ตอนนี้หนึ่งในนักแสดงหนุ่มจากเกาหลีใต้ที่ฮอตที่สุดคงหนีไม่พ้นหนุ่ม นาอินอู เจ้าของบทบาท ยูจีฮยอก จากซีรีส์เรื่อง Marry My Husband ที่ถ้าใครได้ดูจะรู้ว่าเขาดูสุขุมและโตมากๆ ซึ่งห่างจากตัวตนจริงๆ ของเขามาก วันนี้เราเลยอยากชวนเขามาพูดคุยในฐานะนักแสดงเจ้าบทบาทที่คว้าใจสาวๆ ทั่วโลกจากบทบาทนี้ รวมไปถึงพูดคุยถึงตัวตนและชีวิตของเขาหลังกล้อง ไปดูกันดีกว่า ELLE MEN Voices ประจำเดือนพฤษภาคมของเราจะมีทัศนคติอย่างไร เลื่อนไปอ่านบทสัมภาษณ์ได้เลย!

คุณเคยพูดไว้ในบทสัมภาษณ์หนึ่งว่า “ผมเป็นคนที่ไม่มีแอกโย (แอ๊บแบ๊ว)” ใช่ไหม
ผมไม่มีแอกโยจริง ๆ คนที่รู้จักผมจะรู้กันหมด เพราะผมเป็น ‘ลูกผู้ชาย’ เต็มตัวเลย
เสื้อยืดของคุณ (ที่สวมมาวันนี้) มีรูปวงเฮฟวีเมทัล สลิปน็อต (Slipknot) ซึ่งให้ความรู้สึกแข็งแกร่งมากทีเดียว และทำให้คุณดูเป็นลูกผู้ชายด้วย
ผมหยุดเล่นกีตาร์ไฟฟ้าไปหนึ่งปีหกเดือนเพราะงานยุ่ง แล้วเพิ่งหยิบออกมาเล่นอีกครั้งเมื่อสามวันก่อน เลยสวมเสื้อตัวนี้มาเป็นที่ระลึกครับ
คุณเป็นเจ้าของกีตาร์กิ๊บสัน เลส พอลใช่ไหม มันเป็นกีตาร์รุ่นที่ ‘สแลช’ มือกีตาร์ของวงกันส์แอนด์โรสเซส (Guns N’ Roses) เคยเล่นด้วย
ผมเป็นแฟนคลับของเขาครับ ผมชอบเพลงแนวเมทัล แต่ถ้าฟังบ่อยเกินไปจะรู้สึกเบื่อ เวลาเบื่อผมจะเปลี่ยนแนวหันไปฟังฮาร์ดร็อก ฟังก์ หรือบลูส์แทนสักพัก แต่สุดท้ายก็กลับมาฟังเมทัลอยู่ดี

เห็นว่าคุณมีงานอดิเรกเป็นการคอยสังเกตผู้คน มีคนไหนที่คุณจดจำได้บ้าง
ตอนผมขึ้นบันไดเลื่อนเพื่อจะไปขึ้นรถไฟใต้ดิน ตรงหน้ามีคู่รักคู่หนึ่งกำลังยืนหันหน้าเข้าหากันอยู่ จากจุดที่ผมยืนเป็นมุมที่มองเห็นหน้าของฝ่ายหญิงพอดี เธอยืนบนบันไดถัดลงไปขั้นหนึ่งแล้วแหงนหน้ามองแฟนจากข้างล่างพร้อมกับพูดจาเจื้อยแจ้ว ท่าทางแบบนั้นทั้งน่ารักและงดงามมาก ผมลืมสายตาของเธอไม่ได้เลย เหมือนฉากหนึ่งในภาพยนตร์เลยล่ะ
คุณเป็นคนอ่อนไหวเหมือนกันนะคะ
ใช่ ผมเป็นคนอ่อนไหวง่าย
คุณเป็นพวกที่ ‘อินจนเกินเหตุ’ ไหม
มากครับ คุณดูเรื่อง ‘Berlin’ ที่ออกมาเป็นภาคต่อของ ‘Money Heist’ หรือยัง การแสดงของนักแสดงทุกคนใน ‘Money Heist’ ก็โดดเด่นนะ แต่ในสายตาของผม ตัวละครชื่อ ‘เบอร์ลิน’ ตราตรึงใจที่สุด เพราะเขาดูเหงาที่สุด ไม่มีคำอธิบายเป็นรูปธรรมเกี่ยวกับเหตุผลที่ตัวละครตัวนี้เหงา แต่เพิ่งจะมีการพูดถึงอย่างจริงจังในเรื่อง ‘เบอร์ลิน’ ว่าทำไมเขาถึงโดดเดี่ยวและอ่อนแอ เรื่องนี้มี 8 อีพี ผมอินมากจนดูจบภายในวันเดียวเลย
ตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นมา คุณมีผลงานเรื่อง Mr.Queen, River Where the Moon Rises, Jinxed at First, Longing for You แล้วยังออกรายการวาไรตี้ 2 Days 1 Night ด้วย คุณได้รับพลังแบบไหนจากการใช้ชีวิตที่งานยุ่งติด ๆ กันแบบนี้
ผมคิดว่าไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ควรทำในระดับที่พอดีครับ เพราะถ้าพักนานเกินไปจะเริ่มขี้เกียจ แต่ถ้าวิ่งเร็วเกินไปก็จะเสียสุขภาพ ตอนนี้การถ่ายทำของผมจบลงหมดแล้วเลยสบาย ๆ ครับ

คุณกำลังได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจากบท ‘ยูจีฮยอก’ ในเรื่อง Marry My Husband ซึ่งเป็นคนแข็งกระด้างแต่ใสซื่อ แล้วยูจีฮยอกมีส่วนที่คล้ายกับนาอินอูมากแค่ไหน
แทบจะไม่มีส่วนที่คล้ายกันเลยนะครับ อ่อ มีอย่างหนึ่งคือนิสัยที่ถ้าได้หลงใหลอะไรแล้วจะทุ่มเทจนถึงที่สุด
อะไรคือสิ่งที่คุณหลงใหลแล้วทุ่มเทจนถึงที่สุด
เป็นเรื่องที่เล็กน้อยมาก ๆ อย่างเช่นผมไม่ใช่คนที่ชอบอ่านหนังสือสักเท่าไหร่ แต่ถ้ามีเล่มไหนที่เริ่มอ่านเพราะชอบก็จะไม่วางแล้วนั่งอ่านอย่างนั้นจนจบ กีตาร์ก็เหมือนกันครับ ต่อให้เป็นเพลงยาก ๆ ที่ความสามารถของผมไม่เอื้ออำนวย ผมก็ไม่ยอมแพ้แล้วตั้งหน้าตั้งตาซ้อมจนกว่าจะพอใจ ถึงจะมีความคิดว่าเหนื่อยมากและอยากล้มเลิก ผมก็ไม่เคยยอมแพ้ ไม่นานมานี้ผมลงวิ่งมาราธอน 10 กิโลเมตรกับพี่ชายด้วยความอยากรู้อยากเห็น ถึงเหนื่อยแทบตายแต่ผมก็วิ่งจนจบได้ในเวลา 50 นาทีกว่า ๆ
ทั้งที่เป็นการวิ่งมาราธอนครั้งแรก แต่วิ่ง 10 กิโลเมตรได้ในเวลา 50 นาทีกว่า ๆ ถือเป็นผลลัพธ์ที่เยี่ยมมากเลยไม่ใช่เหรอ
โธ่ ไม่หรอกครับ คนที่วิ่งเก่งมีเยอะมาก ผมเหนื่อยจนแทบจะอาเจียนเลย คิดจะล้มเลิกกลางทางด้วย แต่ด้วยนิสัยผมคงทำอย่างนั้นไม่ได้
ถ้าอย่างนั้นจุดที่แตกต่างกันระหว่างคุณกับยูจีฮยอกล่ะ
ความสามารถในการแสดงอารมณ์ร่วมของผมโดดเด่นกว่าเขาเยอะครับ ยูจีฮยอกเป็นตัวละครที่พยายามจะสร้างอารมณ์ร่วมขึ้นมาเพื่อ ‘คังจีวอน’ (รับบทโดย พัคมินยอง) แต่ผมเป็นคนที่มีอารมณ์ร่วมไปกับทุกคน ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นใคร
