แอลเมนเปิดบ้านต้อนรับ ต้า-นันคุน ภัคภัทรพรพบ, คอปเปอร์-ภูริวัจน์ โชติรัตนศักดิ์, เจเจ-ปฏิภาณ เฟื่องฟูนุวัฒน์, ฟูไอซ์-ธนวัตร ชินวัตร, มีโอ-เอเธนส์ วีรพัฒนกุล และบั๊ม-ภวัต อรรคเดชสกุล กลุ่มนักแสดงน้องใหม่จากสังกัด Be On Cloud ที่มาประชันบทบาทผ่านซีรีส์เรื่องล่าสุด เพื่อน ตาย – DFF (Dead Friend Forever) กับเรื่องราวปริศนาดำมืดของแก๊งเพื่อนกลุ่มหนึ่งที่รอการขุดคุ้ย อีกหนึ่งพล็อตน่าติดตามที่อยากชวนทุกคนมาร่วมค้นหาความจริงไปด้วยกัน
การรวมตัวกันของนักแสดงหน้าใหม่
มีโอ: พวกเราเข้ามาออดิชั่นกับ Be On Cloud โดยเริ่มจากการร่วมโปรเจกต์ The Hidden Character ผ่านการทำภารกิจด้วยกันมากมาย ไล่ตั้งแต่การหลอกเพื่อน การทำงานเป็นทีม รวมถึงได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะการแสดง เพื่อค้นหาผู้ชนะมารับบทนำในซีรีส์เรื่องใหม่ ซึ่งก็คือ เพื่อน ตาย – DFF (Dead Friend Forever) นั่นเองครับ
มีโอ สวมเสื้อฮู้ดและแจ็กเก็ต จาก ONITSUKA TIGER
เนื้อหาโดยสังเขปของ Dead Friend Forever
คอปเปอร์: Dead Friend Forever คือซีรีส์แนวใหม่ที่รวมทุกอารมณ์ทั้งดราม่าและระทึกขวัญ เล่าเรื่องราวของแก๊งเพื่อน 8 คน ประกอบด้วย พี (ต้า-นันคุน), จิน (คอปเปอร์-ภูริวัจน์), แทน (มีโอ-เอเธนส์), ไวท์ (ฟูไอซ์-ธนวัตร), ตี๋ (เจเจ-ปฏิภาณ), ปอ (อัส-นิติธร), ฟลุ้ค (บั๊ม-ภวัต) และ ท็อป (เจ็ท-เจษฎากร) พวกเขาเดินทางไปบ้านพักตากอากาศกลางหุบเขาเพื่อเลี้ยงส่ง ‘จิน’ ที่กำลังจะไปเรียนต่อต่างประเทศ ระหว่างนั้นได้รื้อฟื้นความหลังเมื่อครั้งสมัยมัธยม บรรยากาศกำลังดำเนินไปสนุกสนาน แต่พวกเขากลับพบว่ามีร่องรอยของบุคคลที่ 9 แอบซ่อนอยู่ในบ้าน ตามมาด้วยเหตุการณ์อันตรายมากมายที่ทำให้รู้ตัวว่านี่ไม่ใช่งานเลี้ยงฉลองธรรมดา แต่เป็นหายนะครั้งใหญ่ที่ทุกคนต้องเอาชีวิตรอดจากปริศนาในบ้านหลังนั้นให้ได้
คอปเปอร์ สวมเสื้อเท็กเจอร์ จาก TECHIN กางเกงหนังสังเคราะห์ จาก ADI
คาแรกเตอร์และแบ็กกราวด์ของตัวละคร
เจเจ: ผมรับบทเป็น ‘ตี๋’ เขาจะนิ่งๆ ไม่ค่อยพูด ไม่ค่อยแสดงออกว่าคิดอะไรอยู่ ภายนอกดูขรึม ห้าว มีอิทธิพลต่อเพื่อนๆ เหมือนเป็นหัวโจกของกลุ่ม เวลาใครจะทำอะไรก็ต้องมาถามความเห็นจากตี๋ก่อนว่าเขาจะเอาด้วยไหม ตัวค่อนข้างสูงใหญ่
