อะไรจะดีกว่าการหวนคืนสู่รากเหง้าของแบรนด์ เพราะในยุคนี้แบรนด์ลักชูรีหลายๆ นำเอา DNA ของแบรนด์กลับมาใช้เพื่อชูอัตลักษณ์ของแบรนด์ให้เด่นชัดขึ้น! ซึ่ง ‘Balenciaga’ ก็เช่นกัน เพราะ Demna (เด็มนา) ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์หัวขบถจะพาเรากลับสู่สถานที่อันเป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์อีกครั้ง ซึ่งสถานที่แห่งนี้ก็ไม่ใช่ที่ไหนเพราะที่นั่นคือ Headquarter เก่าของแบรนด์ที่ตั้งอยู่บนถนน ‘George V’
ซึ่งพื้นที่นี้เป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์หรูหลายๆ แบรนด์ และถือเป็นสถานที่ในตำนานของวงการแฟชั่นในประเทศฝรั่งเศสเลย! โดยการหวนคืนสู่ถนน George V ครั้งนี้ Balenciaga จะขยายพื้นที่ในส่วนของซาลอน แผนกกูตูร์ และแผนกครีเอทีฟเลย โดยกินพื้นที่ถึง 6 ชั้น ณ อาคารหมายเลข 10 และ 12
พื้นที่ทางประวัติศาสตร์ของ ‘Balenciaga’ สู่บริบทใหม่ของเมซง
ในปี 1937 Cristóbal Balenciaga (คริสโตบัล บาเลนเซียกา) ได้ริเริ่มสตูดิโอ ณ กรุงปารีสแห่งนี้ด้วยน้ำพักน้ำแรงของเขา สถานที่ซึ่งถูกใช้ทั้งในการทำงาน สื่อสารกับลูกค้า นำเสนอคอลเล็กชั่น และยังเป็นอะพาร์ตเมนต์ของเขาจนกระทั่งเกษียณจากการทำงานในปี 1968 สถานที่แห่งนี้ยังเป็นสถานที่ที่มีเชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันของ Mr. Balenciaga จึงเป็นแรงบันดาลใจของเขาในการตั้งชื่อน้ำหอมรุ่น Le Dix
ต่อมาในปี 2021 Demna หัวเรือของ Balenciaga ได้กลับมาจัดงานนำเสนอคอลเล็กชั่นกูตูร์ครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1968 (คอลเล็กชั่นกูตูร์ครั้งที่ 50) ในสถานที่แห่งนี้ ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่และกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง ณ สถานที่แห่งประวัติศาสตร์ของ Balenciaga โดยบริเวณหน้าสโตร์ของ Mr. Balenciaga ครั้งหนึ่งในอดีต ได้เคยเป็นบูติกสำหรับจัดจำหน่ายน้ำหอมและเครื่องประดับ โดยในปัจจุบัน สโตร์แห่งนี้เป็นสถานที่จำหน่ายคอลเล็กชั่นกูตูร์ ซึ่งเป็นการสร้างประสบการณ์การค้าปลีกที่เอ็กซ์คลูซีฟและเป็นนวัตกรรมใหม่ ที่เปิดให้กลุ่มลูกค้าสามารถเข้าถึงผลงานสร้างสรรค์ที่ไม่เหมือนใคร ตลอดไปจนถึงงานคอแลบสุดเอ็กซ์คลูซีพ
ผสานความร่วมสมัยสู่อาคารคลาสสิกของ Balenciaga
สถาปัตยกรรมเดิมของอาคารหมายเลข 10 – 12 บนถนน George V ถูกออกแบบโดย Albert Le Voisvenel (อัลเบิร์ต เลอ วัวสเวเนล) ในปี 1887 และตกแต่งโดย Christos Bellos (คริสโตส เบลลอส) ภายใต้การดูแลของแบรนด์ โดยการปรับปรุงพื้นที่ซาลอนกูตูร์ครั้งนี้ของ Balenciaga ทุกกระบวนการได้ถูกพินิจพิจารณาอย่างใกล้ชิดโดยทีม ‘Accounts Demure’ สำหรับฝ่ายกูตูร์เฮ้าส์ พวกเขาได้รับหน้าที่ดูแลการออกแบบภายในอาคาร
ซึ่งออกแบบมาในโทนสีเรียบง่าย มีความเป็นกลางและมีลักษณะที่กลมกลืนไปกับอะพาร์ตเมนต์ ส่งเสริมให้คอลเล็กชั่นดูโดดเด่น นอกจากนี้ งานปูนปั้นสไตล์อาหรับสีขาวและพรมสีเทาช่วงยุค 1937 ได้ถูกรังสรรค์ใหม่และเพิ่มความมันวาว เพื่อแสดงถึงความเหนือกาลเวลาสำหรับการกลับมาเปิดใหม่ในปี 2021 อีกด้วย
นอกจากนี้ พื้นที่เปิดใหม่ยังมีการปรับปรุงด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงและทันสมัย เช่น กระจกรมควันสีเข้มที่ทำหน้าที่แบ่งผนัง สร้างจุดหมายปลายทางที่อดีต ปัจจุบัน และอนาคตของ Balenciaga อยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน เนื่องในโอกาสการคืนสู่เหย้าครั้งยิ่งใหญ่ ทาง Balenciaga มีการติดตั้งป้ายประกาศประวัติความเป็นมาของสถานที่แห่งนี้ไว้ที่ด้านหน้าอาคาร