ถ้าคนอื่นไม่มีอารมณ์ร่วมไปด้วย คุณจะเสียใจไหม
ไม่ครับ ผมแค่คิดว่าอีกฝ่ายคงเป็นคนแบบนั้น เป็นคนที่ไม่เหมือนผม
คุณโฟกัสกับรายละเอียดแบบไหนในการถ่ายทอดความรู้สึกของยูจีฮยอกที่เฝ้ารอผู้หญิงคนหนึ่ง แต่สุดท้ายกลับเสียเธอไปและเพิ่งมานึกเสียใจเอาทีหลัง เลยตัดสินใจว่าจะปกป้องเธออีกครั้ง
ผมจะพยายามโน้มน้าวคนที่กำลังมองมาโดยใช้สายตาครับ สายตาและสีหน้าที่บ่งบอกว่าพยายามจะรับฟังเพิ่มขึ้นอีกหน่อย แม้ไม่เข้าใจคำพูดของคังจีวอนก็ตาม ผมโฟกัสอยู่กับการแสดงสายตาที่ออกมาได้เพราะผมรักจีวอน แล้วก็อยากแสดงความรับผิดชอบต่อตัวเธอ ผมอยากจะแบ่งแยกเรื่องราวและความรู้สึกทุกอย่างออกจากกัน แล้วแสดงออกมาให้ดูแตกต่างน่ะครับ

ฉากหรือการแสดงอารมณ์ที่ยากเป็นพิเศษคือตอนไหน
การกดความรู้สึกเป็นเรื่องยากครับ เพราะในเรื่อง Longing for You ผมเล่นเป็นตัวละครที่แสดงความรู้สึกออกมาตามตรง ตอนถ่ายทำเรื่อง Marry My Husband ช่วงแรกๆ ผมคิดหนักอยู่พักใหญ่เลย เพราะกลัวจะแสดงความรู้สึกออกมามากเกินไป
คุณเคยบอกว่าถ้าเรื่องไหนมีต้นฉบับ ก่อนถ่ายทำจะไม่ดูเลย
ใช่ครับ ผมยังไม่ได้อ่านเว็บตูนของเรื่องนี้ ก่อนถ่ายก็ดูแค่ภาพการ์ตูนต้นฉบับ
แล้วตอนเล่นภาพยนตร์เรื่อง Ditto (2022) ซึ่งเป็นฉบับรีเมกของ Ditto ที่ฉายในปี 2002 ล่ะ
เหมือนกันครับ ผมกลัวว่าจะเผลอเล่นตามความรู้สึกหรือคาแรกเตอร์ของต้นฉบับ แน่นอนว่ามีนักแสดงบางคนที่เล่นตามวิธีของต้นฉบับแล้วแสดงออกมาได้ดีกว่า แต่ผมทำแบบนั้นไม่ได้ เหมือนเวลาที่อยากชงอเมริกาโนสูตรเฉพาะของตัวเอง คือมีรสชาติกาแฟได้ แต่ก็อยากได้รสชาติที่สดชื่นแตกต่างออกไปด้วย เพราะแบบนั้นผมเลยปฏิบัติตัวเหมือนกำลังเผชิญหน้ากับตัวละครตัวใหม่เสมอ
ถ้าอย่างนั้นขั้นตอนวิเคราะห์ตัวละครของคุณคงจะละเอียดมาก
ตอนอ่านบทครั้งแรกผมอ่านช้านะ ผมอ่านทุกตัวหนังสือแล้วจินตนาการไปด้วย พอครุ่นคิดทุกฉากว่าตอนไหนจะต้องแสดงออกมายังไงเลยใช้เวลานาน พอทำอย่างนั้นซ้ำๆ 2 ครั้งหรือ 4 ครั้งก็จะเริ่มอ่านเร็วขึ้น ตอนนั้นถึงจะเริ่มขั้นตอนการวิเคราะห์อย่างจริงจังครับ ผมคอยคำนึงถึงปูมหลังที่หลากหลาย อย่างความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร สิ่งแวดล้อมไปด้วย แล้วก็คอยหาไอเดียในชีวิตประจำวันเพื่อถ่ายทอดออกมาอยู่เรื่อย ๆ มีบางครั้งที่ได้ไอเดียดี ๆ แต่ก็เครียดมากด้วยเพราะไม่หยุดคิดเลยตลอดช่วงถ่ายทำ