เจเจ สวมเสื้อโปโลกระดุมเอียงและกางเกงขาสั้นจับจีบ จาก GREYHOUND ORIGINAL เสื้อกะลาสี จาก PATTRIC BOYLE
คอปเปอร์: ผมรับบทเป็น ‘จิน’ ตัวละครนี้ค่อนข้างเงียบขรึม ถือว่าพูดน้อยที่สุดในกลุ่ม อารมณ์อ่อนไหว ขี้สงสาร มีปมในอดีตอย่างหนึ่งซึ่งต้องติดตามจากซีรีส์เรื่องนี้ครับ
มีโอ: ผมรับบทเป็น ‘แทน’ เด็กธรรมดาคนหนึ่งที่มีโลกส่วนตัวสูง มองผิวเผินเหมือนเป็นคนง่ายๆ ในกลุ่มจะทำหน้าที่คอยเป็นคนไกล่เกลี่ยเพราะพื้นฐานเป็นคนจิตใจดี บ่อยครั้งที่เพื่อนๆ มักมองข้าม ไม่ค่อยให้ความสำคัญหรือใส่ใจว่าเขารู้สึกอย่างไร
ต้า: ผมรับบทเป็น ‘พี’ นิสัยเป็นผู้ใหญ่ มีเหตุผล มีความคิดโตกว่าเพื่อนรุ่นเดียวกัน ชอบจัดแจง บางครั้งก็มั่นใจในความคิดของตัวเองมากเกินไปจนทำให้เกิดความขัดแย้งกับเพื่อนๆ งานอดิเรกจะชอบถ่ายคลิปถ่ายวิดีโอ
ฟูไอซ์: ผมรับบทเป็น ‘ไวท์’ บุคลิกน่ารัก สดใส มองโลกในด้านบวก เป็นเด็กเรียน ชอบช่วยเหลือคนอื่น พอมาเจอตี๋ก็ได้เปิดโลก เรียนรู้การใช้ชีวิตในมุมมองใหม่ๆ
ฟูไอซ์ สวมแจ็กเก็ตและกางเกง จาก PATTRIC BOYLE สร้อยคอคริสตัลหลายสี จาก SWAROVSKI รองเท้าบูตหนังหัวตัด จาก ADI
บั๊ม: ผมรับบทเป็น ‘ฟลุ้ค’ ใฝ่ฝันอยากเป็นนักศึกษาแพทย์ พยายามสอบเข้ามหาวิทยาลัยอันดับต้นๆ ไม่ยึดติดกับอุดมการณ์ เห็นประโยชน์ของตัวเองสำคัญกว่าส่วนรวม ไม่อยากเป็นเด็กเนิร์ดที่โดนบูลลี่จึงจำเป็นต้องหาวิธีเอาตัวรอดด้วยการเข้ากลุ่มที่มีอิทธิพลในโรงเรียน แลกกับการให้เพื่อนลอกข้อสอบ เรียกว่าฉลาดในการเอาตัวรอดสุดๆ
จุดต่างระหว่างตัวละครกับตัวตนที่แท้จริง
เจเจ: จุดที่คล้ายกันคงเป็นเรื่องบุคลิกภายนอก ปกติผมจะดูนิ่ง เหมือนมีเรื่องเครียด แต่จริงๆ ไม่ได้คิดอะไรเลย แค่หน้านิ่งเฉยๆ แตกต่างจาก ‘ตี๋’ ที่มีเรื่องราวสะสมเยอะ สิ่งเหล่านั้นมันแสดงออกผ่านคาแรกเตอร์ชัดมาก ในขณะที่ความจริงผมเป็นคนตลก ชอบเฮฮา
มีโอ: ตัวตนของผมมีความคล้ายกับตัวละคร ‘แทน’ เป็นคนยิ้มง่าย ใจดี บางสถานการณ์อาจจะรู้สึกแย่แต่ก็ยิ้มไว้ก่อน
ต้า: บุคลิกภายนอกของ ‘พี’ มีลักษณะเป็นผู้นำ นิ่งขรึม แต่ภายในลึกๆ กลับต้องการความรักและความเข้าใจจากผู้อื่น รู้สึกอย่างไรอาจไม่ได้แสดงออกออกไปอย่างนั้น จุดนี้จะคล้ายกับผม ส่วนที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดคือผมเป็นคนกวนๆ และขี้เล่นมากกว่า
