ในพ.ศ. นี้ต้องยอมรับว่าเหล่าสกินแคร์โปรดักส์ที่ชูส่วนผสมหลักหรือ Active Ingredient มาเป็นจุดขายนั้นเป็นอะไรที่ป็อปปูล่าร์มากๆ เพราะโปรดักส์เหล่านี้ตอบโจทย์เทรนด์การบริโภคผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแบบ Less is More ที่แก้ไขและดูแลผิวหน้าตามปัญหาและสภาพผิวของแต่ละบุคคล ซึ่งหนึ่งในส่วนผสมหลักที่นิยมใช้สุดๆ ก็คงหนีไม่พ้นเจ้า Niacinamide หรือ Vitamin B3 ที่ดูแลปัญหาผิวได้อย่างครอบจักรวาลเลย
ประโยชน์ของเจ้า Niacinamide หรือ Vitamin B3
อย่างที่เกริ่นไปว่า Niacinamide หรือ Vitamin B3 นั้นมีประสิทธิภาพการดูแลและแก้ไขปัญหาผิวได้ครอบคลุมทุกสภาพผิวสุดๆ #ประการแรก ส่วนผสมนี้นั้นเหมาะกับผู้มีสิวทุกประเภท เพราะช่วยลดการอักเสบของผิวได้อย่างดีสุดๆ #ประการที่สอง ช่วยเลือนจุดด่างดำและรอยแดง เพราะส่วนผสมนี้สามารถเขาไปชะลอการก่อตัวของเม็ดสีได้ #ประการที่สาม ช่วยเลือนริ้วรอยแห่งวัย เพราะเมื่อเราทาเจ้าเซรั่มหรือสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ Niacinamide 4-5% ก็จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้
นอกจากนั้น Niacinamide ยังช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้นและช่วยสร้าง Ceramide เพื่อให้ผิวแข็งแรงได้อีกด้วย และไฮไลต์สำคัญสุดๆ ก็คือส่วนผสมตัวนี้สามารถทำงานได้ดีกับส่วนผสมอื่นๆ เช่น Vitamin C หรือ Retinol ที่จะช่วยดูแลและแก้ไขปัญหาผิวที่คุณกังวลอย่างครอบคลุม
#ELLEMENTips : หากคุณต้องการเซรั่มหรือโปรดักส์ Niacinamide ที่สามารถดูแลปัญหาผิวที่เรากล่าวมาข้างต้น มองดูผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มข้น 4-5% เพราะเป็นความเข้มข้นที่มีประสิทธิภาพที่แพทย์ผิวหนังแนะนำ แต่ถ้าหากบนฉลากไม่มีบอกก็มองหาคำว่า ‘Niacinamide’ ในรายการส่วนผสม หากขึ้นมาเป็นเป็นอันดับแรกๆ แสดงว่ามีความเข้มข้นที่มากพอ
เคล็ดลับป้องกันจุดด่างดำฉบับ ‘นพ. จิมมี่ จิตรพล’
เรียกว่า Niacinamide มาแรงมากๆ มาสักพักจนถูกพัฒนาต่อไปจับคู่กับส่วนผสมอื่นๆ ซึ่งทาง La Roche-Posay ก็ได้นำเอาส่วนผสมนี้ไปจับคู่กับ Melasyl เทคโนโลยีเอกสิทธิ์ของเครือ L’Oreal ที่ช่วยเลือนจุดด่างดำในทุกมิติ ซึ่งภายในงานเราได้ไปพูดคุยกับ จิมมี่-จิตรพล นักแสดงและนายแพทย์หนุ่มผู้มาร่วมเผยทริคในการดูแลจุดด่างดำด้วยส่วนผสมสองตัวนี้
