ชีวิตวัย 25 ของ พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร กำลังก้าวไปอีกขั้นในระดับ ‘โกอินเตอร์’ สลัดภาพเด็กมัธยมจนหมดสิ้นด้วยท่วงท่าสุขุมในชุดสีดำทะมึนตัวโคร่งที่เขาเพิ่งจะสวมใส่เดินทอดกายบนรันเวย์เรียบแม่น้ำหวงผู่ กระทั่งเกิดเป็นปรากฏการณ์ติดเทรนด์อันดับหนึ่งในโลกโซเชียลมีเดียเมื่อตอนปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ยังไม่นับตัวเลขมูลค่าทางสื่ออีกจำนวนมหาศาล ซึ่งการันตีถึงชื่อเสียงและความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่สำหรับชีวิตวัยรุ่นคนหนึ่ง
ไม่ปล่อยให้นานเกินรอ ทิ้งช่วงเพียงแค่คืนเดียวเท่านั้น เสียงหัวเราะของพีพีก็ดังขึ้นทำลายความสงบเงียบของมหานครเซี่ยงไฮ้ในช่วงเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ซึ่งถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพแฟชั่นเซ็ตฉบับประจำเดือนตุลาคม 2024 การกลับมาเยือนแอลเมนคราวนี้ ถือเป็นโอกาสครั้งที่สองในฐานะฟรอนต์แมน ภายใต้บทบาท Brand Ambassador คนไทยคนแรกของ Balenciaga นับตั้งแต่ปี 2023 ซ้ำยังเพิ่งผ่านโมเมนต์ที่น่าจดจำมาหมาดๆ อีกด้วย
“ทีมงานเริ่มถ่ายกันตั้งแต่ 6 โมงเช้า ย้ายโลเคชั่นไปตามจุดต่างๆ ของเดอะบันด์ บรรยากาศเมืองเซี่ยงไฮ้ในวันหยุดไม่ค่อยมีผู้คนสัญจรสักเท่าไหร่ เอื้อให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นและเสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว เสื้อผ้าที่ผมสวมใส่ในวันนี้ก็เข้ากับอากาศที่เย็นสบายกำลังดี ไม่เหมือนตอนถ่ายปกกับแอลเมนครั้งแรกเมื่อปลายปีก่อนที่เซ็ตฉากกันในสตูดิโอ ภาพถ่ายชุดนี้จึงแตกต่างด้วยมู้ดแอนด์โทนของมหานครที่ไม่เคยหลับใหลในช่วงฤดูใบไม้ผลิ หวังว่าทุกคนจะชื่นชอบเช่นเดียวกันกับผม” พีพีบอกเล่าประสบการณ์ล่าสุดอย่างเจื้อยแจ้ว พร้อมทั้งรีแคปความทรงจำที่เกิดขึ้นตลอดช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมาให้ทุกคนฟังขณะนั่งคุยกันเกือบชั่วโมง
จากวันแรกที่เห็นพีพีในละครเรื่อง My Ambulance รักฉุดใจนายฉุกเฉิน นับตั้งแต่นั้นชีวิตการทำงานของพีพีดูเหมือนจะมีทั้งงานแสดงและงานดนตรีพาดสลับอยู่บนเส้นทางเดียวกันอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นผลงานซีรีส์เรื่อง แปลรักฉันด้วยใจเธอ เดบิวต์เพลงเดี่ยว It’s Okay Not To Be Alright ต่อด้วย I’ll Do It How You Like It รวมถึงผลงานซิงเกิ้ล Fire Boy ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ซึ่งเกิดขึ้นภายใต้สังกัดของตัวเองในชื่อ PPKrit Entertainment
“ซิงเกิ้ลแรกที่ผมได้ทำภายใต้สังกัดของตัวเองคือเพลง Fire Boy ผลงานนี้เปิดโอกาสให้ผมได้ทำงานหลายภาคส่วน ไม่ใช่แค่เสนอไอเดียหรือวางคอนเซ็ปต์เท่านั้น แต่ยังเข้าไปมีส่วนร่วมในการทำโปรดักชั่น รวมถึงบริหารจัดการในพาร์ตต่างๆ ด้วย ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ที่น่าจดจำครั้งหนึ่งในชีวิต เรื่อยมาจนถึงเพลง ลังเล จากนั้นก็ต่อด้วย เส้นเรื่องเดิม (Rerun) และ เสนอตัว (Ooh!) ซึ่งทำเอ็มวีเป็นหนังสั้น ทำให้ทุกอย่างค่อยๆ สมูธขึ้น เพราะเราผ่านการลองผิดลองถูกมาแล้วหลายครั้ง ที่จริงยังเหลืออีกหนึ่งซิงเกิ้ลนะ กำลังจะปล่อยออกมาให้ฟังกันเร็วๆ นี้”
