เป็นหนึ่งในคอลเล็กชั่นที่ดึงดูดใจนักสะสมและคนรักนาฬิกาหัตถศิลป์ อย่าง Presage ของ Seiko ที่ล่าสุดในงานแถลงข่าวออนไลน์เปิดตัวนาฬิกาคอลเล็กชั่นใหม่ประจำปี 2023 Seiko ได้นำเสนอหนึ่งในไฮไลต์คอลเล็กชั่นเด่นแห่งปี กับเสน่ห์ของงานฝีมือผ่านนาฬิกา Presage Craftsmanship Series ถึง 4 รุ่น โดยแต่ละรุ่นถ่ายทอดด้วยความสวยงามของหน้าปัดที่แตกต่างกัน เรียกได้ว่าตัดสินใจเลือกยากสำหรับคนที่รัก Presage โดยเฉพาะ
นับตั้งแต่ Seiko ผลิตและเปิดตัวนาฬิกาข้อมือเรือนแรกของญี่ปุ่นขึ้นในปี 1913 กับผลงานรุ่น Laurel ที่เป็นตัวแทนของนาฬิกาข้อมือซึ่งผสมผสานระหว่างความเชี่ยวชาญทางเทคนิค เทคโนโลยี เข้ากับงานฝีมืออันมีเอกลักษณ์เฉพาะของตนเอง จนถึงทุกวันนี้ Seiko ยังคงสืบทอดมรดกของการสร้างสรรค์นี้ไว้ในหลากหลายคอลเล็กชั่นของแบรนด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับครอบครัวนาฬิกา Presage ซึ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างดีในหมู่คนรักนาฬิกา คือผลงานที่หลอมรวมความเป็น Seiko เข้ากับความประณีตสวยงามของเทคนิคการตกแต่งและงานฝีมือไว้ได้อย่างวิจิตรสวยงาม ซึ่งแน่นอนว่าหลายคนก็ชื่นชอบในดีไซน์ที่สวยเด่น บวกกับเทคนิคเฉพาะที่นำมาใช้ในการตกแต่ง เช่น การตกแต่งบนหน้าปัดที่ทำให้นาฬิกาแต่ละเรือนแต่ละรุ่นของ Presage มีจุดเด่นและสวยสะกดสายตาไม่เหมือนใคร




Courtesy of the brand
ซึ่งปีนี้ นอกจากจะเป็นปีแห่งการเฉลิมฉลองครบรอบ 110 ปี การผลิตนาฬิกาข้อมือของ Seiko แล้ว ยังนับเป็นปีอันโดดเด่นสำหรับคอลเล็กชั่น Presage ที่ได้ต้อนรับสมาชิกใหม่กับนาฬิการุ่นพิเศษถึง 4 รุ่น ใน Presage Craftsmanship Series ที่สะท้อนถึงงานฝีมือดั้งเดิมของญี่ปุ่น ทั้งยังผสมผสานด้วยทักษะความเชี่ยวชาญด้านกลไกจักรกลของแบรนด์ ที่ยิ่งทำให้ซีรีส์นี้มีความน่าสนใจเป็นพิเศษ
จุดเด่นแรกของซีรีส์ คงต้องยกให้กับหน้าปัดสีสันสดใสที่เป็นผลลัพธ์มาจากการผสมผสานของทักษะงานฝีมือและศิลปะการตกแต่งแขนงต่างๆ โดยแต่ละเทคนิคที่เลือกมาใช้ยังผ่านการรังสรรค์โดยช่างฝีมือระดับปรมาจารย์และทีมของพวกเขา เพื่อแสดงออกถึงทักษะและเทคนิค รวมถึงความเชี่ยวชาญในงานฝีมือการตกแต่งที่จำเป็นสำหรับสร้างสรรค์หน้าปัดนาฬิกาแต่ละแบบของแต่ละรุ่นในซีรีส์ กับความท้าทายหลักๆ ย่อมเป็นพื้นที่ขนาดเล็กและจำกัดของหน้าปัดนาฬิกา ทำให้ช่างฝีมือต้องใช้ทั้งทักษะและความอุตสาหะเป็นพิเศษในการบรรจงถ่ายทอดแต่ละรายละเอียดของงานตกแต่งให้ดูสวยงามลงตัว