ช่วงเวลาไหนที่จะเหมาะหยิบน้ำหอมสไตล์ Gourmand (กูร์มองด์) ขึ้นมาใช้ เท่ากับช่วงเทศกาลสิ้นปี เพราะน้ำหอมสไตล์นี้มอบกลิ่นโทนขนมและของกินเคล้าไปกับบรรยากาศช่วงเฟสทีฟ แถมยังมอบกลิ่นโทนอบอุ่นตอบโจทย์อีเวนต์สำคัญช่วงสิ้นปีที่ต้องการลุคภูมิฐานทว่ายังดูเฟรนด์ลี่อยู่
โดยเฉพาะกลิ่น Vanilla (วานิลลา) ที่เหมาะมากสำหรับหนุ่มแบบพวกเรา เพราะโน๊ตกลิ่นหอมนี้ถูกนำมาใช้ในเบสโน๊ตของน้ำหอมผู้ชายมาอย่างเนิ่นนาน เพราะกลิ่นวานิลลานั้นจะเพิ่มความอบอุ่น นุ่นนวล และความติดทนบนผิวกายในเนื้อกลิ่นได้ แต่ช่วงหลังมากลิ่นนี้ถูกน้ำมาชูให้กลายพระเอกหลักของกลิ่นจนครองใจนักดมรุ่นใหม่ไปนัก วันนี้ ELLE MEN Thailand เลยจะรวม 5 น้ำหอมที่ชูกลิ่นวานิลลาเป็นโน๊ตเด่น เป็นตัวเลือกในการเสริมลุคหล่อช่วงสิ้นปี
#1 Eau Duelle จาก Diptyque
เริ่มต้นกันที่น้ำหอมขวดแรกที่ตีความกลิ่นหอมจากเส้นทางสายเครื่องเทศของ วานิลลา ตั้งแต่ยุคโบราณ มาสู่กลิ่นหอมสไตล์อโรมาติกที่ชื่อว่า Eau Duelle จาก Diptyque น้ำหอมกลิ่นนี้ชูกลิ่นหอมของ ฝักวนิลลา (Vanilla Bourbon) เป็นหัวใจของกลิ่นผสานไปกับโน๊ตอย่าง วู๊ดดี้, มัสก์, ร็อกโรส และปิดท้ายด้วยแอมบรอกซาน เหมาะมากสำหรับใครที่ต้องการความคอนทราสต์ในกลิ่นและใช้ได้ตั้งแต่เช้าจรดเย็น
#2 Vanilla Diorama จาก Christian Dior
ใครชอบกลิ่นที่มีความ Glam และต้องการคอมพลีตลุค Formal Vanilla Diorama จากคอลเล็กชั่น La Collection Privée สุดหรูแห่งเมซง Christian Dior คือคำตอบ น้ำหอมกลิ่นนี้รังสรรค์โดยสุคนธกรในตำนาน François Demachy น้ำหอมกลิ่นนี้มาในโทนกลิ่น Oriental Vanilla ด้วยการร้อยเรียงโน้ตกลิ่นอย่าง ส้ม, พริกไทยชมพู และเลม่อน เข้ากับโน๊ตกูร์มองด์อย่าง รัม, โกโก้ และกระวาน ปิดท้ายด้วยพระเอกอย่าง ฝักวนิลลา และแซนดัลวูด
#3 Vanilla Tonka จาก DONNA CHANG
น้ำหอมขวดถัดมาเป็นคอมโบที่เหมาะกับช่วงเทศกาลสุดๆ เพราะได้ผสมสองส่วนผสมอย่าง วานิลลา และ ถั่วตองก้า ที่มอบกลิ่นสุดอบอุ่นและเย้ายวนเข้าไว้ด้วยกัน Vanilla Tonka Eau de Parfum จาก Donna Chang จึงเป็นขวดที่เหมาะมากสำหรับหนุ่มที่อยากออกไปเริงร่าในช่วงนี้ โดยโน๊ตวนิลลามอบกลิ่นที่อบอุ่นสร้างความประทับใจให้กับคนรอบๆ ตัว ส่วน Tonka เข้ามาเสริมสเน่ห์และคาริสม่าให้กับคุณทุกครั้งที่ฉีดกลิ่นนี้
#4 Linen Vanilla จาก MITH
ปีใหม่นี้ใครอยากเซตมู้ดตัวเองให้ดูง่ายๆ สบายๆ ต้องน้ำหอมสัญชาติไทย Linen Vanilla จาก Mith ความพิเศษของน้ำหอมกลิ่นนี้คือได้สุคนธกรตัวท๊อปอย่าง Fabrice Pellegrin ที่เคยฝากผลงานการปรุงน้ำหอมในแบรนด์น้ำหอมนิชดังๆ มามาย โดยกลิ่นนี้นอกจากโน๊ตหลักอย่างวานิลลาแล้ว Fabrice ก็ยังได้เอาโน๊ตกลิ่นที่มีแนวกลิ่นพิเศษมากมายมาเบลนด์เข้า อาทิ แซฟฟรอน, กุหลาย และแอคคอร์ดกูร์มองก์ เพื่อมอบกลิ่นที่หรูหราแต่ทว่าก็ดู Cozy ไปพร้อมๆ กัน
#5 Vanilla Skin จาก PHLUR
ปิดท้ายกับน้ำหอมขวดสุดท้ายสำหรับชาวแอลเมนที่มองหา ‘น้ำหอมทางเลือก’ ที่ใส่ใจในเรื่องความยั่งยืนและผู้บริโภค อย่าง Vanilla Skin จาก Phlur แบรนด์น้ำหอมสุดคูลจากสหรัฐฯ นอกจากการใส่ใจในเรื่องของแหล่งที่มาของวัตถุดิบ ความอ่อนโยน และแพ็กเกจจิ้งสุดรักษ์โลกแล้ว ขวดนี้ยังมีดีตรงที่ผสานกลิ่นแนว Creamy และ Woody ด้วยโน๊ตอย่าง แคชเมียร์, น้ำตาล, พริกไทยสีชมพู และแซนดัลวูด มาช่วยเสริมคาแรกเตอร์อันนุ่มนวลของวานิลลา ซึ่งเหมาะมากสำหรับใครที่ชอบน้ำหอมสไตล์ Skin-Scent