Photographer: Pathomporn Phueakphud
อนงค์ 2.. สามสี่ชาติ คือภาคต่อที่พาผู้ชมกลับเข้าสู่โลกความรักลึกซึ้งของ ‘โจ’ และ ‘อนงค์’ โดยครั้งนี้เรื่องราวจะขยายไปไกลกว่าปัจจุบัน เพื่อเผยให้เห็นสายใยความผูกพันที่ทอดยาวต่อกันมาหลายภพหลายชาติ ระหว่าง จี๋-สุทธิรักษ์ ทรัพย์วิจิตร และ โบว์-เมลดา สุศรี ที่กลับมารับบทนำร่วมกันอีกครั้ง
ภาคนี้จะพาผู้ชมย้อนเวลาไปสำรวจอดีตชาติของอนงค์ในสมัยที่เธอเป็นนักรบผู้กล้า และย้อนกลับไปยังอีกชาติหนึ่งที่โจเคยต้องเข้าไปพัวพันกับคดีปริศนาผีปอบ ก่อนที่ในปัจจุบัน ‘โจ’ จะได้รับโอกาสจากชายลึกลับให้มองเห็นเส้นเรื่องทั้งหมดของชาติภพที่ผ่านมา เพื่อให้เข้าใจความจริงที่ว่า ความรักของเขากับอนงค์ไม่ใช่เพียงบังเอิญ แต่ถูกผูกพันไว้ด้วยโชคชะตาในทุกรูปแบบของเวลา
บทสัมภาษณ์นี้จะพาไปรู้จัก จี๋และโบว์ ในน้ำเสียงที่จริงใจและเป็นธรรมชาติ ผ่านคำถามที่ชวนเปิดใจ ทั้งเรื่องเบื้องหลังการทำงาน การดูแลอารมณ์ของตัวเอง ไปจนถึงบทเรียนชีวิตที่ทั้งคู่ได้จาก อนงค์

บรรยากาศในกองถ่าย อนงค์ เป็นยังไงบ้าง มีโมเมนต์ไหนที่จำไม่ลืมไหม?
Gee: กองถ่ายอบอุ่นมากครับ ถึงแม้เนื้อเรื่องจะหนักแต่ทุกคนมีพลังงานดีๆ ให้กันตลอด ผมจำวันหนึ่งที่ต้องถ่ายซีนอารมณ์ลึกมาก พอคัตปุ๊บ ทีมงานเดินมาบอกว่า “หายใจนะ” แล้วยื่นน้ำให้ เป็นโมเมนต์เล็กๆ แต่รู้สึกได้เลยว่าพวกเขาดูแลกันจริงๆ
Bow: โบว์จำฉากที่ทุกคนต้องรอถ่ายกลางคืนได้ เพราะอากาศเย็นมาก แต่เราหัวเราะกันทั้งทีม เอนเนอร์จีนั้นทำให้การถ่ายคืนยาวๆ ง่ายขึ้นเยอะค่ะ โมเมนต์พวกนี้ทำให้เรารู้สึกว่ากองนี้พิเศษจริงๆ
เวลาที่ต้องอยู่กับอารมณ์เข้มข้น ทั้งคู่มีวิธีดูแลใจหรือผ่อนคลายยังไงระหว่างถ่ายทำ?
B: โบว์ชอบเดินออกไปสูดอากาศลึกๆ ค่ะ บางทีแค่ได้ยืนเงียบๆ สักครู่ก็ทำให้รีเซ็ตอารมณ์ได้แล้ว เพราะซีนบางซีนมันดูดพลังเยอะจริงๆ
G: ของผมคือฟังเพลงครับ มีเพลงบางเพลงที่ช่วยดึงผมกลับมาเป็นตัวเองก่อนเข้าไปเป็นตัวละครอีกรอบ มันเหมือนการกดปุ่มรีเฟรชให้หัวใจ

สำหรับบทบาทที่ได้รับ อะไรคือความท้าทายที่สุดในเชิงอารมณ์หรือความเข้าใจตัวละคร?
G: ความท้าทายคือการเข้าใจเหตุผลของตัวละครครับ เขาเป็นคนที่ซ่อนไว้อะไรลึกๆ เยอะมาก ผมต้องค่อยๆ เปิดชั้นความรู้สึกทีละนิด เพื่อจะสื่อออกมาโดยไม่พูดเยอะ
B: ตัวละครของโบว์มีอารมณ์สวิงแรงค่ะ ต้องเข้าใจให้ได้ว่าทำไมเธอถึงเลือกทำแบบนั้นในแต่ละซีน ซึ่งพอเข้าใจแล้ว โบว์รู้สึกเหมือนเราเห็นด้านที่เปราะบางของคนคนหนึ่งชัดขึ้นมาก

มีซีนไหนที่ต้องเตรียมใจเป็นพิเศษไหม? แล้วให้กำลังใจกันยังไงในฐานะเพื่อนร่วมงาน?
B: ฉากหนึ่งที่โบว์ต้องร้องไห้หนักมาก ใช้เวลาเตรียมใจพอสมควรค่ะ วันนั้นจี้เดินมาบอกว่า “ไม่ต้องรีบ เดี๋ยวค่อยๆ ไป” แค่นั้นก็ช่วยได้เยอะมาก
G: สำหรับผมมีซีนที่ต้องเก็บความรู้สึกลึกๆ ไว้ข้างใน ซึ่งยากกว่าการปล่อยมันออกมาอีก โบว์ก็ช่วยอยู่ข้างๆ เฉยๆ แต่รู้สึกได้ว่ามีคนพร้อมเข้าใจเรา มันทำให้อารมณ์เข้าที่เร็วขึ้น

จากการเล่น อนงค์ ทั้งคู่ได้เรียนรู้อะไรใหม่เกี่ยวกับ “ความเป็นมนุษย์” หรือ “ความสัมพันธ์” บ้างไหม?
G: ผมได้เรียนรู้ว่าคนเราซ้อนทับหลายชั้นมากครับ เราอาจเห็นการกระทำด้านนอก แต่ความจริงในใจอาจต่างออกไปทั้งหมด มันทำให้ผมอยากเข้าใจคนอื่นก่อนตัดสินมากขึ้น
B: สำหรับโบว์ ความสัมพันธ์ในเรื่องนี้สอนว่า ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ ทุกคนล้วนมีเหตุผลของการเป็นแบบที่เป็น การเข้าใจจุดนั้นทำให้มองโลกอ่อนโยนขึ้นค่ะ


