้งโจทย์ขึ้น อุโมงค์สามารถสื่อสาร ‘วัฒนธรรมเขาหลัก’ ในเชิงสัญญะได้ ที่นอกจากเป็นเมืองเซิร์ฟแล้ว ที่นี่ยังเด่นในด้าน spiritual editage ที่หลายคนเลือกมาพักใจ มารีเซตตัวเอง ผมจึงเลือกประเด็นนี้มาผูกกับเรื่องของไทม์โซนหรือไทม์ไลน์เป็นจุดตั้งต้นในการเขียนคอนเซ็ปต์ขึ้น
องค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ Arch Of Soul Light เป็นรูปเป็นร่าง
Kob: หลังจากผมและทีมช่วยกันระดมความคิด ผมจึงแบ่งออกเป็น 4 องค์ประกอบสำคัญในการวางรูปแบบงานดีไซน์ ‘เส้นแสงเลเซอร์’ ครั้งนี้ หนึ่ง คือคลื่นหรือ ‘Wave form’ สอง รูปทรงของสถาปัตยกรรมหรือ ‘Shape form’ ของอุโมงค์ที่มีทั้งทรงสามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม สาม จุด หรือ ‘Dot’ นำมาเล่าเรื่องการเดินทางของเรือในมหาสมุทรมาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ โดยใช้รูปทรงสามเหลี่ยม จาก la Vela หรือกลุ่มดาวเรือใบ มาใช้ในงานออกแบบสู่โถงทางเดินสามเหลี่ยมหันยอดชี้ไปยังชายหาดบางเนียง เป็นรูปทรงต่างๆ เช่น รูปทรงสามเหลี่ยมของอุโมงค์ รูปทรงเกลียวคลื่นทะเล สีเขียวของต้นไม้ หรือสีฟ้าของน้ำทะเล ฯลฯ และองค์ประกอบสุดท้ายคือ Transition ที่มาเป็นตัวแปลงให้งานศิลปะไลท์ติ้งที่เป็นปัจเจกมาเอฟเฟกต์กับผู้ที่เดินผ่านได้หลากหลายความรู้สึก เมื่อแสงกระทบตัวคุณ แล้วเกิดเป็นฟอร์ม เกิดเป็นจุด สีต่างๆ
สิ่งใหม่ที่จากงาน Arch Of Soul Light
Kob: ผลงานชิ้นนี้ผมเลือกใช้เลเซอร์มาเป็นเทคนิคหลัก ด้วยพื้นฐานผมเป็นนักออกแบบไลท์ติ้งอยู่แล้ว บวกกับสถานที่แห่งนี้เป็นอุโมงค์ที่อยู่ใต้สระว่ายน้ำที่มีความชื้นสูง บวกกับความร้อนชื้นของเขาหลักแล้ว ถ้าหากใช้การเพนติ้งก็อาจไม่เหมาะ สุดท้ายผมเลือกงานถนัดกับการใช้เส้นแสงเลเซอร์เล่าเรื่อง แต่อาจต้องทำการบ้านเพิ่มหากเอาไฟฟ้ามาใกล้กับน้ำหรือความชื้นซึ่งมันเป็นเรื่องท้าทายสำหรับผม ผมเริ่มขีดเขียนเส้นเลเซอร์ขึ้นคล้ายๆ กับการวาดรูป เป็นวิธีการที่ผมพัฒนาขึ้นโดยให้พื้นที่ในอุโมงค์เป็นแคนวาสแล้วใช้โปรเจกเตอร์เป็นเครื่องฉายมายังฝาผนังของอุโมงค์ เพื่อมองฟิลลิ่งมุมสะท้อน และสิ่งเหล่านี้ก็จะต้องปลอดภัยที่สุดกับผู้คนที่เดินผ่าน ซึ่งปฏิกิริยาของพวกเขาอาจจะปลื้มหรือเดินผ่านไปผมก็รู้สึกดีใจแล้ว มากกว่าการที่ไม่กล้าผ่านผลงานในอุโมงค์นี้ไป
ไฮไลต์ที่อยากให้ชาวแอลเมนได้ชม Arch Of Soul Light
Kob: ถ้ามีโอกาสมาเขาหลักผมก็อยากให้แวะมาที่ลา เวล่า มาชม มาลองเล่นกับวิธีการของมัน เพราะว่าผมว่าเลเซอร์ตัวนี้มอบประสบการณ์พิเศษที่ไม่เหมือนการไปคอนเสิร์ตหรือที่อื่นๆ แน่นอน