แอลเมนรวมเซเลบริตี้ระดับโลก ซีรีส์ ภาพยนตร์ และคอนเสิร์ตปี 2023 ที่เป็นตัวชี้วัดแล้วว่าสร้างกระแสให้กับแบรนด์แฟชั่นได้
ปีที่ผ่านมามีปรากฏการณ์ที่ไม่คาดคิดได้เกิดขึ้นที่โชว์ Louis Vuitton คอลเล็กชั่นเดบิวต์ของ Pharrell Williams ที่สามารถสร้างมูลค่าทางสื่อ (MIV) กว่า 42 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นครั้งแรกที่โชว์ของผู้ชายสามารถสร้างมูลค่าทางสื่อได้มากกว่าผู้หญิง เหตุผลหลัก ๆ เลยที่ทำให้โชว์ของเขาเป็นที่พูดถึงมาจากองค์ประกอบของการผสมผสานกันระหว่างแฟชั่นและเอนเตอร์เทนเมนต์ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนของเซเลบริตี้และอินฟลูเอนเซอร์ระดับโลกที่ฟรอนต์โรว์และอาฟเตอร์ปาร์ตี้ที่ได้ Jay-Z ขึ้นโชว์ร้องเพลงร่วมกับฟาเรลล์
ไม่ใช่แค่เรื่องอินฟลูเอนเซอร์อย่างเดียว กระแสของภาพยนตร์ก็ทรงอิทธิพลด้วยเช่นกัน เทรนด์ Barbiecore จะไม่เกิดหากภาพยนตร์ Barbie ไม่ประสบความสำเร็จระดับนี้ แบรนด์ที่ออกคอลเลกชั่นหรือมีส่วนร่วมเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้ล้วนได้ฟีดแบ็กที่ดีตามกระแสของภาพยนตร์ทำเงินสูงสุดของปี 2023
หรือกระแส Quiet Luxury ที่ถูกขับเคลื่อนแบบปากต่อปากจากซีรีส์หักเหลี่ยม Succession ทำให้ชื่อของ Loro Piana ถูกพูดถึงเป็นวงกว้างพร้อมกระแสการแต่งตัวเรียบหรูที่หลายแบรนด์ต่างขานรับปรับล้างกระดาน Y2K
อีกด้านหนึ่งคอนเสิร์ตเวิลด์ทัวร์ของศิลปินระดับโลกสร้างอิมแพกต์ระดับมหาศาลให้กับแบรนด์แฟชั่นด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Harry Styles กับ Love On Tour หรือ Taylor Swift กับ The Eras Tour ซึ่งรายหลังสามารถสร้างปรากฏการณ์ทำยอดขายตั๋วคอนเสิร์ตไปกว่าพันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ
แต่คงไม่มีใครสร้างอิมแพกต์ได้ยิ่งใหญ่เท่า Beyoncé ใน Renaissance World Tour กับพาเหรดเสื้อผ้าจากแบรนด์ชั้นนำกว่า 140 ชุดที่เธอสลับสับเปลี่ยนสวมใส่สร้างเซอร์ไพรส์ได้ตลอดเวลา สร้างภาพจำจนส่งให้แบรนด์ติดยอดเสิร์ชสูงสุด
ในปี 2024 นี้เราจะได้เห็นสิ่งนี้อีกแน่นอน อินฟลูเอนเซอร์จากประเทศไทยน่าจะกลายเป็นเป้าหมายใหม่ของวงการแฟชั่น ดูได้จากมาย-ภาคภูมิ และอาโป-ณัฐวิญญ์ ที่พาตัวเองติดท็อปห้าของอินฟลูเอนเซอร์เทียบเท่าเซเลบริตี้ระดับโลกคนอื่น ๆ รวมถึงซีรีส์ ภาพยนตร์ และคอนเสิร์ตที่ปี 2023 เป็นตัวชี้วัดแล้วว่าสร้างกระแสให้กับแบรนด์แฟชั่นได้ ไม่แปลกเลยที่เราจะเห็นการผสมผสานของโลกสองใบนี้อีกครั้ง