3 เหตุผลที่ทำให้ Nothing OS 2.0 สมาร์ตโฟนเครื่องใหม่น่าลองใช้

หากใครยังคงตกหลุมรัก Nothing รุ่นแรกอยู่แล้ว ก็คงหลงรัก Nothing Phone (2) ไม่ยาก ด้วยการออกแบบมาสำหรับการใช้งานสมาร์ทโฟนอย่างชาญฉลาดมากขึ้น โดย Phone (2) นำเสนอ Glyph Interface ใหม่ที่ด้านหลัง ช่วยให้ผู้ใช้สามารถลดการโต้ตอบบนหน้าจอโดยการลดเวลาเข้าถึงข้อมูลสำคัญได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Nothing OS 2.0 ที่ปรับปรุงใหม่ซึ่งมาจากยูทิลิตี้และออกแบบมาเพื่อลดสิ่งรบกวน และยังมอบประสบการณ์ที่รวดเร็วและราบรื่นในเวลาเดียวกัน และยังคงรวบรวมความสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์ของ Nothing Phone (2) ขับเคลื่อนด้วย Snapdragon® 8+ Gen 1 ระดับแนวหน้า และยังมอบประสบการณ์สมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมที่ไม่เคยมีมาก่อนด้วยกล้องคู่ 50MP อันทรงพลังพร้อมอัลกอริทึมขั้นสูงสำหรับการถ่ายภาพที่สมจริงและจอแสดงผล LTPO OLED ขนาด 6.7 นิ้วที่สวยงามน่าทึ่ง

Notes: Phone (1) สมาร์ทโฟนรุ่นแรกได้รับรางวัล “สิ่งประดิษฐ์ยอดเยี่ยมแห่งปี 2565” อันทรงเกียรติจากนิตยสาร Time บริษัทในลอนดอนกำลังสร้างระบบนิเวศทางเลือกของผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีสำหรับคนรุ่นใหม่และผู้มีความคิดสร้างสรรค์ ด้วยการออกแบบที่ล้ำสมัยและการมีนวัตกรรมส่วนต่อประสานกับผู้ใช้ ผลิตภัณฑ์ของ Nothing ได้รับการพัฒนาโดยความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับชุมชนของพวกเขา ซึ่งรวมถึงนักลงทุนเอกชนกว่า 8,000 ราย และได้รับการประดิษฐ์ขึ้นด้วยความยั่งยืน

วันนี้เราจึงรวบตึง 3 เหตุผลที่ทำให้ Nothing OS 2.0 สมาร์ตโฟนเครื่องใหม่น่าลองใช้มาฝากชาวแอลเมน ให้ทุกคนได้นำไปประกอบการตัดสินใจ

เหตุผลแรก: การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์

Nothing ออกแบบ Phone (2) อย่างพิถีพิถันด้วยความใส่ใจในรายละเอียด พร้อมส่งมอบโทรศัพท์สมาร์ทโฟนรุ่นแรก Phone (1) เวอร์ชันปรับปรุงใหม่ Phone (2) ขอนำเสนอความงดงามที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งทำโดยวิธีการออกแบบที่สอดคล้องและสมมาตร และคำนึงถึงรูปทรง สี ตำแหน่ง และพื้นผิวของแต่ละส่วนประกอบอย่างรอบคอบ นอกจากนี้ยังมอบประสบการณ์การใช้งานจริงตามหลักสรีรศาสตร์ด้วยเฟรมกลางที่บางลง 1 มม. และกระจกด้านหลังที่นูนขึ้น โดยดีไซน์ Glyph Interface ใหม่ มาเพื่อส่งเสริมให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมในชีวิตประจำวันมากขึ้น โดยลดการโต้ตอบบนหน้าจอให้น้อยลง ผู้ใช้สามารถกำหนดลำดับแสงและเสียงส่วนบุคคลให้กับผู้ติดต่อแต่ละคนและแต่ละแอปได้ เพื่อรับรู้การแจ้งเตือนที่สำคัญ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันเพิ่มเติม เช่น ตรวจสอบระดับเสียง และจับเวลา ขณะที่การแจ้งเตือน Essential Glyph ช่วยให้ผู้ใช้ไม่พลาดสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับพวกเขา เมื่อได้รับการแจ้งเตือนจากผู้ติดต่อหรือแอปที่เลือกไว้ ไฟ LED ในส่วนด้านขวาบนจะสว่างอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะได้รับการรับรู้ และยังมี Glyph Composer ใหม่ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งประสบการณ์ของตนเองได้มากขึ้นด้วยการสร้าง Glyph Ringtones ที่ไม่ซ้ำใคร

