แอลเมนชวนหลอนขนลุกในบ้านกับภาพยนตร์ระทึกขวัญสั่นประสาทและลี้ลับเหนือธรรมชาติทั้งเดือนพฤศจิกายนนี้
CLUB ZERO

“รับประทานอาหารอย่างมีสติ” หนึ่งในหัวข้อวิชาการสอนของครูสาวลึกลับในโรงเรียนประจำลูกคนรวยแห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษ รับบทโดย Mia Wasikowska จาก Alice in Wonderland (2010) ยิ่งความสัมพันธ์ระหว่างครูกับนักเรียนยิ่งแน่นแฟ้นมากเท่าไหร่ พฤติกรรมการกินของเด็ก ๆ ก็แปรเปลี่ยนไปมากเท่านั้น ซึ่งนี่คือพล็อตเรื่องหลักของภาพยนตร์ Club Zero หนังสุดลือลั่นสั่นประสาทจากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ปีล่าสุด โดยผู้กำกับหญิงคนดังชาวออสเตรีย Jessica Hausner ที่ถนัดในเรื่องปั่นป่วน ยั่วยุอารมณ์ และทิ้งให้ผู้ชมคาใจไปหลายวันเมื่อหนังจบ แค่ชื่อวิชาเรียนก็ว่าแปลกแล้ว แต่เนื้อหาในการสอนนี่สิพิลึกยิ่งกว่า วิชา ‘รับรับประทานอาหารอย่างมีสติ’ นี้จะประหลาดแค่ไหน ไปพิสูจน์ได้ที่โรงภาพยนตร์ใกล้บ้านคุณ (เข้าฉาย 2 พฤศจิกายน) และทุกเมนูการกินของคุณจะไม่มีวันเหมือนเดิม เตรียมตัวพบกับฝันร้ายสุดระทึกได้เลย


Notes: Club Zero เป็นหนังตลกร้ายที่คุกรุ่นไปด้วยบรรยากาศแบบหนังสยองขวัญ ในฉากหลังที่มีเด็กวัยรุ่นหน้าใสและคุณครูผู้แสนดี ใครเป็นแฟนหนังของเจสสิกา เฮาส์เนอร์คงทราบดีว่า เราไม่สามารถไว้ใจและคาดเดาอะไรกับหนังของเธอได้เลย


Annabelle: Creation

หนังสยองขวัญสั่นประสาทสุดคลาสสิก ‘ตุ๊กตาตัวน้อย’ ที่เด็กต้องวิ่งหนี Annabelle: Creation (2017) หรือแอนนาเบลล์ ภาค 2: กำเนิดตุ๊กตาผี กับปีศาจตัวน้อยในตำนาน หนึ่งในจักรวาลของ The Conjuring (คนเรียกผี) ภาคสองนี้เล่าเรื่องการกำเนิดของตุ๊กตาสุดหลอกหลอนอย่างแอนนาเบลล์ สิบสองปีหลังจากการตายอันน่าสลดใจของลูกสาวตัวน้อยของสามีภรรยาคู่หนึ่งซึ่งทำอาชีพปั้นตุ๊กตาขาย พวกเขาต้องเผชิญกับความเงียบเหงาจนเกินจะรับไหว จนทั้งสองตัดสินใจต้อนรับแม่ชีและเด็กผู้หญิงหลายคนจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเข้ามาในบ้านของพวกเขา ในท้ายที่สุดพวกเขาได้กลายเป็นเป้าหมายของแอนนาเบลล์ ภาคสองนี้ได้รับเสียงชื่นชมจากนักวิจารณ์ในเรื่องบรรยากาศและการแสดงว่ามีการพัฒนาดีขึ้นกว่าภาคแรก อีกทั้งสามารถบิลด์อารมณ์ผู้ชมให้รู้สึกหวาดกลัวและลุ้นแทนตัวละครเด็ก ๆ ด้วย
Where can I see it: HBO GO


Notes: กำกับภาพยนตร์โดย David F. Sandberg เขียนบทโดย Gary Dauberman สามารถทำรายได้ทั่วโลกไปกว่า 303 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

