WORDS: THAMZIEN GAMER
ข้อความต่อไปนี้ไม่ใช่การเขียนเพื่อแสวงกำไร เพราะผู้เขียนได้เสียเงินให้กับองค์กรนี้เป็นรายปี จ่ายตรงต่อเวลายิ่งกว่าค่าโทรศัพท์ ทุกครั้งที่ภาคใหม่ออกคือพบกัน ‘เดย์ วัน’ มาโดยเสมอ และแล้วก็จวนถึงเวลานั้น ณ หน้าโทรทัศน์ปลายเดือนกันยายน เราจะบําเพ็ญทุกกิริยากับ EA Sports FC 24
EA Sports FC 24 คือภาคต่อจาก FIFA 23 โดยผู้พัฒนาหน้าเดิม EA Sports (หลังจากนี้ขอเรียกว่าอีเอตามประสาคนสนิท) ได้หมดสัญญาด้านลิขสิทธิ์กับสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือ FIFA ยุติความสัมพันธ์ 30 ปี จากลากันอย่างไร้น้ำตาเพราะอีเอผู้เป็นฝ่ายเข้าหาในวันนั้น สามารถเดินต่อโดยที่ไม่ต้องใช้ชื่อเดิมอีกต่อไป เนื่องจากสภาพตลาดเกมฟุตบอลในปัจจุบันอีเอแทบจะผูกขาดเลยก็ว่าได้ เก๋าในระดับที่ว่าคะแนนรีวิวหลายภาคให้หลังออกมาไม่สวยแค่ไหน แต่ยอดผู้เล่นก็ไม่เคยลดลง ซึ่งใช่แล้ว เราคือหนึ่งในนั้น
อ่านเพิ่มเติม: 5 เกมฟุตบอลยอดเยี่ยมและยังคงเป็นที่สุดตลอดกาล
แง่หนึ่งมีหลายการวิเคราะห์ในเชิงบวก เป็นการจากลาที่ดีกับผู้เล่น อาทิ การพัฒนาเกมของอีเอที่ต้องทุ่มทุนสร้างกว่าที่ผ่านมา แน่นอนว่าเนื่องด้วยเป็นการเปิดแฟรนไชส์ใหม่ ต้องฟอร์มยักษ์ที่สุดเท่าที่จะทำได้ และฟีฟ่าหลายภาคให้หลังมักถูกวิจารณ์ว่าไม่ได้มีการปรับปรุงอะไรมากเท่าที่ควร ทั้งกราฟิกและระบบเกมเพลย์ ผู้เล่นไม่ได้สัมผัสถึงอะไรใหม่ ๆ มาหลายปีแล้ว
ข้อดีที่คะเนไว้อีกประการคือการกระตุ้นตลาด การผูกขาดไม่ว่าจะในวงการไหนย่อมไม่ดีต่อผู้บริโภคเป็นแน่ การที่ลิขสิทธิ์ของฟีฟ่าเป็นโสดย่อมต้องตาหลายผู้พัฒนา อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้คือเรื่องในอนาคต แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้คือเหล่าผู้เล่นขาประจำพรีออเดอร์ Electronic Arts Sports Football Club เป็นที่เรียบร้อย

Welcome to the Club
ขึ้นชื่อว่ากีฬาไม่ว่าประเภทไหนย่อมมีความสนุกเป็นองค์ประกอบเสมอ ฟุตบอลและเกม (จำลอง) ฟุตบอลก็เช่นกัน ในยุคสมัยใหม่ทั้งสองวงการได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องราวกับเงาที่ตามตัวก็ไม่ผิด ในวันที่ฟุตบอลไม่ได้ถูกจำกัดด้วยชนชาติหรือเพศ เกมฟุตบอลโดยอีเอไม่เคยทิ้งห่างกับกระแสโลกเลยแม้แต่ก้าวเดียว
ปกเกมฟุตบอลที่เราคุ้นเคย ไม่ว่าจะ FIFA หรือ PES (อดีตเกมฟุตบอลยอดนิยมจาก Konami ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนชื่อแฟรนไชส์เป็น eFootball) เรามักตื่นเต้นกับนักฟุตบอลที่ขึ้นปกประจำภาค ราวกับเป็นปกนิตยสารก็ว่าได้ เพียงแต่เป็นฉบับที่ออกปีละหน ดังนั้นขวัญใจที่ว่าต้องเป็นที่ยอมรับจากแฟนบอลไม่มากก็มากโคตร ตั้งแต่ ดาวิด ชิโนลา (FIFA 97) จนถึงคีเลียน เอ็มบัปเป้ (FIFA 23) แต่แล้วเมื่อ EA FC 24 ปกแรกออกมาให้ยลโฉมทางโซเชียลมีเดียกลับออกจากตำรานี้โดยสิ้นเชิง
