5 เรื่องควรรู้ก่อนดู Oppenheimer หนังที่คว้ารางวัล Oscar 2024 มากที่สุด

ปี 2024 นับเป็นปีแห่งการประกาศศักดาของ Oppenheimer ผลงานการกำกับของ Christopher Nolan (คริสโตเฟอร์ โนแลน) ผู้กำกับมือเทพได้แสดงศักยภาพกับหนังอัตชีวประวัติเรื่องแรกหนึ่งไว้ จนสัมฤทธิ์ผลให้เป็นเจ้ารางวัลบนเวทีระดับโลกอย่าง Golden Globes คว้ารางวัลมากที่สุดถึง 5 สาขา ต่อด้วย BAFTA คว้ารางวัลมากที่สุดถึง 7 สาขา และล่าสุดกับรางวัลสุดยิ่งใหญ่ Oscar ที่กวาดรางวัลไปถึง 7 สาขา

อ่านเพิ่มเติมที่ รายงานผลประกาศรางวัลรางวัล OSCAR 2024

ภาพยนตร์ Oppenheimer เข้าฉายในไทยตั้งแต่ช่วงกลางปี เป้นหนังอัตชีวประวัติเรื่องแรกของโนแลน ที่นำเรื่องราวของ J. Robert Oppenheimer (เจ. โรเบิร์ต ออพเพนไฮเมอร์) ผู้เป็นทั้งฮีโร่และปีศาจ กับเรื่องราวการสร้างระเบิดปรมาณูลูกแรกของโลกในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ระหว่างอเมริกาและญี่ปุ่น ซึ่งออพเพนไฮเมอร์เป็นคนที่ทั้งออกแบบและสร้างระเบิดนิวเคลียร์ รวมถึงการทดลองก่อนที่จะมีการนำมาใช้จริง และท้ายสุดระเบิดนิวเคลียร์ลูกนี้ก็ถูกนำมาใช้ที่ประเทศญี่ปุ่นในปี 1945 ณ เมืองฮิโรชิมา และ นางาซากิ ต้นเหตุของการเกิด ‘บิดาแห่งระเบิดปรมาณู’ และบิดาของอาวุธที่ยังคงฝังบาดแผลลึกให้กับคนญี่ปุ่นมาจวบถึงทุกวันนี้

Oppenheimer‘ เป็นหนังล่าสุดนี้ของโนแลนจะพาคุณด่ำดิ่งไปสู่ด้านมืดในจิตใจของมนุษย์ อย่าง ‘เจ. โรเบิร์ต ออพเพนไฮเมอร์’ ที่รับบทโดย Cillian Murphy (คิลเลียน เมอร์ฟี) อีกครั้งและอีกครั้ง หลังจากเคยร่วมงานกับโนแลนมาแล้วใน Batman Begin, Inception และล่าสุดกับ Dunkirk แต่นี้แค่เรียกน้ำย่อย เพราะก่อนไปดูหนังเรื่อง Oppenheimer คุณต้องรู้ 5 เรื่องราวเหล่านี้ที่แอลเมนทำการรีเสิร์ชมาพร้อมเสิร์ฟให้คุณได้ชิมลาง เพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับชมหลังจากนี้

Cillian Murphy, Christopher Nolan, and J. Robert Oppenheimer ในหนัง Oppenheimer (2023) / Universal Pictures

1. โนแลนใช้ระบบฟิล์ม IMAX ขาวดำในบางช่วง

Cillian Murphy ในหนัง Oppenheimer (2023) / Universal Pictures

นอกจากการทดสอบ Trinity (เป็นชื่อรหัสของการทดสอบการระเบิดของอุปกรณ์นิวเคลียร์ครั้งแรกของโลก) เทคนิคเอฟเฟคที่หลายคนรอชมแล้ว ยังมีดีเทลหนังขาวดำถ่ายทำในระบบฟิล์ม 65 มม. และฟิล์ม IMAX 65 มม. แบบอนาล็อกที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อถ่ายทำหนังเรื่องนี้โดยเฉพาะ ซึ่งเป็นระบบถ่ายทำที่ทีมของโนแลน และผู้กำกับภาพคูบุญอย่าง Hoyte Van Hoytema (ฮอยเต ฟาน ฮอยเตมา) ที่เคยร่วมงานกันใน Inception โดยครั้งนี้โนแลนเลือกใช้เทคนิคการเปลี่ยนแปลงภาพสีและภาพขาวดำ เพื่อเพิ่มความสุนทรีย์และการเล่าจุดเชื่อมโยงของเรื่องราว

Cillian Murphy, Christopher Nolan และ Hoyte Van Hoytema ในหนัง Oppenheimer (2023) / Universal Pictures

2. เพราะโนแลนได้อ่าน ‘American Prometheus’