ต้า สวมเสื้อกล้ามสวมทับด้วยเทรนช์โค้ต จาก PAINKILLER กางเกงพิมพ์ลาย จาก ADI เครื่องประดับ จาก JITTRAKARN
ฟูไอซ์: เรามีบุคลิกที่สดใสร่าเริงเหมือนกัน แต่ไวท์จะมองโลกในแง่ดีเกินไป ในขณะที่ผมมักยึดเอาความถูกต้องไว้ก่อน ทำอะไรตามตรรกะเสมอ
บั๊ม: ถ้าในกลุ่มมีเรื่องกันผมจะไม่ใช่คนออกหน้า แต่จะคอยสังเกตการณ์อยู่ข้างหลังเหมือนกับตัวละคร ‘ฟลุ้ค’ ส่วนเรื่องที่ต่างกับความเป็นจริงคือผมเรียนนิเทศฯ ไม่ได้คิดอยากเป็นหมอเลยครับ
บั๊ม สวมเสื้อเชิ้ตลายทางสวมทับด้วยเสื้อสูทลายทาง และกางเกงลายทาง จาก PATTRIC BOYLE
ประสบการณ์การทำงานร่วมกับสองผู้กำกับดัง มะเดี่ยว-ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล และตั๊ก-ฉันทนา ทิพย์ประชาติ
เจเจ: ผมเคยเข้าใจว่าศาสตร์การแสดงต้องการความเป็นธรรมชาติ แต่พี่มะเดี่ยวช่วยปรับมายด์เซ็ตว่าการเล่นให้เป็นธรรมชาติจะเหมาะกับภาพยนตร์ แต่ถ้าเป็นซีรีส์จะต้องการแอ็กติ้งที่คมชัดเพื่อให้เห็นดีเทลมากขึ้น ช่วงแรกจะเกร็งมาก พอเริ่มสนิทใจกับทีมงานก็ทำออกมาได้ดีกว่าเดิม
คอปเปอร์: ผมเป็นคนตาแข็ง ทำให้การแสดงดูไร้อารมณ์ พี่มะเดี่ยวเลยสั่งการบ้านให้ผมกลับไปฝึกแสดงสีหน้ากับกระจกทุกวัน ลองยิ้ม 10 แบบ แล้ววิเคราะห์ว่ายิ้มแต่ละแบบสามารถใช้กับสถานการณ์ไหนได้บ้าง ส่วนพี่ตั๊กจะคอยดึงอารมณ์ให้ต่อเนื่อง
คอปเปอร์ สวมเสื้อเข้ารูปมีฮู้ด จาก MARC JACOBS ตุ้มหูและเครื่องประดับใบหน้า จาก JITTRAKARN
มีโอ: ผมจะคลุกคลีกับพี่ตั๊กมากกว่า พี่ตั๊กเป็นคนที่คอยพุชเรื่องอารมณ์ อย่างซีนไหนต้องร้องไห้แล้วผมดันทำไม่ได้ เขาจะมีวิธีบิลด์เราให้ร้องออกมาตอนนั้นเลย ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ ยกกองไปถ่ายกันในป่าตั้งแต่ตีห้ายันเที่ยงคืน
ต้า: พี่มะเดี่ยวจะช่วยคอนโทรลภาพรวม ในขณะที่พี่ตั๊กจะเน้นงานกำกับการแสดง ตอนพวกเราเวิร์กช็อปกันก็ช่วยสอนเรื่องการใช้แววตา เป็นดีเทลเล็กๆ น้อยๆ ที่ช่วยให้ทักษะการแสดงของเราดีขึ้นจากเรื่องแรก
บั๊ม: พี่ทั้งสองคนมีความเป็นมืออาชีพจริง ๆ พวกเขาจะคอยคอมเมนต์ว่าควรปรับตรงไหนเพื่อให้แสดงอารมณ์ออกมาได้เต็มที่ หรือแม้แต่การพูดที่ผมไม่เคยสังเกตตัวเองมาก่อนว่าชอบพูดในลำคอ ไม่ค่อยเปิดปาก ดูเหมือนงึมงำอยู่ตลอดเวลา พอลองแก้จุดนั้นก็ช่วยเรื่องบุคลิกภาพได้ด้วย
สิ่งสำคัญของการเป็นนักแสดง