EA FC 24 เวอร์ชั่น Ultimate Edition เปิดตัวด้วยภาพจากเกม (ไม่ใช่ภาพจริง/ภาพถ่าย) ยืนจัดแถวสบาย ๆ สไตล์ครอบครัวใหญ่ยิ้มให้กล้องถึง 31 คน เยอะจนฉุบเลือกเพื่อน เตะบอลต่อทีมกันได้เลย แม้แฟนเกมจะแปลกตา มีบางความเห็นล้อเลียน นึกว่าเป็น The Sims ฉบับฟุตบอล เพราะด้วยกราฟิกและอารมณ์ภาพที่เป็นมิตร เปลี่ยนโฉมจากจุดเริ่มต้นของปกเกมฟุตบอลที่มักดูเท่ระเบิดและดุดัน
แม้การทำเกมในเครืออีเอมีหลายคราวที่ถูกวิจารณ์เชิงลบ แต่ในแง่การตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับแฟรนไชส์นี้อันเป็นรายได้มหาศาลขององค์กร หากมองในมุมของการนำเทรนด์ อีเอ สปอร์ตคืออัจฉริยะชนิดที่หาคู่ปรับได้ยาก จุดสังเกตแรกจากปกดังกล่าวคือการไม่พบร่องรอยของเอ็มบัปเป้ ที่เป็นภาพลักษณ์หลักของแบรนด์ 3 ภาคล่าสุด รวมไปถึงว่าที่ตำนาน คริสเตียโน โรนัลโด และลิโอเนล เมสซี ก็ไม่ถูกเชิญมาขึ้นปกเช่นกัน เป็นนัยได้ว่ายุคสมัยใหม่ของฟุตบอลกำลังเริ่มขึ้นแล้ว คนที่จะสนุกกับเกมนี้คือใครก็ได้ที่รักฟุตบอล ไม่มีกำแพงด้านวัย บนปกนั้นมีเหล่านักเตะตำนานหลายเจเนอเรชั่น อย่างเช่นสตาร์แซมบ้า 3 รุ่น เปเล่ โรนัลดินโญ และวินิซิอุส จูเนียร์ ยืนซ้อนกันและยิ้มอย่างอบอุ่น

ตลอดจนประเด็นเรื่องความหลากหลายในสื่อบันเทิงที่มักเป็นที่วิจารณ์ในปัจจุบัน อีเอก็ไม่ตกรถ อย่างที่ว่าไว้ ความนิยมฟุตบอลและเกมเติบโตอย่างต่อเนื่อง ฟุตบอลประเภทหญิงก็เช่นกัน หลายภาคหลังอีเอได้พัฒนาโหมดฟุตบอลหญิงซึ่งมีทีมชาติให้เล่น (แต่ไม่สามารถเล่นแข่งกับทีมประเภทชายได้) รวมถึงการมีนักฟุตบอลหญิงชาวออสเตรเลีย แซม เคอร์ ขึ้นปกร่วมกับเอ็มบัปเป้เมื่อภาคที่แล้ว จนมาถึง EA FC 24 ใน 31 คนบนปกก็มีนักฟุตบอลหญิงประกอบอยู่ด้วยเช่นกัน แต่ส่วนที่ถูกวิจารณ์นั้นประเด็นไม่ได้มาจากปก แต่คือโหมด Ultimate Team อันเป็นส่วนสำคัญที่สุดของฟีฟ่าในทุกภาค

Ultimate Means Everyone
Ultimate Team หรือที่คุ้นกันว่า FUT (ภาคหลังจากนี้ตัว F จากหายไปเพราะย่อมาจาก Fifa) คือโหมดการเล่นที่ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนซึ่งทำให้ฟีฟ่าทิ้งห่างคู่แข่งอย่างที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้ ย้อนกลับไปในสมัยที่ PES หรือ Winning Eleven จากค่าย Konami ยังยิ่งใหญ่ (นิยมในบ้านเราถึงขนาดมีเพลง วินนิ่งไหมสาด) หลาย ๆ คนอาจคุ้นกับโหมด Master Leauge การพัฒนาทีมจากสโมสรที่มีอยู่จริง ให้ผู้เล่นซื้อ-ขายตัวผู้เล่นได้ โดยมีกลไกทางตลาดที่จำลองคล้ายกับตลาดฟุตบอลในโลกจริง
