‘กร PROXIE’ เมื่อเสียงเพลงเป็นเครื่องมือสื่อสาร และสไตล์คือภาษาของตัวตน

Photographer: Pathomporn Phueakphud

หากพูดถึง ‘Guitar Man’ แห่งวงการ T-POP นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก กร วรรณไพโรจน์ หรือ กร PROXIE หนุ่มมากเสน่ห์ผู้สะพายกีตาร์ขึ้นเวที พร้อมซิงเกิลโซโล่ล่าสุด ‘ลอง (Reputation)’ ที่ไม่เพียงแค่สะท้อนเสียงร้องอันมีเสน่ห์ แต่ยังเผยความสามารถรอบด้านของเขาทั้งในฐานะนักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์ และผู้ชายที่เข้าใจตัวเองมากขึ้นผ่านทุกคอร์ดที่เขาเล่น

เราได้นั่งคุยกับกรถึงเบื้องหลังของเพลงนี้ ตั้งแต่แรงบันดาลใจ กระบวนการทำงานร่วมกับศิลปินระดับแถวหน้า ไปจนถึงการเลือกสไตล์แฟชั่นที่เขาลงมือดีไซน์เองทุกขั้นตอน

“เพลงนี้เริ่มจากเมโลดี้ครับ แล้วก็เริ่มแต่งเนื้อไปเรื่อย ๆ จนได้ประโยคแรกที่ว่า ‘เธอไม่รู้หรอก คิดว่าฉันคงเป็นอย่างคำที่ใครบอก’ ซึ่งสะท้อนว่าหลายคนตัดสินกันจากสิ่งที่ได้ยิน ไม่ใช่จากสิ่งที่ได้รู้จักจริง ๆ”

‘ลอง (Reputation)’ เพลงที่เปลี่ยนกรจากผู้ฟังเป็นผู้เล่าเรื่อง

‘ลอง’ อาจเป็นซิงเกิลที่กรออกมาโชว์ศักยภาพในฐานะศิลปินเดี่ยวอย่างเป็นทางการ แต่เบื้องหลังนั้น เขาคือคนที่รักในการแต่งเพลงมาโดยตลอด และเคยมีผลงานอยู่เบื้องหลังให้กับวง PROXIE มาก่อนหน้านี้

“ผมชอบแต่งเพลงเก็บไว้เล่นๆ อยู่แล้วครับ แต่นี่คือครั้งแรกที่ได้ปล่อยออกมาอย่างจริงจัง และได้มีส่วนร่วมในทุกขั้นตอน ตั้งแต่แต่งเพลง ไปจนถึงโปรดิวซ์”

โดยเฉพาะการได้ร่วมงานกับ พี่เมื่อย Scrubb และ พี่ปกป้อง Plastic Plastic สองโปรดิวเซอร์รุ่นพี่ที่เขาชื่นชมมาแต่ไหนแต่ไร

“พี่เมื่อยไม่เคยรับงานโปรดิวซ์ให้ใครมาก่อน แต่เขาเลือกทำเพลงนี้ เพราะรู้สึก Spark Joy กับเมโลดี้ที่เราทำไว้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน มันเหมือนคลิกกันพอดีครับ”

อยู่เบื้องหลัง จนเข้าใจเบื้องลึก

ความพิเศษของเพลงนี้ไม่ได้อยู่แค่ที่เนื้อหา หรือความหมายเท่านั้น แต่รวมถึงประสบการณ์ที่กรได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสร้างเพลงตั้งแต่ต้นจนจบ

“ผมได้เข้าไปซิทอินในสตูดิโอแทบทุกเซสชัน ตั้งแต่พี่ปกป้องเริ่มเคาะบีต ไปจนถึงการอัดเครื่องดนตรีสด ทั้งกลอง ทรัมเป็ต กีตาร์ ซึ่งต่างจากงานของ PROXIE ที่มักใช้วิธีการโปรดิวซ์แบบดิจิทัลมากกว่า”

การได้เรียนรู้เบื้องหลังเหล่านี้ไม่เพียงแต่ทำให้กรเข้าใจมากขึ้นถึงการทำเพลง แต่ยังทำให้เขารู้สึกว่า เพลงนี้เป็น “ของตัวเองจริง ๆ”

ไม่ใช่แค่เพลงรัก…แต่คือเพลงของตัวตน

‘ลอง’ อาจฟังดูเป็นเพลงที่มีความละมุน แต่แท้จริงแล้วเนื้อหาสะท้อนความคิดที่ลึกซึ้งและร่วมสมัย

“ในยุคนี้ ความสัมพันธ์มันเร็วมาก หลายคนรู้จักกันแค่ผิวเผิน ผมอยากให้เพลงนี้ชวนให้ทุกคนลองเปิดใจ แล้วเรียนรู้กันก่อนที่จะตัดสินกันครับ”

และแม้การร้องเพลงทั้งเพลงจะเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ โดยเฉพาะกับการต้อง “คราฟต์” ทุกท่อนด้วยตัวเอง—กรก็ถือว่านี่คือหนึ่งในประสบการณ์ที่ทำให้เขาเติบโตขึ้นในฐานะศิลปิน

สไตล์คืออีกภาษาของ ‘กร’

ในฐานะคนที่มีส่วนร่วมในการกำหนดสไตล์ของตัวเองใน MV เพลง ‘ลอง’ กรไม่ลืมที่จะใส่ความเป็นตัวเองลงไปอย่างเต็มที่

“ใน MV จะเห็นลุคเวสเทิร์นวินเทจ เสื้อเวสเทิร์นกับยีนส์ขาม้า แว่นวินเทจยุค ’70s รองเท้าเป็นบูท แล้วก็อีกลุคคือสูทกับดอกไม้ใหญ่ตรงอก เพราะผมชอบสูทมาก ๆ เลยครับ”