Photo: amazon

จากวันที่โนแลนได้อ่านหนังสือ American Prometheus: The Triumph and Tragedy of J. Robert Oppenheimer โดย Kai Bird (ไค เบิร์ด) และ Martin J. Sherwin (มาร์ติน เจ. เชอร์วิน) จบ! เขาก็เกิดความอินจนตกหลุมความพิศวงในชีวิตอันซับซ้อนของความเป็นมนุษย์ที่เป็นทั้งผู้สร้างและผู้ทำลายในคนๆ เดียวกันอย่าง ‘ออปเพนไฮเมอร์’ จนนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ในที่สุด โดยหยิบเอาเรื่องราวชีวิตของผู้ที่ได้รับการสถาปนาว่าเป็น ‘บิดาแห่งระเบิดปรมาณู’ และความสำนึกผิดที่เขาประดิษฐ์อาวุธร้ายแรงคร่าล้างผลาญชีวิตเพื่อนมนุษย์ไปมากมายเพียงใด เพียงแค่ต้องการ ‘หยุดความขัดแย้ง’

Tom Conti และ Cillian Murphy ในหนัง Oppenheimer (2023) / Universal Pictures
Cillian Murphy และ Emily Blunt ในหนัง Oppenheimer (2023) / Universal Pictures

3. เป็นเรื่องที่สองของโนแลนที่เกิดในสงครามโลกครั้งที่ 2

หากย้อนไปหนังสงครามเรื่องแรกของโนแลน อย่าง Dunkirk หนังรางวัลออสการ์ ที่สะท้อนความเป็นมนุษย์ที่ต้องการเอาตัวรอดด้วยการตั้งเป้าหมายในหาทางออกของทหารอังกฤษและฝ่ายสัมพันธมิตร ที่โดนกองกำลังฝ่ายตรงข้ามโอบล้อมจนไปติดอยู่บนชายหาดดันเคิร์กที่ไร้ทางออก ซึ่งเหตุการณ์นี้ถูกตั้งให้เกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม ปี 1940 หรือช่วงแรกของสงครามโลกครั้งที่ 2 และรื่องราวอัตชีวประวัติของออปเพนไฮเมอร์ก็เกิดขึ่นในช่วงนี้ ที่อิงจากประวัติศาสตร์ แต่ยังคงเข้มข้นในความเป็นมนุษย์อยู่ในทุกมิติตามแบบฉบับโนแลน

Cillian Murphy ในหนัง Oppenheimer (2023) / Universal Pictures

4. หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ 2 ที่มีตัวละคร ‘ออปเพนไฮเมอร์’ ปรากฏ

ในปี 1989 Fat Man and Little Boy เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่มีตัวละคร ‘ออปเพนไฮเมอร์’ โดยเนื้อเรื่องเป็นการเล่าพูดถึงความขัดแย้งและเป้าหมายสู่ความสำเร็จร่วมกัน แต่มีมุมมองในผลนั้นต่างกัน เปลี่ยนดั่งชื่อ “เด็กน้อย” และ “ชายอ้วน” ที่มีตัวละครหลักเป็น นายพลโกรฟส์ และ ดร.ออพเพนไฮเมอร์ ซึ่งอาจต่างกันครั้งนี้ที่โนแลนมุ่งโฟกัสไปที่ออปเพนไฮเมอร์เพื่อแสดงถึงความเป็นมนุษย์ในหลายมิติ

Paul Newman, Dwight Schultz, Bonnie Bedelia, John Cusack, Laura Dern ในหนัง Fat Man and Little Boy (1989) /Paramount Pictures 

5. เป็นคู่แข่งกับ Barbie ของ Warner Bros. ตั้งแต่เข้าฉายวันเดียวกัน รวมถึงเวทีประกาศรางวัลด้วย

สงครามโลกครั้งที่สองจบไปแล้ว แต่สงครามเย็นของหนังสองเรื่องกำลังเกิดขึ้น เพราะเข้าฉายที่ไทยคือวันเดียวกัน คือ 20 กรกฎาคมนี้ (ทางอเมริกาก็ตรงกับวันที่ 21 กรกฎาคม) จากข่าวที่เคยแว่วมาว่าโนแลนกับ Warner Bros. บ้านหลังเก่าจบกันไม่สวย มาผูกกับประเด็นกับวันเข้าฉายเดียวกันภาพยนตร์เรื่องแรกกับบ้านหลังใหม่ Universal Pictures ก็ถือเป็นฉนวนสงครามที่เริ่มประทุขึ้นแล้ว ต่อด้วยการเข้าชิงที่จำนวนสาขาต่างเฉียดฉิวกันตลอด แต่แล้ว Oppenheimer ก็ชนะขาดลอยด้วยรางวัลจากเวทีหนังระดับโลก

Similar Articles

More