ถ้าให้พูดถึงภาพยนตร์ที่ชอบ
ผมชอบแอนิเมชั่นครับ เช่น Finding Nemo, Monster Inc., Toy story สองวันก่อนผมดู Monster Hotel เมื่อวานนี้ดู The Truman Show แต่เรื่องที่ดูเยอะที่สุดคือภาพยนตร์เรื่อง Sunflower ครับ ผมเคยพูดว่าอยากลองรับบทที่แสดงความรู้สึกออกมาตามตรง ไม่ปิดบังเลยเหมือน ‘โอแทชิก’ (รับบทโดย คิมแรวอน) ตอนนี้ก็ยังคิดเหมือนเดิมครับ

คุณเคยมีช่วงเวลาที่พยายามจะปกป้องอะไรบางอย่างเหมือนยูจีฮยอกไหม
ไม่มีครับ ผมเป็นคนประเภทที่ใช้ชีวิตแต่ละวันไปตามธรรมชาติมากกว่าจะคิดว่า ‘ต้องมุ่งไปสู่เป้าหมาย’ หรือ ‘ต้องปกป้องสิ่งนี้ไว้ให้ได้’ พอปล่อยชีวิตดำเนินไปเรื่อย ๆ เหมือนสายน้ำไหล รู้ตัวอีกทีก็พบว่าตัวเองเติบโตขึ้นอีกขั้นหนึ่งแล้ว ความบกพร่องที่เคยมองเห็นก็ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น ผมยังคงเติบโตอยู่เรื่อย ๆ ครับ และไม่ได้มีอะไรที่อยากปกป้องเป็นพิเศษ
ถ้าหากคุณได้ใช้ชีวิตเป็นครั้งที่ 2 โดยมีความทรงจำเดิมเหมือนคังจีวอนล่ะ
ต่อให้มีความทรงจำหลงเหลืออยู่ ชีวิตก็คงไม่ดำเนินไปตามความตั้งใจของเราหรอกครับ คงจะมีเรื่องที่ต้องคิดเยอะขึ้นด้วย เพราะรู้เหตุการณ์ทั้งหมดแล้ว น่าจะปวดหัวมากนะครับ คงไม่มีความใจเต้นรัว ความสนุกสนาน ความเพลิดเพลินใด ๆ เพราะสัมผัสความรู้สึกใหม่ ๆ ไม่ได้แล้ว ผมมักจะชอบสิ่งใหม่อยู่เสมอครับ! ผมไม่มีอดีตที่อยากกลับไปแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลง เป็นคนที่อยากปล่อยให้ชีวิตดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ ตามแบบที่เป็น
นาอินอูเมื่อ 10-20 ปีก่อนเป็นคนแบบไหน
คนอื่น ๆ บอกว่าผมในตอนนั้นเหมือนกับตอนนี้นะครับ เพื่อน ๆ มักจะพูดว่า “นี่ ทำไมนายถึงเหมือนเดิมได้ขนาดนี้เนี่ย” ตอนอายุ 10 กว่าๆ ผมชอบออกไปเดินเตร็ดเตร่ข้างนอก เคยเป็นคนกระปรี้กระเปร่าน่ะครับ แล้วผมก็ดันไปชอบเกมสตาร์คราฟต์เข้า เลยกลายมาเป็น ‘คนติดบ้าน’ ครับ (หัวเราะ)
เดี๋ยวนี้ก็ยังเป็นคนติดบ้านอยู่เหรอ