FUT จากอีเอมีโครงสร้างที่คล้ายกันคือสร้างทีม เพียงแต่ว่าเป็นสโมสรที่เราเป็นผู้ก่อตั้ง ประกอบกับโลกของเราเข้าสู่ยุคอินเทอร์เน็ตและเครื่องเกมคอนโซลสามารถเล่นออนไลน์ได้อย่างเสถียร FUT จึงเป็นอะไรที่ใหม่มาก ในทีมเดียวกันนี้คุณสามารถสร้างสโมสรโคตรดรีมทีมไปฟาดแข้งกับชาวบ้านในโลกออนไลน์ การพัฒนารายละเอียดต่าง ๆ ของ FUT ในแต่ละภาคทำให้จำนวนผู้เล่นของฟีฟ่ามีมากขึ้นเรื่อยมา ทั้งแฟนเกมใหม่เอี่ยมหรือย้ายมาจาก PES ก็มีไม่น้อย จนถึงขนาดมีระบบเศรษฐกิจนอกจอเลยทีเดียว อย่างเช่น การซื้อขายคอยน์ (ค่าเงินในเกม) โดยใช้เงินจริง ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ผิดต่อกฎของเกม เนื่องจากอีเอก็มีพอยต์ขายโดยตรงอยู่แล้ว รวมไปถึงการรับจ้างเล่นฟีฟ่าเพื่อให้ได้จำนวนเกมหรือจำนวนการชนะที่มากพอสำหรับการลุ้นรางวัลดี ๆ โดยรางวัลที่ว่าคือกล่องสุ่มที่มีลักษณะเป็นซองการ์ดนักฟุตบอลนั่นเอง
ขอบเขตนักฟุตบอลของ FUT ขยายเรื่อยมา จากจุดเริ่มต้นคือชุดนักเตะปัจจุบันในแต่ละฤดูกาลซึ่งมีครบทุกลีกที่แฟนบอลนิยม จนการมาของ Icon และ Hero นักฟุตบอลระดับตำนาน กล่าวคือทีมของคุณ (ถ้ามีดวงหรือบุญทุ่มมากพอ) ไม่ได้มีแค่โรนัลโดอยู่ทีมเดียวกับเมสซีเท่านั้น แต่สามารถมีรุด กุลลิต ตัดบอลส่งออกข้างให้แจร์ซินโญเลี้ยงเลาะขอบสนามก่อนจ่ายให้ชิโนลาแท็บอินอย่างดงามจนฝั่งตรงข้ามต้องกดออกเพราะทนหัวร้อนไม่ไหว (จอยบินมีอยู่จริง)
และแล้วประเด็นงอแงก็เริ่มขึ้น ขอบเขตนักฟุตบอลที่ว่าใน Ultimate Team ของ EA FC 24 คือการเพิ่มนักฟุตบอลหญิงเข้าไปในโหมดนี้ด้วย สิ่งที่ตามมาคล้ายคลึงกับสิ่งที่ภาพยนตร์ใหม่หลาย ๆ เรื่องกำลังประสบอยู่คือแฟนเกมจำนวนมากมองว่าเป็นการยัดเหยียดความหลากหลาย (Diversity) จนเกินไป กล่าวคือเป็นการแปลกตาหากในทีมฟุตบอลที่ดุดันของเราจะมี แซม เคอร์ เป็นสมาชิกอยู่ด้วย แม้ว่าในโลกแห่งความเป็นจริง แซมจะมีฤดูกาลที่ดีแค่ไหนก็ตาม
ทั้งนี้หลายโหมดในฟีฟ่าได้มีนักฟุตบอลหญิงอยู่แล้ว ยกตัวอย่างโหมดโปรดของผู้เขียน นั่นคือ Pro Clubs (จะชื่อ Clubs ใน EA FC) โหมดที่ให้เราสร้างนักเตะเพื่อให้เราควบคุมนักเตะดังกล่าวเพียงตัวเดียว และไปรวมทีมจนเป็นสโมสร เพื่อไปแข่งกับทีมอื่น ๆ ในโลกกว้าง โหมดนี้ได้รับความนิยมมากโดยเฉพาะช่วงโควิด-19 ซึ่งบังคับให้ทุกคนต้องอยู่บ้าน โดยในไทยเองมีผู้เล่นและสโมสรมากพอจนสามารถสร้างขึ้นเป็นลีกได้เลย และในฟีฟ่าภาคล่าสุดนักเตะอวตารของเราสามารถเลือกเป็นนักฟุตบอลหญิงได้ ซึ่งก็ไม่ได้มีประเด็นให้ต้องถกเถียงอะไรกันในที่สาธารณะ

กระนั้นผลลัพธ์ต้องสรุปในระยะยาว อย่างที่ว่าฟุตบอลและเกมฟุตบอลคล้ายเงาตามกัน หากฟุตบอลหญิงในโลกจริงได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก้าวนี้ของอีเอจะถูกมองว่าเป็นผู้มาก่อนกาล เพราะโจทย์ที่ตั้งไว้มีตัวแปรที่ว่า ฟุตบอลจะสนุกก็ต่อเมื่อมีคนเล่นหลายคน