เจเจ: วินัยคือสิ่งสำคัญ ขยันอ่านบท ขยันทำการบ้าน อย่าหลงตัวเอง เมื่อได้รับมอบหมายให้ทำอะไรก็ควรทำให้เต็มที่ อย่างเรื่องนี้มีซีนถอดเสื้อ ผมได้รับโจทย์ให้ไปฟิตหุ่น พอทราบแล้วก็ไม่รอช้า รีบเสิร์ชหาอินสไปเรชั่นจากนักแสดงต่างประเทศว่าเขาทำยังไง เขาใช้วิธีไหน จากนั้นจัดตารางออกกำลังกาย 4 วันต่อสัปดาห์ คาร์ดิโอ 700 นาทีต่อสัปดาห์ ตื่นเช้ามาทำอาหารเอง ควบคุมปริมาณแคลอรี ทำต่อเนื่องประมาณ 2 เดือนครับกว่าจะได้บอดี้ที่ลีนจนสมบทบาท
เจเจ สวมเสื้อผ้าโปร่ง กางเกงเอวซ้อนเอว และรองเท้าบูต จาก ONITSUKA TIGER เสื้อคลุมตัวยาว จาก GREYHOUND ORIGINAL
ความท้าทายสำหรับการถ่ายทำ
คอปเปอร์: ในส่วนของผมจะเป็นพาร์ตการแสดงอารมณ์ กว่าจะบิลด์ตัวเองให้โกรธ เศร้า ฟูมฟาย กว่าจะเข้าถึงอารมณ์เหล่านั้นได้ต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน
มีโอ: ความท้าทายคือการท่องจำบทให้เป๊ะตรงตามไดอะล็อกซึ่งถือว่ายากมากสำหรับผม อาจเพราะเป็นการแสดงซีรีส์เรื่องแรกด้วยมั้ง ยังไม่ค่อยมีทริกในการจดจำมากนัก แต่หลังจากได้บทมาอ่านแล้วก็กลับไปทำการบ้านเพิ่มเติมนะครับ มีการออกแบบตัวละคร ลองจินตนาการว่าถ้าหากเรามีพ่อแม่แบบนี้ พื้นเพครอบครัวเป็นแบบนี้ เราควรจะถ่ายทอดออกมาอย่างไร
ต้า: สำหรับผมเป็นการเล่นซีรีส์เรื่องที่สองแล้ว ถือเป็นความท้าทายอีกขั้นเพราะตัวละครนี้มีหลายมิติที่ต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจ
ฟูไอซ์: บทที่ได้รับถือว่าค่อนข้างไกลตัว ต้องใช้เวลานานในการปรับจูนเพื่อให้เข้าถึงตัวละคร ‘ไวท์’ เพราะเขาค่อนข้างห่วงหล่อและอยากดูดีในสายตาคนอื่นเสมอ
บั๊ม: เวลาเล่นซีนอารมณ์ยากๆ จะรู้สึกกดดันมากถ้าเราถ่ายหลายเทก เล่นไม่ได้ซะที
บั๊ม สวมแจ็กเก็ตกระดุมแถว จาก ONITSUKA TIGER แหวน จาก JITTRAKARN
หลังจากจบโปรเจกต์เห็นพัฒนาการตัวเองอย่างไร
คอปเปอร์: ส่วนตัวคิดว่าพัฒนาหลายด้าน เริ่มตั้งแต่การวางแผนชีวิต การจัดตารางงานในแต่ละวัน รวมถึงการวางตัวให้เหมาะสม นอกจากนี้ยังได้เจอมิตรภาพดีๆ ได้เจอคนใหม่ๆ ได้เพิ่มประสบการณ์ ได้ปลดล็อกขีดความสามารถให้ตัวเอง
มีโอ: จากตอนแรกที่เข้าไม่ถึงศาสตร์การแสดงเลย พอถ่ายทำไประยะหนึ่งก็สังเกตว่าตัวเองมีความ emotional มากขึ้น คิดว่าการแสดงคงมีส่วนทำให้เราปลดล็อกทางอารมณ์และความรู้สึก ซึ่งเป็นประโยชน์มากสำหรับสาขาอาชีพนี้
