เมื่อคืนนี้ช่องยูทูปชื่อดังอย่าง FAROSE ได้ปล่อยตอนที่ 93 ของรายการ ‘ไกลบ้าน’ ออกมา โดยใน Episode นี้ คุณฟาโรส-ณัฏฐ์ กลิ่นมาลี ได้เดินทางไปเที่ยวเมืองซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกาอีกครั้ง โดยในตอนนี้มีไฮไลต์ก็คือ ‘Driverless Taxi’ หรือ ‘แท็กซี่ไร้คนขับ’ ของค่าย Waymo ซึ่งเป็นบริษัทภายลูกของ Alphabet บริษัทแม่ของบริษัทระดับโลกหลายๆ เจ้า อาทิ Google และ Nest
วันนี้ทาง ELLE MEN Thailand เลยจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเจ้าบริการคมนาคมสุดไฮเทคนี้ว่าคืออะไร และมันจะสะดวกหรือลำบากขึ้นเมื่อบริการแท็กซี่ไร้คนขับ พร้อมฟังทุกกระแสตอบรับของบริการสุดเจ๋งนี้!
‘ซานฟรานซิสโก’ ผู้นำล่องบริการแท็กซี่ไร้คนขับ
เทรนด์แท็กซี่ไร้คนขับนั้นเกิดขึ้นมาพร้อมกับนวัตกรรม ‘รถยนตร์ไร้คนขับ’ (Self-Driving Car) ที่ค่ายรถยนตร์ไฟฟ้าอย่าง Tesla เป็นบริษัทแรกๆ ที่นำล่องเทคโนโลยีสุดล้ำนี้ในเชิงพาณิชย์ แต่ในปัจจุบันนี้ในประเทศสหรัฐอเมริกานั้นได้เริ่มมีบริการแท๊กซี่ไร้คนขับมาขึ้นโดยเฉพาะในซานฟรานซิสโก เมืองศูนย์กลางของเทคโนโลยีระดับโลกมากมาย ไม่แปลกใจเลยทำไมบริษัทแท็กซี่ไร้คนขับหลายๆ เจ้าจึงเปิดให้บริการในเมืองนี้
และอีกหนึ่งข่าวดีก็คือเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2566 หน่วยงานกำกับดูแลของรัฐแคลิฟอร์เนียนั้นเห็นพ้องต้องกันจนมีข้อสรุปว่า จะขยายบริการรถแท็กซี่ไร้คนขับในพื้นที่ซานฟรานซิสโก ถึงแม้ว่าจเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและนักเคลื่อนไหวในซานฟรานซิสโกจะมีความกังวลด้านความปลอดภัยก็ตาม โดยมมีคะแนนโหวต 3 เสียงต่อ 1 เรียกว่าชนะขนาดลอยเลย!
‘Waymo’ และ ‘Cruise’ หมากตัวสำคัญของบริการแท็กซี่ไร้คนขับ
ก่อนจะไปรับชมข้อพิพาทของชาวเมืองที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เรามารับรู้กันก่อนว่าในเมืองซานฟรานซิสโกนั้นมีผู้ให้บริการ Driverless Taxi อยู่สองเจ้าใหญ่ๆ ด้วยกัน ซึ่งเจ้าแรกนั้นก็คือ Cruise บริษัทลูกของ General Motors ซึ่งให้บริการแบบเสียเงินบริเวณ 1 ใน 3 ของพื้นที่ของเมืองซานฟรานซิสโก ส่วนอีกเจ้าก็คือ Waymo ที่เราได้กล่าวไปข้างต้น ซึ่งเจ้านี้ให้บริการฟรีและบริเวณพื้นที่ที่ให้บริการก็กว้างกว่าเจ้าแรก
โดยทั้งสองเจ้านั้นมีช่วงเวลาและจำนวนรถที่ให้บริการที่แตกต่างกัน โดย Cruise นั้นจะให้บริการในช่วงกลางคืนเสียเป็นส่วนใหญ่ โดยมีจำนวนรถถึง 300 ในตอนกลางคืน และลดเหลือ 100 คันในตอนเช้า กลับกัน Waymo ให้บริการ 250 คันตลอดทั้งวัน
ความไม่เชื่อใจของผู้บริโภคต่อ ‘Driverless Taxi’
ทว่าบริการสุดไฮเทคนี้กลับมีเสียงคัดค้านเกิดขึ้นมากมายในเมืองซานฟรานซิสโก ต่อบริการ Driverless Taxi นี้ จนเกิดการประท้วงของเจ้าหน้าที่ประจำและประชาชนของเมืองซานฟรานซิสโก ที่คิดว่าบริการ Driverless Taxi นั้นอาจจะก่อให้เกิดความอันตรายบนท้องถนนได้ เพราะว่าพวกเขากลัวว่าเทคโนโลยีนั้นจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้
รวมไปถึงการหลบหลีกสิ่งกีดขวางที่ไม่คาดคิด เช่น ท่อดับเพลิง หรือสายไฟล้ม ซึ่งเทคโนโลยีการจับสิ่งกีดขวางนั้นอาจจะไม่รวดเร็วเท่ากับไหวพริบและสติปัญญาของมนุษย์ แต่ทว่าก็มีทีมงานงานของ Waymo ออกมาเคลื่อนไหวในโปรเจกต์ที่พวกเขาจัดขึ้นพร้อมป้ายที่มีข้อความว่า “Safer Roads for All” เพื่อประกาศว่าจริงๆ แล้วนั้นแท็กซี่ไร้คนขับนั้นอาจจะปลอดภัยกว่ารถที่มนุษย์ขับด้วยซ้ำ
สรุปแล้วเรื่องนี้ก็ยังคงเป็นที่ถกเถียงของคนในซานฟรานซิสโกกันอยู่ แต่สุดท้ายแล้วเรามองว่าเรื่องนี้นั้นเข้ากับคำคมที่ว่า “เหรียญย่อมมีสองด้านเสมอ” เพราะสุดท้ายแล้วแม้แต่มนุษย์เองก็ตามหากไม่มีสติในการขับขี่นั้นก็ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ และเราก็หวังว่าเทคโนโลยี Self-Driving Car นั้นพัฒนาจนสามารถใช้งานบนท้องถนนทั่วโลกได้