แม้ในชีวิตจริงและงานบนเวทีจะมีสไตลิสต์คอยดูแล แต่กรเล่าว่า ตอนนี้ทีมงานเข้าใจเขามากขึ้น และแฟชั่นของเขาก็เริ่มมีอัตลักษณ์ชัดเจนขึ้นทุกวัน

“ผมชอบเสื้อที่เล็กนิด ๆ แบบวินเทจ ส่วนกางเกงต้องใหญ่ ไม่ชอบขาเต่อ แล้วก็ชอบรองเท้าหนัง โลเฟอร์ บูท คือมีความชัดเจนในดีเทลครับ”

นาฬิกาวินเทจ & เสื้อสูท ’70s

ไอเทมที่กรไม่เคยลืมพกติดตัวคือ “นาฬิกาวินเทจหน้าปัดเล็ก” ที่แม้บางเรือนจะเป็นนาฬิกาผู้หญิง แต่กลับพอดีกับข้อมือของเขา ส่วนแบรนด์แฟชั่นที่สะท้อนตัวตนของกรที่สุด? เขาตอบทันทีว่า “Husband’s Paris”

“เป็นแบรนด์สูทจากฝรั่งเศสที่ผมรักมาก เขาอินสไปร์จากยุค 70 แบบปกใหญ่ ไหล่ตรง เนี้ยบแต่ไม่เว่อร์ เป็นแฟชั่นที่พูดด้วยตัวมันเอง”

“ผมหากางเกงใส่ยากครับ ด้วยความที่สูงและเอวเล็ก เลยต้องใส่ใจกับแพทเทิร์นเป็นพิเศษ”

เสริมให้ชัดเจนมากขึ้น “นึกภาพง่าย ๆ เลยครับ…อย่าง Harry Styles ผมว่าชัดเจนมากในเรื่องของความเฟมินีนและความเรโทร เขากล้าลองอะไรใหม่ ๆ แล้วมันเวิร์กหมด ล่าสุดผมอินกับ Bob Dylan มาก เพราะไปดูหนังที่ Timothée Chalamet เล่น แล้วรู้สึกว่า ‘เฮ้ย เท่จังวะ’ มันไม่ใช่แค่เสื้อผ้าที่เขาใส่ แต่เป็น attitude ของเขาเลย เดินลวงกระเป๋า หลังค่อมนิด ๆ ดูไม่ประดิษฐ์ แต่มันเท่มาก คือเขาเข้าใจในสไตล์ของตัวเองจริง ๆ อีกคนคือ Serge Gainsbourg ที่ผมชอบมาก เป็นคนฝรั่งเศสที่แบบ…โคตรมีสไตล์ ใส่สูทตัวเดิมทั้งชีวิต รองเท้าก็มีรุ่นเดียว แต่แค่นั้นก็กลายเป็น iconic look ไปเลย ผมว่าเท่แบบนี้ไม่ต้องเยอะ แต่ชัดมากครับ”

และแน่นอน ถ้าวันหนึ่งเขาได้มีโอกาสออกแบบคอลเล็กชันของตัวเอง กรอยากให้มัน “วินเทจแต่มีโมเดิร์นทวิสต์ และขอไม่เอาลายกราฟิกเยอะ ๆ ขอแบบแสบ ๆ ขำ ๆ แทน เช่น ‘I ❤️ guys’ หรือคำจิกกัดเล็ก ๆ แบบมีไอรอนนี” พร้อมตั้งชื่อคอลเล็กชั่นว่า “เรียบง่าย”

บทสรุปของกรวันนี้

ส่งท้ายก่อนลาด้วยคำบอกเล่าถึงเหล่า ‘User’ ที่คอยสนับสนุนเขาตลอด

“ก็บอก User เสมอเลยครับ ว่าผมรู้สึกดีใจมาก ๆ แล้วก็โชคดีมากที่ชีวิตหนึ่งได้มีโอกาสมายืนอยู่ตรงนี้ ได้รับความรักจากทุกคนขนาดนี้ ผมจะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดครับ และหวังว่าการที่ทุกคนเลือกมาสนับสนุนผม จะได้รับพลังดี ๆ กลับไปเหมือนกัน ได้กลับไปใช้ชีวิตของตัวเองอย่างเต็มที่และมีความสุขครับ ขอบคุณมาก ๆ และรักทุกคนครับ”

แล้วถ้าให้ฝากเพลง ‘ลอง’ ไว้กับแฟน ๆ ในประโยคเดียว กรขอพูด พร้อมรอยยิ้ม บวกลักยิ้มสะกดใจไว้ว่า “ขอบคุณที่ลองเปิดใจให้กันนะครับ หวังว่าเพลงนี้จะพาเราไปเจอความรู้สึกดี ๆ บางอย่างด้วยกัน”

‘ลอง’ ไม่ใช่แค่ซิงเกิลเปิดตัวของกรในฐานะศิลปินเดี่ยว แต่มันคือการประกาศว่าเขาพร้อมแล้วที่จะเป็นครีเอเตอร์ในทุกมิติ ทั้งในฐานะนักแต่งเพลง นักร้อง โปรดิวเซอร์ รวมถึงผู้มีวิชั่นด้านแฟชั่นที่น่าจับตาไม่แพ้ใครในวงการ

“ทุกอย่างในเพลงนี้ มันคือตัวผมจริง ๆ ทั้งเนื้อหา เมโลดี้ เสื้อผ้า และการเล่าเรื่อง ผมแค่อยากให้คนฟังได้รู้จักผมในมุมที่ลึกขึ้นอีกนิด ก่อนจะตัดสินใจว่า ‘กร’ คือใครครับ”

Similar Articles

More