มีโอ สวมเสื้อเชิ้ตหนังสังเคราะห์ จาก ADI แจ็กเก็ตเดนิม จาก GREYHOUND ORIGINAL
ต้า: หลังจากจบโปรเจกต์นี้ผมคิดว่าตัวเองสามารถทลายกำแพงได้พอสมควร สามารถทำพาร์ตของตัวเองให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ใส่ให้สุดทุกซีน ไม่ต้องสนว่ามันจะน่าอายหรือเปล่า รับฟังฟีดแบ็กแล้วนำมาปรับปรุง
บั๊ม: ก่อนหน้านี้ผมร้องเพลงอย่างเดียว ในส่วนของทักษะการแสดงจากวันแรกที่เริ่มมาจากศูนย์ ตอนนี้ผมให้คะแนนตัวเอง 10/10 เลยครับ (หัวเราะ)
ฟูไอซ์: หุ่มเฟิร์มขึ้นครับ (หัวเราะ) ก่อนจะเริ่มถ่ายทำผมเป็นคนค่อนข้างเจ้าเนื้อ ต้องใช้เวลาเตรียมตัวหนึ่งเดือนเพื่อลดน้ำหนัก ถือเป็นความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัด ทักษะการแสดงก็ดีขึ้น
นอกจากความบันเทิงต้องการส่งสารอะไรให้คนดูอีกไหม
ต้า: ด้วยความที่แต่ละคนมีเหตุผลซัปพอร์ตการกระทำของตัวเอง จะทำให้คุณเข้าใจโลกและมองมนุษย์ด้วยสายตาที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ต้า สวมแจ็กเก็ตแขนกุด จาก RENIM PROJECT
เรียนรู้อะไรจากเรื่องราวใน Dead Friend Forever
เจเจ: เราไม่ควรตัดสินใครจากภายนอก ยกตัวอย่างในกรณีของตี๋แล้วกันครับ ภายนอกเขาอาจดูเป็นคนไม่ดี แต่ถ้ารู้ถึงแบ็กกราวด์จะทำให้เข้าใจว่าเหตุใดเขาถึงเลือกทำแบบนั้น
คอปเปอร์: การใช้อารมณ์ชั่ววูบอาจทำให้ชีวิตของเราเปลี่ยนไปในข้ามคืน
มีโอ: ในมุมของมิตรภาพ ลองเผื่อใจไว้บ้างก็ดีนะครับ (ยิ้ม)
นิยามคำว่า ‘เพื่อน’ ในแบบที่ต้องการ
ฟูไอซ์: คนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ สามารถเป็นเซฟโซนให้กันและกัน พร้อมรับฟังคำอธิบายจากเราโดยไม่ด่วนตัดสิน คอยอยู่เคียงข้างกัน คอยให้คำปรึกษากัน ไม่ทิ้งกันในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ถ้าเจอเพื่อนแบบนี้ถือว่าโชคดีมากเลย
ฟูไอซ์ สวมเสื้อกล้าม จาก PAINKILLER สวมทับด้วยแจ็กเก็ตพิมพ์ลาย จาก MARC JACOBS สร้อยคอจาก SWAROVSKI ตัวเกี่ยวหู จาก JITTRAKARN
Fashion Editor: Ratchakrit Chalermsan
Makeup: Wallaya Tipvannaporn, Jidapa Mogmued
Hair: Jatupong Chumjam, Ruttasak Wiriyayutama
Style Assistant: Dulyadej Sangfueng
Photo Assistant: Supasit Sooksawat, Penpetch Petchphloy
Fashion Intern: Pittayut Uasawaengboon