ย้อนกลับไปในวัยเด็ก เคยคิดมาก่อนไหมว่าวันหนึ่งเราจะได้เป็น someone ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง
ตอนเด็กผมขี้อายมาก ไม่มั่นใจในทัศนคติของตัวเอง มัวแต่โฟกัสว่าคนอื่นจะมองเรายังไง คนอื่นจะคิดยังไงกับเรา จนเราไม่กล้าเป็นตัวเอง กลัวที่จะแสดงออก เลยไม่คาดคิดมาก่อนว่าวันนี้จะกลายเป็นที่รู้จักในวงกว้าง
พอมาถึงวันที่คุณกลายเป็น someone จริงๆ มันให้ความรู้สึกยังไง
หลังกลับจากการเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนเมื่อประมาณ 7 – 8 ปีที่แล้ว ผมก็เริ่มเปิดบัญชีโซเชียลมีเดีย จนกระทั่งมีทีมแคสติ้งจากนาดาวมาเห็นและติดต่อเข้ามา ยอมรับว่าช่วงแรกๆ รู้สึกไม่ชินที่มีคนให้ความสนใจ แต่พอได้เข้าร่วมเวิร์กช็อป ได้ละลายพฤติกรรม ก็เริ่มรับมือกับความรู้สึกเหล่านั้นได้ดีมากขึ้น
ช่วงปีไหนที่รู้สึกว่าพีคที่สุด
ตอนซีรีส์ แปลรักฉันด้วยใจเธอ เพิ่งจบใหม่ๆ ถือเป็นช่วงที่พีคที่สุด ในหนึ่งวันมียอดฟอลโลเวอร์เพิ่มทีละ 300K – 400K เริ่มมีแฟนคลับจากประเทศอื่นๆ เข้ามาติดตามมากขึ้นจนน่าตกใจ
ตลอดเส้นทางที่ผ่านมาคงไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ คุณมีวิธีก้าวผ่านความรู้สึกในวันที่เปราะบางได้อย่างไร
เราทุกคนล้วนมีด้านที่อ่อนแอ แค่ต้องยอมรับให้ได้ว่าตัวเองกำลังอยู่ในช่วงเปราะบาง เมื่อไหร่ที่รู้สึกแบบนั้นผมจะค่อยๆ คิดหาสาเหตุ แล้วค่อยๆ หาทางแก้ไขด้วยการปรึกษาเพื่อน ครอบครัว หรือคนใกล้ตัว เมื่อเราข้ามผ่านไปได้ก็จะจดไว้เป็นบทเรียน
เด็กหนุ่มวัย 25 ปี กับความเชื่อว่าคนเราสามารถเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต
ผมเชื่อว่าการเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด จริงๆ แล้วคนเราสามารถพัฒนาตัวเองและหาความรู้ใหม่ๆ เพิ่มเติมได้ตลอดเวลา อย่างในด้านการแสดง ผมยังถือว่ามีประสบการณ์ไม่มากนัก ทุกวันนี้ก็ต้องเข้าคลาสแอคติ้งเพื่อทำเวิร์กช็อปอย่างสม่ำเสมอ เพราะอยากพัฒนาตัวเองให้มากขึ้น ทั้งการร้องเพลง การเต้น การเดินแบบ การแสดง รวมถึงด้านภาษา เหนือสิ่งอื่นใดคือต้องเชื่อว่าตัวเองทำได้
เราไม่แปลกใจถ้าวัยรุ่นมากมายจะมีเขาเป็นไอดอล หลังจากได้ทำความรู้จักพีพีผ่านการสนทนาตัวต่อตัวและได้ดูโชว์ Billkin & PP Krit Double Trouble Concert ที่เพิ่งจบลง ก็ไม่สงสัยเลยว่าทำไมทุกคนถึงได้รักและเอาใจช่วยเด็กคนนี้ให้ประสบความสำเร็จอย่างสุดกำลัง “ในอนาคตถ้ามีโอกาสได้กลับมาอ่านบทสัมภาษณ์นี้อีกครั้ง เชื่อว่าตัวเองจะเติบโตเป็นพีพีในเวอร์ชันที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน” พีพีกล่าวทิ้งท้าย
Editor-in-Chief: Nichakul Kitayanubhongse
Photographer: Wasu Sukatocharoenkul
Makeup: Witsarut Jullasorn
Hair: Roangritz Apisitvachiramatee