Words: Yanaphat A.
จากหนุ่มน้อย ‘หวังเจิ้งฉง’ หรือ Oscar Wang เด็กชายผู้เติบโตในเมืองเซาเปาโล ประเทศบราซิล สู่ไอดอลฝึกหัดผู้ใฝ่ฝันจะเป็นศิลปินในเกาหลี ก่อนหวนคืนสู่รากเหง้าเพื่อร่วมแข่งขันในรายการเซอร์ไววัลจีนค้นหาไอดอลอย่าง Chuang 2021 จนเป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชีย และจนถึงวันนี้ที่เขาก้าวสู่เวทีในฐานะศิลปินดาวรุ่งที่เปล่งประกายแห่งวงการจีนในชื่อ Øzcar Wang ก็ไม่มีวันใดที่เขาคนนี้จะหยุดไล่ตามความฝัน เพราะเป้าหมายของเขามีเพียงแค่การมุ่งไปข้างหน้า เพื่อให้ไปถึงคำว่า ‘ศิลปินระดับโลก’
ในปัจจุบัน ‘ออสการ์ หวัง’ ศิลปินหนุ่มผมบลอนด์มาดเท่วัย 26 ปีจากเมืองเฉิงตูคนนี้เป็นที่รู้จักมากขึ้นทั้งในไทยและเอเชีย เพราะเขาเป็นทั้งไอดอลหนุ่มหล่อมากคาริสม่าของสาวๆ เป็นแร็พเปอร์ผู้หลงใหลเพลงฮิปฮอป เป็นศิลปินไฟแรงที่มีแพสชั่นทำเพลงเต็มเปี่ยม รวมทั้งเป็นแฟชั่นนิสต้าตัวพ่อผู้มาพร้อมกับแว่นสุดคูลและรอยสักที่มีเอกลักษณ์ ซึ่งไม่ว่าเขาจะอยู่ในบทบาทไหนๆ ก็ล้วนแต่ทำให้เราชื่นชอบตัวตนของเขาได้ไม่ยาก เพราะเขาคือผู้ชายที่มุ่งมั่นกับชีวิตอย่างแท้จริง
วันนี้เขากลับมาเยือนเมืองไทยอีกครั้งหลังจากมาพบปะแฟนๆ ในแฟนมีตติ้งเมื่อปีก่อน แต่ครั้งนี้พิเศษยิ่งขึ้น เมื่อเขาแวะมาพูดคุยถึงเรื่องราวชีวิตบนเส้นทางการเป็นศิลปินกับเราในหลายแง่มุม ไม่ว่าจะเป็นมุมของคนรุ่นใหม่ที่เติบโตท่ามกลางหลากหลายวัฒนธรรม แรงบันดาลใจตลอดกาลของเขา การฝึกซ้อมเพื่อเป็นไอดอล การตัดสินใจเซ็นสัญญากับต้นสังกัด RYCE Entertainment ในฐานะศิลปินเดี่ยว รวมไปถึงการตามหาเป้าหมายของ ‘ออสการ์ หวัง’ ในวัย 30 ปีเช่นเดียวกัน
คุณเกิดและเติบโตในบราซิล ต่อมาไปเทรนเป็นเด็กฝึกที่เกาหลี แล้วก็มาเริ่มต้นชีวิตศิลปินที่จีนเต็มตัว วัฒนธรรมที่หลากหลายส่งผลต่อวิถีชีวิตในฐานะศิลปินอย่างไร?
ผมได้รับประสบการณ์ในชีวิตเยอะมาก ทั้งมีโอกาสเรียนหลายภาษาและเรียนรู้วัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ผมอาจลืมภาษาโปรตุเกสไปบ้างแล้ว แต่ประสบการณ์ชีวิตหลายรูปแบบช่วยผมในแง่การเขียนเพลงต่างๆ ผมคิดว่ามันทำให้งานของผมมีความเฉพาะตัว ซึ่งมันค่อนข้างสำคัญสำหรับการเป็นศิลปินนะ
ใครคือแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการเป็นศิลปิน?
ผมมีไอดอลที่ชื่นชอบหลายคน แต่ถ้าหากต้องเลือกสักคนก็ต้องเป็น G-Dragon เพราะเขาคือคนที่ทำให้ผมตัดสินใจที่เป็นเด็กฝึกเพื่อจะเดบิวต์เป็นศิลปินแบบเขา จีดราก้อนไม่ได้เป็นแค่ไอดอล แต่เขาเป็นนักดนตรีด้วย เขาเขียนเพลงเอง ซึ่งผมก็อยากจะเป็นแบบนั้นให้ได้
คุณเป็นที่รู้จักจากรายการเซอร์ไววัล Chuang 2021 อะไรที่เป็นสิ่งที่ท้าทายที่สุดในงานนี้?
ในตอนแรกผมไม่อยากไปแข่งสักเท่าไร ผมค่อนข้างเหนื่อยกับชีวิตเด็กฝึกที่ต้องแข่งขันและออดิชั่นกับคนมากมายแล้วก็บอกว่าตัวเองนี่แหละเป็นที่หนึ่ง แต่ผู้จัดการของผมก็คุยกับผมเยอะมาก จนสุดท้ายผมก็มองว่ามันเป็นโอกาสที่ดีและควรจะลองดู แล้วในรายการมันมีครั้งหนึ่งที่เราต้องทำโชว์ 2 เวที แต่เรามีเวลาซ้อมแค่ 4 วัน มันเหนื่อยมาก นั่นคงเป็นสิ่งที่ท้าทายที่สุดเลย
การร่วมรายการนี้ให้อะไรกับคุณ มันส่งผลต่อวิถีการเป็นศิลปินของคุณไหม?