โดยในนาฬิกาแต่ละรุ่นของซีรีส์พิเศษนี้คัดสรรและใช้วัสดุ รวมทั้งเทคนิคเฉพาะที่ต่างกันออกไป อย่าง การใช้เทคนิคอีนาเมล (Enamel) การเคลือบแล็กเกอร์แบบอุรุชิ (Urushi lacquer) ไปจนถึงกระเบื้องเคลือบด้วยเทคนิคอะริตะ (Arita porcelain) และการเคลือบอีนาเมลแบบชิปโป (Shippo enamel)
ตามมาด้วยความโดดเด่นของรูปทรง ที่ในซีรีส์ใหม่ยังพลิกโฉมโดยการใช้ตัวเรือนรูปทรงใหม่ ซึ่งสังเกตได้ชัดเจน ไล่จากขอบมุมของตัวเรือนที่ปรับให้ได้สัดส่วนและตกแต่งอย่างประณีต เพื่อช่วยขับให้หน้าปัดนาฬิกาสามารถถ่ายทอดความสวยงามของงานฝีมือได้อย่างเด่นชัด กับอีกหนึ่งดีไซน์ใหม่ คือการปรับให้นาฬิกามีความบางลงซึ่งรู้สึกได้เมื่อสวมบนข้อมือ ส่วนองค์ประกอบอื่นๆ เช่น ตัวเลขโรมันสลับกับเครื่องหมายอินเด็กซ์สำหรับแสดงชั่วโมง ก็ได้รับการออกแบบใหม่ให้มีความทันสมัย สะท้อนบุคลิกสไตล์เดรสวอทช์ร่วมสมัยที่คุ้นเคยของ Presage ได้อย่างดี นอกจากนี้ แต่ละรุ่นของซีรีส์ใหม่ยังประกอบด้วยกระจกหน้าปัดคริสตัลแซฟไฟร์ทรงโค้งคู่ ช่วยขยายให้หน้าปัดดูใกล้และกว้างขึ้น สำหรับการอ่านค่าได้อย่างชัดเจนมากขึ้น
นาฬิการุ่นพิเศษทั้ง 4 รุ่น กับหน้าปัดตกแต่งด้วยงานฝีมือและเฉดสีเฉพาะของแต่ละรุ่นนี้ล้วนได้มาจากงานฝีมือชั้นยอดโดยศิลปินช่างฝีมือเฉพาะสาขาและทีมของพวกเขา เริ่มกันด้วยความสวยงามบริสุทธิ์ของรุ่นหน้าปัดอีนาเมลสีขาว โดยฝีมือของ Mitsuru Yokosawa ที่ถ่ายทอดความสวยงามประณีตของหน้าปัดสไตล์ลงยา ซึ่งมีเอกลักษณ์ของความคงทนและคงความสวยงามได้ยาวนาน รุ่นนี้ยังเลือกบรรจุด้วยตัวเลขโรมันสีแดง ที่ 12 นาฬิกา ชวนให้นึกถึงนาฬิกาข้อมือรุ่น Laurel ดั้งเดิมของปี 1913 และทำงานด้วยเครื่องกลไก Caliber 6R24 กับการแสดงวันและวันที่ รวมถึงการแสดงพลังงานสำรอง




Courtesy of the brand
ต่อกันด้วยหน้าปัดเฉดสีแดงมีชีวิตชีวาที่น่าจะโดนใจหลายคนเป็นพิเศษ ซึ่งหน้าปัดของรุ่นนี้ได้มาจากเทคนิคการตกแต่งแบบ Urushi lacquer งานฝีมือของญี่ปุ่นที่พบได้ทั้งในการตกแต่งชามซุปหรือเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ กับเสน่ห์เฉพาะของเทคนิคนี้ คือความเงาวาวและเรียบเนียนของพื้นผิว ทั้งยังถ่ายทอดเฉดสีได้อย่างรุ่มรวย โดยรุ่นนี้มาพร้อมเฉดสีน้ำตาลทองแดงที่ได้แรงบันดาลใจมาจากวิวถนนคานาซาว่า หรือเมืองที่ได้รับฉายาว่า “บึงทอง” ในเขตจังหวัดอิชิกาวะ หน้าปัดเฉดสีพิเศษนี้รังสรรค์โดย Isshu Tamura ปรมาจารย์ด้านอุรุชิและทีมของเขา และรุ่นนี้ทำงานด้วยเครื่องกลไก Caliber 6R24 เหมือนกับรุ่นหน้าปัดอีนาเมลสีขาว