ครับ ตอนนี้ปิดกองพอดี ผมเลยเล่นเกม ออกกำลังกาย อ่านหนังสือ เล่นกีตาร์ รู้ไหมครับว่าสิ่งที่มีความสุขที่สุดคืออะไร มันคือการที่ไม่ต้องตั้งนาฬิกาปลุกก็ได้ (หัวเราะ) ไม่นานมานี้ผมมีวันที่นอนไปเกือบ 30 ชั่วโมงด้วย ผมเป็นคนนอนเยอะมาตั้งแต่เด็กครับ
นักแสดงที่เล่นคู่กันในผลงานส่วนใหญ่ของคุณจนถึงตอนนี้มักจะเป็น ‘พี่สาว’ คุณได้เรียนรู้อะไรจากพวกเธอบ้าง
ถ้าไม่นับเรื่องเกี่ยวกับการแสดง ผมก็ได้เรียนรู้เรื่องความอ่อนโยนครับ การเอาใจใส่คนอื่น ๆ การทุ่มเทจิตใจให้กับอีกฝ่าย เหมือนว่าผมจะได้เรียนรู้เรื่องพวกนี้มาจากพวกพี่สาวตั้งแต่เด็กเลยครับ
ตอนนี้ผ่านมานานแล้วนับตั้งแต่คุณเดบิวต์ในปี 2013 หากให้มองย้อนกลับไปคุณคิดถึงเรื่องอะไร
นี่เราทำดีแล้วหรือเปล่านะ คิดแล้วก็เหมือนจะทำพลาดด้วย แต่เวลาไม่ได้หยุดรีรอ ในขณะที่เวลาดำเนินไปคงมีทั้งช่วงที่ผมทำได้ดีและทำได้ไม่ดี แต่ก็คิดนะว่าจะมีเส้นทางที่ดีกว่านี้อีกหน่อยหรือเปล่า

คุณได้เรียนรู้อะไรจากในขั้นตอนนั้น
การฟัง ผมเรียนรู้มาตั้งแต่เด็กว่าการฟังสำคัญกว่าการพูด มันช่วยได้เยอะเลย ผมคิดว่าเราต้องรู้จักฟังเงียบ ๆ แทนที่จะดื้อดึงกับคนอื่นจนกว่าความคิดของตัวเองบรรลุวัตถุประสงค์ อ้อ แต่ก็มีบางครั้งที่ผมดื้อนะครับ
คุณได้เรียนรู้อะไรจากในขั้นตอนนั้น
ตอนที่นึกอยากจะลงมือทำอะไรบางอย่างเดี๋ยวนั้นเลย ไม่นานมานี้มีโทรศัพท์มือถือรุ่นที่ผมอยากได้ แต่ในโซลดันมีรุ่นนั้นเหลืออยู่แค่เครื่องเดียว ผมผลักงานที่ทำอยู่ออกไปหมดแล้ววิ่งไปด้วยความมุ่งมั่นว่าไม่ว่ายังไงก็ต้องเป็นเจ้าของโทรศัพท์เครื่องนั้นให้ได้ ผมดื้อเรื่องแบบนี้แหละครับ (หัวเราะ)
คุณดื้อกับเรื่องเล่นกีตาร์ด้วยใช่ไหม มีเพลงไหนที่อยากเล่นให้เก่งบ้าง
เพลง Duality ของสลิปน็อต ผมอยากอัปโหลดคลิปโคฟเวอร์ลงในอินสตาแกรมกลางเดือนกุมภาพันธ์ นั่นเป็นเพลงที่ผมชอบมาก
สิ่งที่คุณพยายามจะไม่ลืมคืออะไร
ถ้าลงมือทำจนถึงที่สุดก็จะเกิดผลลัพธ์เอง! วินาทีที่ล้มเลิก ความพยายามทั้งหมดจะหายวับไป แล้วกลายเป็นเรื่องสูญเปล่า ผมลงมือทำทุกอย่างให้ถึงที่สุดด้วยความคิดแบบนี้มาตลอดครับ เรื่องกีตาร์ก็เหมือนกัน ผมได้ฟังเพลง The Rose of Versailles เป็นครั้งแรกตอนเรียนมัธยมต้นซึ่งนั่นก็ 10 สิบปีมาแล้ว ผมเคยคิดว่ามันคงเป็นเพลงที่ไม่มีวันเล่นได้แน่ แต่ยังคอยซ้อมมาเรื่อย ๆ ทีละนิดจนสุดท้ายก็เล่นได้ครับ ดังนั้น แค่ลงมือทำให้ถึงที่สุดก็พอ!