อย่างที่ผมกล่าวในบทความก่อนหน้าว่าภาพรวมของ Milan Fashion Week ฤดูกาล Spring/Summer 2024 ที่เพิ่งจบไปหมาดๆ นั้น แฟชั่นเฮาส์หลายหลังที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานล้วนกลับไปหยิบผลงานชิ้นเลื่องชื่อในอดีตกลับมาตีความหรือปัดฝุ่นใหม่ อย่างในกรณี Gucci กับงานเดบิวต์ของ Sabato de Sarno (ซาบาโต เดอ ซาร์โน) ที่ตั้งใจนำชุดเด่นจากในภาพโฆษณาคอลเล็กชั่น spring/summer 1999 ของ Gucci ยุค Tom Ford (ทอม ฟอร์ด) กลับมาเกือบทั้งลุค เป็นเสื้อแขนกุดเอวลอยปักคริสตัลและพลอยหลากสี ใส่คู่กางเกงยีนส์เอวต่ำ ฟอกและสร้างรอยขาดวิ่นดูคล้ายยีนส์เก่าที่ผ่านการใช้งานมาอย่างหนัก เพิ่มดีเทลด้วยการปักลูกปัดหินสีสันสดใส นอกจากดูเด็กร่วมสมัยแล้ว คอลเล็กชั่นฤดูร้อนปี 1999 ของเฮาส์เก่าแก่อายุ 102 ปีหลังนี้ ยังน่าสนใจในแง่คุณค่าทางประวัติศาสตร์ เพราะเคยทำให้โลกต้องบันทึกว่า Gucci ได้ทำ ‘ยีนส์อุตสาหกรรมที่แพงที่สุดในโลก’ ออกมา
Gucci Spring/Summer 1999 โดย Tom Ford และ Gucci Spring/Summer 2024 โดย Sabato de Sarno
Tom Ford เคยให้สัมภาษณ์ที่ฟังดูแล้วอาจคิดว่าเขาทะนงตัว แต่เป็นเรื่องจริง “ผมไม่สนใจการทำโอตกูตูร์มากนักหรอก เพราะสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่ก็เทียบเท่ากับกูตูร์” – อดีตผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์แห่ง Gucci (ระหว่างปี 1994-2004) ได้ทำให้เราเห็น โดยเฉพาะกับช่วงปลายทศวรรษ 1990s จนถึงต้น 2000s ผลงานของ Gucci ช่วงเวลานั้นอัดแน่นด้วยรายละเอียดชนิดที่เมื่อลองพิจารณาให้ดีแล้วจะเห็นว่าหรูหราและประณีตเท่ากับชิ้นงานระดับกูตูร์อย่างที่เขากล่าวไว้จริงๆ อย่างยีนส์ที่เคยไต่ขึ้นไปครองสถานะของยีนส์ในระบบอุตสาหกรรมเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่แพงที่สุดในโลก ถูกบันทึกโดย Guinness World Records ที่แม้แต่นิตยสารไทยซึ่งไม่ใช่นิตยสารแฟชั่นโดยตรงหลายเจ้าต่างก็ลงข่าวด้วยความตื่นเต้น เพราะราคาของมันเฉลี่ยอยู่ที่ $3,xxx โดยตัวที่ราคาสูงสุดคือ $3,134 เลยทีเดียว! ซึ่งราคานี้ก็ไม่ใช่ว่าจะเอามาคูณเรต 33-35 อย่างในปัจจุบัน เพราะเวลานั้นประเทศไทยเพิ่งเผชิญกับวิกฤตต้มยํากุ้ง จึงต้องคูณราวๆ 45-50 กลายเป็นราคาสำหรับกางเกงยีนส์หนึ่งตัวเมื่อ 24 ปีก่อน ยุคที่ยังมีลูกอม 3 เม็ดบาท ขนมซองละ 5 บาท และก๋วยเตี๋ยวชามละ 20-25 บาท
Gucci Spring/Summer 1999 โดย Tom Ford และ Rihanna
สาเหตุที่ทำให้ราคาสูงขนาดนั้นเพราะกางเกงยีนส์ในคอลเล็กชั่นนี้ใช้เทคนิคการทรีตให้ได้ผิวสัมผัสเหมือนยีนส์ที่เก่าจริง และด้วยแรงบันดาลใจในการออกแบบผลงานที่อิงกลิ่นอายของเหล่าบุปผาชน Tom Ford จึงเลือกใช้ลูกปัดสั่งทำพิเศษจากแอฟริกา ทั้งลูกปัดขนาดเล็ก คริสตัล เลื่อม และขนนกถูกนำมาปักด้วยความประณีตเทียบเท่างานระดับกูตูร์อย่างที่เขาเคลมไว้ และแม้ว่าเป็นคอลเล็กชั่นเสื้อสำเร็จรูปแต่ก็ผลิตออกมาจำนวนไม่มากนัก จึงเป็นที่มาของค่าตัวที่ไต่อันดับขึ้นเป็น (อดีต) กางเกงยีนส์อุตสากรรมที่แพงที่สุดในโลก และยังถือเป็นยีนส์ของ Gucci ที่นักสะสมวินเทจแฟชั่นไอเท็ม หรือผู้ที่ชื่นชมผลงานในอดีตของ Tom Ford ยังตามล่าหามาครอบครองจนปัจจุบัน