Photos: Courtesy of Tan-staR
ชวนสำรวจที่มาที่ไปและแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานของศิลปินรุ่นใหม่ Tan-staR หรือ แทน-ภูริณัฐ ก๋าใจ นักวาดภาพแอนิเมชั่นผู้มีลายเส้นเป็นเอกลักษณ์ เข้าถึงคนทุกเพศทุกวัยด้วยพาเลตต์สีสันสดใส ซึ่งแอลเมนยกให้เขาเป็นอาร์ติสท์ที่น่าจับตามองในช่วงเวลานี้
จุดเริ่มต้นที่ทําให้แทนเข้าสู่โลกของการวาดแอนิเมชั่น


แรงบันดาลใจแรกที่ทำให้อยากทำงานเกี่ยวกับการทำแอนิเมชั่น การวาดรูป หรืออะไรก็ตามที่เกี่ยวกับการ์ตูน มาจากวัยเด็กของเราที่มักจะคลุกคลีอยู่กับการ์ตูนทีวี หนังสือนิทาน หรือของเล่นรอบๆ ตัว ไม่ต่างจากเด็กคนอื่นๆ ที่มักจะชอบสิ่งเหล่านี้เหมือนกัน เพียงแต่เราดันสนใจมันมากถึงขนาดแม้เวลาที่ไม่ได้ดูการ์ตูนหรือเล่นของเล่น ก็มักจะวาดสิ่งที่อยากดูและสิ่งที่อยากเล่นลงบนกระดาษจนติดเป็นนิสัย
พอเริ่มโตขึ้นมาหน่อยก็ได้ดูสื่อแอนิเมชั่นมากขึ้นจากแผ่น DVD ซึ่งหลายๆ เรื่องมักจะมีเบื้องหลังการสร้างแถมมาด้วย ตอนนั้นเรากดเข้าไปดูด้วยความอยากรู้ พอได้เห็นวิธีการสร้างภาพการ์ตูนก็ยิ่งเปิดโลก จากเดิมที่ชอบวาดรูปอยู่แล้วจึงเริ่มฝึกทำแอนิเมชั่นด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ช่วงเรียนอยู่มัธยมต้นก็มีโอกาสทำผลงานส่งประกวดทำแอนิเมชั่นในหัวข้อต่างๆ จนกระทั่งได้รางวัลชนะเลิศครั้งแรก นั่นยิ่งทำให้เรามีไฟในการเรียนรู้ส่ิงนี้มากขึ้น หลังจากนั้นก็ทำมันมาเรื่อยๆ จนเรียนจบและเลือกเรียนสายดิจิทัลอาร์ต ตอนนี้ก็ยังสนุกกับการได้ทำลองอะไรใหม่ๆ ในงานสายนี้มาจนถึงปัจุบัน
นิยามสไตล์ผลงานของ Tan-staR แบบสั้นๆ

สไตล์งานเราน่าจะเรียกว่า ‘น่ารักแบบเขรอะๆ’
ทุกวันนี้แทนใช้เครื่องมืออะไรในการสร้างสรรค์ผลงาน


ปัจจุบันเราใช้ไอแพดในการวาดงานดิจิตอลทั้งหมด สำหรับแอพฯ ที่ใช้ก็จะมี Procreate, ToonSquid ซึ่งเหมาะทั้งสำหรับงานวาดและงานแอนิเมชั่น เหตุผลที่เลือกใช้ไอแพดเพราะเราชอบความสะดวกและความเร็วในการประมวลผล ถึงแม้ไม่ใช่คอมพิวเตอร์ แต่มีเครื่องมืออำนวยความสะดวกมากพอที่เอื้อให้เราสามารถทำงานที่ต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในฐานะศิลปินที่ใช้ iPad เป็นเครื่องมือหลัก รู้สึกว่าไอแพดช่วยส่งเสริมกระบวนการสร้างสรรค์งานอย่างไรบ้าง

ด้วยความที่ไอแพดเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยลดทอนขั้นตอนและใช้งานง่ายอยู่แล้ว ทำให้สไตล์งานของเรามีการปรับเปลี่ยนและพัฒนาตามไปด้วยหลังจากใช้ไอแพดมานาน ซึ่งเราชอบสไตล์ที่ทำอยู่ในตอนนี้มากๆ และด้วยลักษณะของแอพฯ ส่วนใหญ่ที่มักจะชูเครื่องมือที่จำเป็นและเครื่องมือที่ใช้งานบ่อยให้เราเห็นเด่นชัด มันจึงช่วยลดความซับซ้อนในการทำงานลงและประหยัดเวลามากขึ้น
ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้า ศิลปินสามารถเข้าถึงเครื่องมือได้มากมาย แทนมองว่ามันเป็น ‘โอกาส’ หรือ ‘ความท้าทาย’ ของวงการศิลปะ