แต่นอกจาก La Roche Posay แล้วในปี 2024 จะมีโปรดักส์ไหนบ้างที่ชูส่วนผสมอย่าง Niacinamide ออกมาเพื่อช่วยดูแลปัญหาผิวของพวกเราอย่างครอบคลุม วันนี้ ELLE MEN Thailand รวมมาให้แล้วตามแคตตากอรี่เลย
#1 La Roche-Posay MELA B3 Serum : ลดเลือนจุดด่างดำ
เกริ่นไปแล้วในย่อหน้าที่แล้วจะไม่พูดถึงก็ไม่ได้สำหรับ La Roche-Posay MELA B3 Serum เซรั่มไนอาซินาไมด์ที่มีเทคโนยีเอกสิทธิ์อย่าง ‘Melasyl’ ที่ใช้เวลาคิดค้นถึง 18 ปี มีกลไกการลดเม็ดสีแตกต่างจากสารตัวอื่นๆ ในท้องตลาด ดังนั้นเรียกว่าทั้ง Niacinamide และ Melasyl จะช่วยรวมพลังการลดการสร้างเม็ดสีในทุกรูปแบบ
#2 Paula’s Choice Clinical Niacinamide 20% Treatment : เซรั่มทรีตเมนต์แก้ปัญหาผิวเร่งด่วน
ใครที่เคยใช้ Niacinamide มาอยู่แล้ว หรือใครเป็นสายผิวสตรองใช้อะไรก็หน้าไม่พังก็ต้อง Paula’s Choice Clinical Niacinamide 20% Treatment เลย เพราะเซรั่มตัวนี้เคลมตัวเองว่าเป็น ทรีตเมนต์ ไม่ใช่เซรั่มทั่วไป เพราะด้วยเปอร์เซนต์ที่สูงถึง 20% ทำให้ช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้อย่างชัดเจน แถมยังมีส่วนผสมอื่นๆ อาทิ Purslane และ Acetyl Glucosamnde มาช่วยทำให้ภาพรวมผิวดูดีขึ้น
#3 Sunday Riley B3 Nice 10% Niacinamide Serum : สายไฮบัตเจตเห็นผลเร็ว
สำหรับใครที่มีบัตเจตหน่อยเราแนะนำ Sunday Riley B3 Nice 10% Niacinamide Serum ที่เนื้อสัมผัสดี เห็นผลรวดเร็ว เพราะมีส่วนผสมอย่าง Trans-Reservatrol และ Brightenyl โมเลกุลชีวภาพเอกสิทธิ์ของแบรนด์ที่ให้ความสว่างแก่ผิวและบรรเทาอาการแพ้ไปพร้อมๆ กัน ช่วยทำให้ผิวไบร์ทและทำให้ผิวแข็งแรงทนต่อมลภาวะต่างๆ ได้อย่างดี
#4 Neutrogena HydroBoost Niacinamide – ไนอาซินาไมด์ราคาน่ารัก
ใครงบน้อยก็อย่าเพิ่งเสียใจไปเพราะเรามีไอเทมมานำเสนอเช่นกันนั่นก็คือ Neutrogena HydroBoost Niacinamide ซึ่งชิ้นนี้นอกจากจะมี Niacinamide 10% แล้ว ยังมาพร้อมกับ Hyaluronic Acid เพิ่มความชุมชื้น ให้ผิวหน้ากระจ่างใสและชุ่มชื้นไปพร้อมๆ กัน นอกจากนั้นยังปราศจากน้ำหอม สี และสารกันเสียด้วย ผิวแพ้ง่ายจะต้องเลิฟสุดๆ
#5 Lancôme Clarifique Pro-Solution Brightening Serum : เลือนจุดด่างดำ + ผลัดเซลล์ผิว
สำหรับเซรั่มตัวสุดท้ายอย่าง Lancôme Clarifique Pro-Solution Brightening Serum เรียกว่าตอบโจทย์สายหน้าใสสุดๆ เพราะนอกจากจะลดเลือนจุดด่างดำด้วย Niacinamide แล้ว ยังผสานมากับ PHA ช่วยผลัดเซลล์ผิวอ่อนๆ นอกจากนั้นช่วยลดรูขุมขน และมีจุดเด่นในเรื่องของเนื้อสัมผัสที่บางเบาและซึมซาบเร็วสุดๆ