Get Out

Get Out เป็นหนังระทึกขวัญต้นทุนต่ำที่ได้รับเสียงวิจารณ์ชื่นชมอย่างมหาศาล และกลายเป็นภาพยนตร์ฮิตที่ทำรายได้ทะลุบ็อกซ์ออฟฟิศ เขียนบทและกำกับการแสดงโดย Jordan Peele เรื่องราวเขย่าขวัญเมื่อหนุ่มผิวดำนามว่า ‘Chris Washington’ ต้องไปเยี่ยมบ้านแฟนสาวผิวขาว ‘Rose Armitage’ ซึ่งไปใช้เวลาช่วงสุดสัปดาห์ที่บ้านพ่อแม่ของโรส แต่เรื่องราวน่าแปลกประหลาดได้เกิดขึ้นระหว่างการเดินทางของพวกเขา และเมื่อทั้งสองไปถึงบ้านพ่อแม่โรส คริสกลับต้องพบเจอกับเรื่องราวชวนพิลึกที่เชื่อว่ามีต้นตอมาจากปัญหาเรื่องชาติกำเนิดของเขาเป็นแน่ จนคริสไปพบกับความจริงบางอย่างที่น่าสะเทือนขวัญ
Where can I see it: HBO GO

In My Mother’s Skin

เรื่องราวเกี่ยวกับ ‘Tala’ เธอเป็นลูกสาววัย 14 ปีของพ่อค้าสิ่งทอในฟิลิปปินส์ เธออาศัยอยู่กับน้องชาย ‘Bayani’ และแม่ที่ป่วยหนัก ‘Ligaya’ พวกเขาต้องอยู่ในคฤหาสน์ในป่าอันโดดเดี่ยวตามลำพังและรอคอยการกลับมาของพ่อที่หายตัวไปอย่างลึกลับ อีกไม่นานอาการของแม่เธอก็ทรุดลงอย่างรวดเร็ว Tala จึงออกตามหานางฟ้าลึกลับที่เคยสัญญาว่าจะปกป้องเธอ นางฟ้ามอบแมลงวิเศษให้เพื่อรักษาแม่ที่กำลังจะสิ้นใจ แต่ของขวัญวิเศษไม่ได้ช่วยแม่ของเธอตามที่นางฟ้าสัญญาไว้ซะทีเดียว เพราะแม้ความเจ็บป่วยจางหาย แต่ความอยากเนื้อมนุษย์ก็เข้ามาแทนที่ Tala จะทำอย่างไรต่อไป…
Where can I see it: Prime Video


The Taking Of Deborah Logan

เล่าเรื่องของกลุ่มนักศึกษาปริญญาเอกที่กำลังทำดุษฎีนิพนธ์เกี่ยวกับโรคอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุ จนมาพบเข้ากับกลุ่มตัวอย่าง-ครอบครัวของหญิงชรา คุณยาย Deborah Logan (รับบทโดย Jill Larson) ที่มีปัญหาเกี่ยวกับอาการผิดปกติทางจิตและทางกายด้วยโรคอัลไซเมอร์อย่างรุนแรงนานหลายปี เล่าลือกันว่าทุกค่ำคืนตัวของ Deborah Logan จะมีพฤติกรรมแปรเปลี่ยนไปจากปกติแบบสุดขั้ว จากกลางวันเธอจะเป็นเพียงหญิงชราวัยไม้ใกล้ฝั่งที่อยู่ในภาพซึมเศร้า เคลื่อนไหวเชื่องช้า…จวบจนตกกลางคืนเธอจึงเริ่มมีเรี่ยวแรง ขยับแขนขนราวคนบ้าคลั่ง มีพละกำลังวิ่งได้รวดเร็วยิ่งกว่าคนหนุ่มสาว (อาการคล้ายคนถูกผีเข้า) จนบางครั้งผู้คนใกล้ๆบ้านหลังนี้เริ่มกลัว หวาดระแวงหญิงชรา และสับสนกับพฤติกรรมดังกล่าวว่ามันเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่…
Where can I see it: Prime Video