ส่วนตัวคิดว่าเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นในยุคนี้เป็นโอกาสสำหรับกลุ่มคนที่ทำงานสร้างสรรค์ มันช่วยให้ทุกคนสามารถนำเสนอไอเดียให้ออกมาเป็นภาพที่จับต้องได้อย่างรวดเร็วและสมบูรณ์แบบมากขึ้น ซึ่งความท้าทายก็คือความสะดวกสบายของสิ่งที่อำนวยความสะดวกเหล่านี้ที่อาจทำให้บางคนอาจจะยังไม่ได้ให้เวลามากพอกับการทดลองสิ่งต่างๆ หรือได้ลองผิดลองถูกจนเกิดการค้นพบสไตล์ใหม่ๆ ด้วยตัวเอง
เคล็ดลับในการสร้างลายเส้นเฉพาะตัว

สไตล์งานเราเริ่มต้นมาจากความบังเอิญ คือตอนเริ่มฝึกวาดดิจิตอลแรกๆ ก็ลองวาดแบบลายเส้นบวกกับลงสี แต่พอทำไปสักพักก็สังเกตว่า ตัวเองมักใช้เวลาเล่นอยู่กับการเพ้นท์เติมรายละเอียดแสงเงา และรู้สึกว่าลายเส้นที่วาดก็ไม่สวยด้วย เราเลยลองลบลายเส้นออก เหลือแค่สีพื้นๆ ก้อนๆ ปรากฏว่าเราชอบแบบไม่มีเส้นมากกว่า เพราะเห็นมวลของวัตถุได้ชัดเจน เหมือนกับเป็นภาพแอนิเมชั่น 3D แบบที่เราชอบดู เลยฝึกแนวลงสีแบบไม่มีเส้นตั้งแต่นั้นมา ระหว่างนั้นก็ได้ซึมซับจากภาพงานออกแบบในการ์ตูนแอนิเมชั่นหลายๆ เรื่องที่เป็นตัวอย่างที่ดี รวมถึงเสพภาพงานอาร์ตในสไตล์ต่างๆ จากผลงานของนักวาดหลายๆ คนซึ่งเป็นแนวที่เราชอบ แล้วเราก็พัฒนาการวาดของตัวเองมาเรื่อยๆ จนคนเริ่มเห็นเอกลักษณ์ในผลงานของเรา
ถ้าพูดถึงเรื่องการหลงทางก็เคยมีอยู่บ้างในช่วง 2-3 ปีก่อนที่เรารู็สึกว่างานวาดของเรามันดูซ้ำๆ ใช้สีเดิมๆ วนๆ ไม่ค่อยแปลกใหม่ เราอยากหาความสนุกมากขึ้นเลยเริ่มทดลองกับการวาดที่มีการลดทอน และลองใช้สีสดใสแบบที่ยังไม่เคยใช้ ก็ได้ผลลัพธ์ที่แปลกใหม่ดี มันอาจจะยังไม่ค่อยเป๊ะเท่าไหร่ในช่วงแรกๆ แต่พอทำไปเรื่อยๆ ก็เริ่มเข้ามือมากขึ้น ปัจจุบันก็รู้สึกสนุกกับการวาดแบบนี้
ผลงานของเเทนตั้งเเต่สมัยเรียนมักจะบอกเล่าผ่านความเกินจริง เช่น กบฎศึกษา หรือเด็กหญิงประหลาด ทําไมถึงมักเลือกนําเสนอภาพงานศิลปะผ่านเรื่องราวที่เกินจริง

ที่ชอบวาดอะไรแปลกๆ เวอร์ๆ ก็เพราะว่าเราชอบเล่นสนุกกับจินตนาการ อาจเพราะสมัยเรียนมักจะไม่ค่อยสนใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้าสักเท่าไหร่ ถ้าย้อนกลับไปในผลงานชิ้นเก่าๆ อย่างกบฏศึกษา เด็กหญิงประหลาด หรืองานธีสิสแอนิเมชั่นของเราและกลุ่มเพื่อนก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับเด็กชายกับสัตว์ประหลาด ล้วนเป็นเรื่องที่อยู่ในบริบทของวัยเรียนที่ผสมไปด้วยความแปลกประหลาด ภาพความทรงจำในวัยเรียนของใครหลายๆ คนก็อาจจะดูน่าเบื่อไม่ต่างกัน แต่เรามักจะมีจินตนาการที่โอเวอร์เกินจริงสอดแทรกอยู่เสมอๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพสัตว์ประหลาดบุกโรงเรียนในคาบเรียนที่ตึงเครียด หรือมีทีมฮีโร่มาขอความช่วยเหลือจากเราให้ไปร่วมกอบกู้โลกตอนที่กำลังรอพรีเซนท์หน้าห้อง อะไรประมาณนั้น
อยากให้งานของตัวเอง ‘พูด’ หรือ ‘ส่งอะไร’ ไปถึงคนดูมากที่สุด

ตอนนี้อยากจะให้ตัวเราและผลงานของเราได้ทำหน้าที่แบ่งปันแรงบันดาลใจ ส่งต่อไปยังคนที่ชอบหรือสนใจในการทำงานด้านนี้ เพื่อให้พวกเขามีแรงใจในการทำสิ่งที่ตัวเองรักและชอบต่อไป