เฉดสีงาช้างเป็นตัวแทนของความคลาสสิกเหนือกาลเวลา ที่ Seiko ได้นำมาผสมผสานกับรุ่นหน้าปัดสีงาช้างใหม่ ได้แรงบันดาลใจมาจากทุ่งหินเซรามิกอิซุมิยามะในอะริตะ เมืองเล็กๆ ของเขตจังหวัดซากะ ที่มีชื่อเสียงด้านเครื่องลายครามของญี่ปุ่น หน้าปัดของรุ่นผ่านการสร้างสรรค์ของ Hiroyuki Hashiguchi ช่างฝีมือชั้นครูและทีมของเขา ที่กว่าจะได้มาเป็นหน้าปัดกระเบื้องเคลือบสีงาช้างชวนมองนี้ ต้องผ่านหลากหลายขั้นตอนของการตกแต่ง รวมถึงอาศัยทักษะเฉพาะและความอดทนอย่างสูง จากความซับซ้อนของกระบวนการเผาในเตาเผาที่ร้อนระอุหลายครั้ง เพื่อช่วยรักษาความคงทนและความสดใสของสีสัน ไปจนถึงพื้นผิวและความมีมิติให้อยู่ได้ยาวนาน รุ่นนี้ทำงานด้วยเครื่อง Caliber 6R27 กับหน้าปัดย่อยแสดงวันที่ ที่ 6 นาฬิกา พร้อมทั้งการแสดงพลังงานสำรอง
ปิดท้ายด้วยความสง่างามในเฉดสีน้ำเงินเข้มของอีกหนึ่งงานฝีมือระดับมาสเตอร์พีซโดยฝีมือการรังสรรค์ของ Wataru Totani และทีม ที่มีความเชี่ยวชาญในศิลปะอีนาเมลแบบ โอวาริ ชิปโป (Owari Shippo) นำมาผสมผสานในแบบต้นตำรับของญี่ปุ่นลงบนหน้าปัดนาฬิกา กับเอกลักษณ์ของวิธีการเคลือบผิวหน้าปัดด้วยมือ ก่อนจะนำไปเผาและขัดเงา ที่ต้องใช้ความพิถีพิถันละเอียดอ่อน เนื่องจากหน้าปัดแต่ละชิ้นมีความหนาแค่เพียง 1 มม. เท่านั้น และหน้าปัดสีน้ำเงินเข้มของรุ่นนี้ยังมีมิติของลวดลายเกลียวคลื่นที่ได้มาจากแรงบันดาลใจของมหาสมุทร พร้อมทั้งการทำงานของเครื่อง Caliber 6R27 แสดงวันที่และพลังงานสำรองเช่นกัน
นาฬิกาทั้ง 4 รุ่นจะวางจำหน่ายนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2023 เป็นต้นไป ที่บูติก Seiko และตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับการคัดเลือกทั่วโลก และแต่ละรุ่นของ Presage Craftsmanship Series Enamel Dial Limited Edition รหัส SPB393, Presage Craftsmanship Series Urushi Lacquer Dial Limited Edition รหัส SPB395 และ Presage Craftsmanship Series Arita Porcelain Dial Limited Edition รหัส SPB397 จะผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 1,500 เรือนทั่วโลก ยกเว้น Presage Craftsmanship Series Shippo Enamel Dial Limited Edition รหัส SPB399 ที่มีจำนวนจำกัดเพียง 800 เรือน




Courtesy of the brand