หลังจากร่วมรายการก็มีคนรู้จักผมเยอะขึ้น ยิ่งโดยเฉพาะกับ Answer ชาวไทย (ชื่อแฟนคลับ) ก็รู้จักผม แต่พอรายการจบพักใหญ่ก็ต้องบอกว่ามันก็ค่อนข้างลำบาก เพราะในรายการเราซ้อมเพื่อขึ้นเวทีแล้วก็แสดง แต่โลกภายนอกมันไม่มีเวทีแบบนั้นแล้ว เหมือนจะเป็นการโฟกัสกับชีวิตของคนดังมากกว่า ซึ่งที่ผ่านมาชีวิตผมมีแค่เพียงการซ้อมและโชว์ พอมันจบลง มันก็มีจังหวะหนึ่งที่ผมก็ค่อนข้างรู้สึกว่างเปล่าบ้างอยู่เหมือนกัน
คุณก้าวต่อไปด้วยการเป็นศิลปินกับ RYCE Entertainment อะไรที่ทำให้คุณตัดสินใจเลือกที่นี่?
ผมไม่อยากพูดว่าผมประสบความสำเร็จมากนัก ผมยังพยายามที่จะก้าวต่อไปอยู่เสมอ ซึ่งการที่ผมเลือกที่นี่เป็นเพราะเห็นว่าพวกเขาเป็นค่ายระดับโลก ผมอยากจะเป็นศิลปินที่เป็นที่รู้จักในวงกว้างและไม่อยากจำกัดตัวเองไว้แค่ในจีนเท่านั้น อยากจะออกไปท่องโลกข้างนอกเพื่อดูว่าต่อไปชีวิตศิลปินของผมจะเป็นอย่างไร
ปีก่อนคุณเลือกมาจัดแฟนมีตติ้งวันเกิดที่เมืองไทยเป็นครั้งแรก ทั้งยังร่วมงานกับ Wonderframe ส่วนปีนี้คุณมางานเทศกาลดนตรี bondbond Music Mania ร่วมกับเป็นศิลปินไทยหลายคน ทำไมถึงเป็นที่นี่ และคุณอยากจะร่วมงานกับศิลปินไทยอีกไหม?
ผมมีอานเซอร์ชาวไทยรออยู่ที่นี่ ผมรักเมืองไทยด้วย ทำไมผมจะไม่มาล่ะ จริงไหม แล้ววันก่อนก็มีทำเพลงกับศิลปินคนไทย เขาชื่อไดร์ม่อน (ไดร์ม่อน ณรกร) เราเอาเพลงมารีมิกซ์กันเล็กน้อย แล้วก็ถ่ายวิดีโอเจ๋งๆ ด้วยกัน สนุกดี
คำไทยที่เรียนล่าสุด?
ผมเพิ่งรู้จักคำว่า “น้องหมี” (หมีในภาษาจีนพ้องกับคำว่า ฉง) มันเป็นชื่อเล่นของผม แล้วก็รู้จักคำว่า “สวัสดีครับ (ยกมือไหว้) ผมชื่อออสการ์น้องหมีครับ ขอบคุณครับ”
ถ้ามีเวลาว่างในไทย อยากจะทำอะไรมากที่สุด?
ครั้งนี้ตารางงานค่อนข้างแน่น แต่ถ้าว่างอยากไปเที่ยวทะเลภูเก็ต นอนชิลสบายๆ ที่ชายหาด ดูวิวท้องทะเลกว้างใหญ่ ถ้าอยู่นานมากพอก็อยากจะทำเพลงสักหน่อย แล้วก็พาเพื่อนและพาทีมโปรดิวเซอร์เพลงมาด้วย แต่นั่นคงจะใช้เงินเยอะเลย คงดีมากถ้าได้ทำ (หัวเราะ)
ถ่ายทำแฟชั่นเซ็ตวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง?
มันดีมากเลย ถือเป็นประสบการณ์ที่แตกต่างไปอีกแบบ เสื้อผ้าก็เท่มาก ทุกคนก็คูลมาก เราลองทำอะไรหลายอย่างสนุกๆ ด้วยกัน ไม่ใช่แค่ทำงานๆ อย่างเดียว แล้วเราก็คุยกัน สื่อสารกันว่าอยากได้ภาพแบบไหนเพื่อหาจังหวะที่ดีที่สุด ผมชอบนะ เป็นประสบการณ์ที่ดี อยากจะลองทำอีก
เป้าหมายต่อไปของ ‘ออสการ์ หวัง’ ในวัย 30 ปี?
ผมในวัย 30 เหรอ ผมอยากจะทำงานหาเงินได้มากๆ มีเงินและมีเวลาอยู่กับครอบครัว จริงๆ ครอบครัวผมไม่ได้ต้องการเงินหรืออะไรจากผม แต่ผมแค่อยากจะตอบแทนพวกเขา เพราะมันคงเป็นเรื่องยากที่พวกเขาเลี้ยงดูผมมาตลอด และผมก็อยากจะเป็นศิลปินทำเพลงต่อไปเรื่อยๆ แล้วก็อะไรอีกดีนะ (นึกคิด) ขอแค่มีความสุข มีสุขภาพแข็งแรง
Videographer: Ketsara Leecharoen
Video Editor: Amree Hayilateh
Stylist: Khanakon Phettrakul
Hair and Makeup: 小柒 (Seven)