เช้านี้ (29 ตุลาคม) เกิดเรื่องน่าเศร้ากับ Matthew Perry (แมทธิว เพอร์รี) ด้วยวัย 54 ปี หนึ่งในนักแสดงดังจาก ‘Friends‘ ซีรีส์ยอดฮิตแห่งยุค ’90s เจ้าของบทบาท Chandler Bing (แชนด์เลอร์ ปิง) หนึ่งในผู้สร้างตำนานซีรีส์ซิทคอมจากอเมริกาที่ขึ้นแท่นซีรีส์ในดวงใจของใครหลายคน การจากไปของเพอร์รีล่าสุด Warner Bros Television Group ผู้ผลิต Friends ทั้ง 10 ซีซั่นตั้งแต่ปี 1994 ถึง 2004 ได้เชิดชู “เพื่อนรักของเรา” และ “นักแสดงผู้มีพรสวรรค์อย่างเหลือเชื่อ”
“เขาคืออัจฉริยภาพในการแสดงด้านคอเมอดี้ที่โด่งดังและครองใจคนทั่วโลก ผลงานของเขาจะคงอยู่ในหัวใจของผู้คนมากมาย และวันนี้เป็นวันที่อกหักอีกวันหนึ่งของเรา สุดท้ายนี้เราขอส่งความรักไปยังครอบครัวของเขา คนที่เขารัก และแฟน ๆ ที่ภักดีของเขาทุกคน”
Matthew Perry แจ้งเกิดใน ‘Friends‘
หลังจากแสดงบทบาทเล็กๆ ใน Growing Pains, Beverly Hills 90210 และ Dream On เพอร์รีก็รับบทแชนด์เลอร์ บิง ที่มีคาแล็กเตอร์ชอบประชดประชันและกวนประสาทใน Friends ซีรีส์คอมเมดี้เกี่ยวกับเพื่อนหกคนที่อาศัยอยู่ในนิวยอร์กซิตี้ ซึงเรื่องนี้กลายเป็นปรากฏการณ์ระดับโลกที่ได้รับรางวัล Emmy หลายรางวัล รวมถึงเพอร์รีได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลเอ็มมี ครั้งหนึ่ง และทำเรตติ้งสูงเป็นประวัติการณ์ในตอนจบปี 2004 มีผู้ชมมากกว่า 52 ล้านคนในสหรัฐอเมริกา ทำให้เป็นตอนรายการทีวีที่มีผู้ชมมากที่สุดในช่วงปี 2000 และตอนนี้ก็มีฉายใน Netflix
เพอร์รีอายุ 24 ปีเมื่อเขาเริ่มเล่นเป็นแชนด์เลอร์ ร่วมกับ เจนนิเฟอร์ อนิสตัน, ลิซ่า คุดโรว์, แมตต์ เลอบลังก์ และเดวิด ชวิมเมอร์ ในการให้สัมภาษณ์ปี 2019 David Crane ผู้ร่วมสร้าง Friends กล่าวว่าแชนด์เลอร์เป็นตัวละครที่คัดเลือกยากที่สุด โดยมีนักแสดง Craig Bierko, Jon Cryer และ Jon Favreau ก็พิจารณาให้รับบทนี้ด้วย

ในระหว่างที่เขาเล่นเรื่อง Friends เพอร์รีได้แสดงในภาพยนตร์หลายเรื่องรวมถึง Fools Rush In ที่แสดงร่วมกับ ซัลมา ฮาเย็ก, Three to Tango ร่วมกับนีฟ แคมป์เบลล์ และ The Whole Nine Yards ร่วมกับบรูซ วิลลิส นอกจากนี้เขายังมีบทบาทเล็ก ๆ ใน Ally McBeal และ Scrubs

ประวัติโดยย่อของ Matthew Perry
เพอร์รีเกิดที่แมสซาชูเซตส์ในปี 1969 โดยมีพ่อเป็นชาวอเมริกันและแม่เป็นชาวแคนาดา เขาเติบโตในแคนาดา โแม่ของเขาทำงานเป็นผู้ช่วยสื่อมวลชนให้กับนายกรัฐมนตรีปิแอร์ ทรูโดของแคนาดา เขาได้บันทึกความทรงจำในหนังสือ Friends, Lovers, and the Big Terrible Thing ที่ขายดีที่สุดประจำปี 2022 เพอร์รีเล่าถึงการแสดงหลังจากที่พ่อของเขาละทิ้งครอบครัวเพื่อไล่ตามความฝันของตัวเองในการเป็นนักแสดง รวมถึงการรังแกจัสติน ทรูโด ในวัยเยาว์ด้วย
เมื่ออายุ 15 ปี เพอร์รีย้ายไปฮอลลีวูด ด้วยความหวังว่าจะได้สานสัมพันธ์กับพ่อของเขาอีกครั้ง ที่นั่นเขาเริ่มสนุกกับการแสดง และในที่สุดก็ถูกพบเห็นในร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่งมีข้อความว่า “มีเสน่ห์ของหญิงสาวจำนวนมาก” โดยผู้กำกับวิลเลียม ริชเชิร์ต ซึ่งทิ้งข้อความไว้ขอให้เขาแสดงในภาพยนตร์เรื่องต่อไปของเขา A Night in the Life of Jimmy Reardon ร่วมกับ ริเวอร์ ฟีนิกซ์
ตั้งแต่ปี 1997 ชีวิตส่วนตัวของเพอร์รีเริ่มพังทลายลงด้วยการติดยา เขาติดยาแก้ปวดหลังจากเกิดอุบัติเหตุบนเจ็ตสกี
“ฉันรับประทานไวโคดิน 55 เม็ดต่อวัน ฉันหนัก 128 ปอนด์ ฉันอยู่ในรายการ Friends ที่มีผู้คนรับชมถึง 30 ล้านคน และนั่นคือสาเหตุที่ฉันไม่สามารถดูรายการได้ เพราะว่าฉันผอมมาก” เขากล่าว เพอร์รียอมรับในภายหลังว่าเขามีความวิตกกังวลอย่างรุนแรง “ทุกคืน” ขณะถ่ายทำถ่ายทำ และบอกว่าเขาไม่รู้สึกอะไรเลยเมื่อซีรีส์จบลง
“เมื่อคุณมีชื่อเสียงคุณจะรู้ว่านี่ไม่ใช่คำตอบ และไม่มีใครที่ไม่มีชื่อเสียงจะเชื่ออย่างนั้นจริงๆ” เพอร์รีเขียนไว้ในหนังสือ Friends, Lovers, and the Big Terrible Thing