เหตุผลที่สอง: การอัปเกรดกล้องที่ทรงพลัง

ใครที่ชื่นชอบถ่ายรูปลองเปิดใจให้ Phone (2) มอบประสบการณ์กล้องสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมที่สุด ณ ตอนนี้ ด้วยกล้องหน้า 32MP และระบบกล้องหลังคู่ที่มีเซ็นเซอร์ 50MP ขั้นสูงสองตัว พร้อมเซ็นเซอร์หลักที่ได้รับการอัปเกรดเป็น Sony IMX890 พร้อมทั้งมีความสามารถในการประมวลผลข้อมูลกล้องมากกว่า Phone (1) รุ่นก่อนถึง 4,000 เท่า เพราะมาพร้อมกับตัวประมวลผลสัญญาณภาพ (ISP) 18 บิตขั้นสูง สิ่งนี้ช่วยให้ Phone (2) ใช้ประโยชน์จากอัลกอริทึมได้ล้ำสมัยมากขึ้น ส่งผลให้ทั้งภาพถ่ายและวิดีโอมีความแม่นยำในระดับที่เหลือเชื่อ และด้วยการบันทึกข้อมูลที่เพิ่มขึ้นสามเท่า ฟังก์ชัน HDR ขั้นสูงจะใช้เฟรมแปดเฟรมโดยมีระดับแสงที่แตกต่างกันภายในโดเมน RAW ของเซ็นเซอร์ ซึ่งช่วยให้สามารถรักษารายละเอียดที่ซับซ้อนไว้ได้มากมายในแต่ละเฟรม ท้ายที่สุดจะรวมเข้าด้วยกันเพื่อสร้างภาพที่ให้ผลลัพธ์ที่เหมือนจริงที่สุด และ Motion Capture 2.0 ซึ่งเป็นเทคโนโลยี AI ขั้นสูง จะช่วยอำนวยความสะดวกในการระบุวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหวแบบเรียลไทม์ และรับประกันการโฟกัสที่แม่นยำในรายละเอียดที่สำคัญทั้งหมด เพื่อประสบการณ์การใช้งานกล้องที่ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังยกระดับความสามารถในการบันทึกวิดีโอด้วยความละเอียด 4K อันน่าทึ่งที่ 60fps ในกล้องหลังหลัก ประสบการณ์นี้ได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นด้วยโหมดแอ็คชั่น เพื่อให้มั่นใจถึงการถ่ายทำที่ราบรื่นแม้ในขณะเดินทาง ผู้ใช้สามารถคาดหวังผลลัพธ์ที่ราบรื่นไร้ที่ติ เพราะมี EIS (ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบอิเล็กทรอนิกส์) และ OIS (ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอล) ในตัว นอกจากนี้กล้องด้านหน้ายังช่วยให้สามารถบันทึกภาพตัวเองได้อย่างน่าหลงใหลด้วยความละเอียด 1080P ที่ 60fps

เหตุผลสุดท้าย: ความยั่งยืนคือหัวใจที่งดงามของ Nothing OS 2.0

ความพิเศษที่ต้องถูกใจ Gen Z กับ Phone (2) นับเป็นการสะสมและรวบรวมความคิดริเริ่มด้านความยั่งยืนของ Nothing ที่กำลังดำเนินอยู่ แม้จะมีคุณสมบัติและส่วนประกอบขั้นสูงกว่ารุ่นก่อน แต่ Phone (2) ก็สามารถลด CO2 ลงได้ 5 กก. ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของ Nothing ที่มีต่อความยั่งยืนตลอดหลายปีที่ผ่านมา ความคิดริเริ่มที่สำคัญดังต่อไปนี้มีส่วนทำให้เกิดความสำเร็จในครั้งนี้:
– กรอบตรงกลาง ปุ่ม และปลายถาดซิมทำจากอะลูมิเนียมรีไซเคิล 100%
– 80% ของชิ้นส่วนพลาสติกทำจากวัสดุรีไซเคิลและวัสดุชีวภาพ
– ดีบุกรีไซเคิล 100% ใช้กับแผงวงจร 9 แผ่น
– ฟอยล์ทองแดงรีไซเคิล 100% ใช้สำหรับแผงวงจรหลัก
– เหล็กรีไซเคิลกว่า 90% ใช้สำหรับชิ้นส่วนปั๊มเหล็กทั้งหมด 28 ชิ้น
– ไม่มีของเสียจากกระบวนการประกอบ
– พลังงานหมุนเวียน 100% ในโรงงานประกอบและโรงงานผลิตอะลูมิเนียมรีไซเคิล
– ได้รับการรับรอง FSC MIX (The Forest Stewardship Council) บรรจุภัณฑ์ปลอดพลาสติกที่มีเส้นใยรีไซเคิลมากกว่า 60%

Similar Articles

More