หลังจากผ่านดราม่าครั้งใหญ่ของ Demna ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ของ Balenciaga นั้นได้ปรับไดเร็กชั่นของแบรนด์แฟชั่นสุดหรูนี้ให้มีความนิ่งและแกลมมากขึ้น เขาได้ลดความ ‘ขบถ’ ลงเนื่องจากสิ่งนี้เองเป็นชนวนที่ทำให้เมซงหลังนี้ต้องประสบวิกฤติครั้งใหญ่ จนทาง Kering ต้องงัดกลยุทธ์การตลาดมากมายเพื่อพยุงให้อีกหัวเรือของค่ายยังคงอยู่รอดตลอดฝั่ง
ทำให้หลายๆ คอลเล็กชั่นที่ผ่านมาเสื้อผ้าและไอเทมของแบรนด์มีความคลาสสิกและ Timeless มากๆ แต่คอลเล็กชั่น Winter 2024 นั้นสุนทรียภาพของ Demna ได้กลับมาปรากฏในคอลเล็กชั่นอีกครั้ง เป็นเพราะ ‘การตั้งคำถาม’ ของเขาต่อความหรูหราของเขาว่าสิ่งนี้มันคืออะไรในโลกที่ทุกสิ่งล้วนสร้างความหมายทั้งหมด แต่คำตอบของนักออกแบบคนนี้ก็คือ ‘ความสร้างสรรค์’ นั้นคือความหรูหราในนิยามของเขาหาใช่ความแกลมหรือฟูฟ่องดั่งภาพจำของคนแฟชั่น ดังนั้นภายใต้แฟชั่นเฮ้าส์ที่ขึ้นมีผลงานการออกแบบที่ขึ้นชื่อเรื่องความคิดสร้างสรรค์ในทุกมิติเขาจึงได้เข้าไปใน Archive ของแบรนด์แล้วดึงชิ้นงานที่ Cristóbal Balenciaga กลับมาออกแบบชุบชีวิตอีกครั้งหนึ่ง
กลับสู่ตัวตนของ ‘Demna’ คนชายขอบสู่เทรนด์เซ็ตเตอร์
จากดราม่าครั้งใหญ่ที่ทำให้คนแฟชั่นหลายๆ คนลุกขึ้นมาตั้งคำถามกับแบรนด์ Balenciaga และ Demna แรงกระเพื่อมจากวิกฤตครั้งนี้ทำให้ Demna กลับไปตกผลึกกับตัวเองและพาแบรนด์เข้าใกล้คำว่า ‘คลาสสิก’ และ ‘เซฟโซน’ มากขึ้น แต่ตัวตนของเขาก็ไม่สามารถถูกปิดกั้นเอาไว้ได้ ความขบถเล็กๆ บวกกับเสื้อผ้าในมุมมองของอดีตผู้ลี้ภัย และความอินในโซเชียลมีเดีย ทำให้ในคอลเล็กชั่น Winter 2024 นี้ Balenciaga กลับมาสนุกเช่นเคย
แต่ตัวตนของเขาก็อาจจะไม่เพียงพอให้เหล่าแฟนๆ ได้ชื่นชมกัน ในฐานะหัวเรือของเมซงที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานเขาเลยหยิบความสมบูรณ์แบบและความสร้างสรรค์ของ ‘โครงสร้างชุด’ ที่ Cristóbal ได้ทิ้งไว้ให้กับโลกแฟชั่น มาผสานกับความดิบและความขบถของของ ในคอลเล็กชั่นนี้เราเลยได้เห็นงานออกแบบเสื้อผ้าที่ไม่สมบูรณ์แบบ 100% แต่สามารถสื่อสารออกไปถึงอัตลักษณ์ของแบรนด์และหัวเรือคนเก่งคนนี้ ผนวกกับพรีเซนเทชั่นอันหวือหวาอย่างหน้าจอบนผนังที่ฉายบรรยากาศต่างๆ รวมไปถึงวิช่วลสุดคูล ราวกับพาเราเข้าไปสู่โลกอนาคตอันรุ่งเรืองของ Balenciaga