Words: Panicha Imsomboon
ภีมวสุ-วสุพล พรพนานุรักษ์ หรือ ภีมวสุ BUS มาขึ้นปก ELLE Men Thailand เป็นครั้งแรกเมื่อ 1 ปีก่อน แต่ช่วงเวลาจากครั้งนั้นจนถึงครั้งนี้ที่เป็นการร่วมงานกับ BVLGARI ดูเหมือนจะมีอะไรเกิดขึ้นมากมายในชีวิตการเป็นศิลปินของเขา ทั้ง Fancon Tour ใน 5 จังหวัดทั่วประเทศ คอนเสิร์ตครบรอบ 1 ปี และคอนเสิร์ตใหญ่ทั้ง 3 รอบที่อิมแพ็ค อารีน่า ซึ่งทุกงานมีคำว่า ‘Sold Out’ พ่วงมาด้วยทั้งนั้น ยังไม่รวมถึงการเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับสินค้าแบรนด์ต่างๆ ที่ทำให้ได้เห็นหน้าเขาและสมาชิกคนอื่นๆ ของวงแทบทุกที่ที่ไป จนแฟนคลับอย่าง BEUS มักจะพูดกันติดปากว่า “บัสอีทประเทศไทย”
จากเด็กวัยรุ่นที่เคยคิดว่าอยากเข้าวงการเป็นนักแสดง ภีมวสุกลายเป็นศิลปินเต็มตัวจนทำให้วัย 18 ปีคือวัยที่เขาพูดได้อย่างเต็มปากว่า “ภีมโตกว่าวัย เพราะการเป็นศิลปินสอนให้ภีมมองเห็นคนในหลายมุมขึ้น ทัศนคติก็โตขึ้น มีเรื่องที่ต้องตระหนักถึงมากกว่าเด็กอายุ 18 ธรรมดา”
การเติบโตของภีมวสุไม่ได้มีแค่เรื่องความคิดเท่านั้น แต่ยังรวมถึงทักษะด้านการเป็นศิลปินโดยตรง ซึ่งภีมพูดถึงเรื่องนี้ว่า “ทักษะทั้งการร้องและการเต้นพัฒนาขึ้นเยอะมาก การเข้ามาที่ 789 ของภีมคือครั้งแรกของทุกอย่างที่ได้ลอง ทุกวันนี้อยู่กับมันมา 2-3 ปีแล้ว ก็คิดว่ารู้จักร่างกายและเสียงตัวเองมากขึ้น แต่ก็ยังอยากพัฒนาอีก คิดมาสักพักแล้วว่าอยากเรียนเต้น อยากพัฒนาสกิลตัวเองเรื่องนี้ เรื่องร้องก็ด้วย แต่ถ้าต้องเลือกตอนนี้ก็อยากเรียนเต้นเพิ่มเติมก่อน”
แต่การร้องและการเต้นไม่ใช่แค่สองสิ่งที่ภีมวสุให้ความสำคัญในฐานะศิลปิน สำหรับเขา สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความสุขของคนดู
“ภีมไม่ได้ให้ความสำคัญกับการร้อง การเต้น หรือการสื่อสารกับแฟนๆ อย่างใดอย่างหนึ่งมากกว่ากัน เพราะทั้งสามอย่างต้องรวมกันเพื่อทำให้คนดูมีความสุขจากการเสพผลงานของเรา ทำให้เขามีความสุขในวันที่ได้มาเจอเรา” มักเน่ของวงพูดถึงเรื่องสำคัญสำหรับเขา
การเป็นที่รู้จักมากขึ้นในฐานะบุคคลสาธารณะทำให้เส้นแบ่งระหว่างชีวิตส่วนตัวและชีวิตการทำงานเปลี่ยนไปจากที่เคย จนทำให้อยากรู้ว่า ภีมวสุที่มีผู้ติดตามกว่า 1.6 ล้านคนในอินสตาแกรมมีวิธีรับมือกับเรื่องนี้อย่างไร
“ตั้งแต่มาเป็นศิลปินก็รู้ว่าอยู่แล้วว่า มีสิ่งที่เราต้องยอมรับ เราจะใช้ชีวิตแบบไปสุดกับเรื่องส่วนตัวก็ไม่ได้ เพราะการเป็นศิลปินต้องแบ่งเวลาให้งานมากกว่าชีวิตส่วนตัว แต่ถ้ามีเวลาว่างก็จะชวนครอบครัวไปกินข้าวบ้าง ชวนเพื่อนบ้าง สลับกันไป ถ้าไม่มีก็ไม่ได้ไป เอาเท่าที่มีเวลา แต่ไม่ได้เสียใจอะไร เพราะเป็นเรื่องที่เรายอมรับแต่แรกอยู่แล้ว”
ทุกงานที่เห็นมาพร้อมกับความท้าทายใหม่ๆ เสมอ ส่วนตารางงานที่เต็มเหยียดก็ตีคู่มากับความเหน็ดเหนื่อยที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งสิ่งที่ทำให้ภีมวสุก้าวต่อไปได้ในวันที่เขาบอกว่าเหนื่อยหรือท้อก็คือ ความคิดที่ต้องทำโอกาสที่ได้รับให้ดีที่สุด เขาอธิบายเพิ่มว่า “เวลาที่เหนื่อยมากๆ จะคิดถึงหลายคนที่เขามีฝันอยากจะเป็นไอดอลหรือศิลปินตั้งแต่เด็ก ภีมจะบอกตัวเองว่ามีหลายคนที่อยากมายืนตรงนี้นะ สิ่งที่เรากำลังทำอยู่เป็นสิ่งที่อีกหลายคนอยากทำ เป็นความฝันของเขาเหมือนกัน เราโชคดีมากที่ได้มายืนตรงนี้แล้วเราก็ทำจนได้ จนเราอยากเป็นศิลปิน เพราะฉะนั้นเราต้องทำโควตาตรงนี้ให้เต็มที่ ทำให้มันดีที่สุด”
การเป็น BUS สอนอะไรภีมวสุหลายต่อหลายเรื่อง แต่ถ้าให้เลือกบทเรียนที่สำคัญที่สุดตลอดกว่า 1 ปีที่ผ่านมา คำตอบของเขาคือความสามัคคีและความไว้เนื้อเชื่อใจกัน
“พอเราทำงานเป็นทีม ต้องมีความรับผิดชอบด้วยกันทั้ง 12 คน เพราะเรามีคำว่า BUS ต่อท้ายชื่อทุกคน คนหนึ่งจะทำอะไรหรือไม่ทำอะไรมันมีผลกับเพื่อนทั้ง 11 คนเสมอ แล้วก็ได้เรียนรู้ว่า ถ้าอยากให้วงเราไปได้ไกล มีอะไรต้องคุยกัน อย่าทิ้งไว้ให้เป็นปัญหาหรือเรื่องใหญ่โต นี่คือสิ่งที่ได้เรียนรู้ในช่วง 1 ปี”
นอกจากบทบาทในการเป็น ‘ภีมวสุ BUS’ อีกหนึ่งบทบาทใหม่ของเขาคือการเป็นเฟรชชีในรั้วมหาวิทยาลัย ซึ่งพี่ปี 1 คนนี้มีเรื่องที่อยากฝากถึง BEUS วัยมัธยมว่า “ถ้าพี่จบมาได้ น้องก็ต้องจบมาได้เหมือนกัน หมายถึงว่า ผมจบ ม.6 มาได้ในช่วงเวลาที่ไม่ง่าย ต้องทำงานไปด้วย เพราะฉะนั้นคนที่กำลังเรียนอยู่ก็จะผ่านไปได้เหมือนกัน อย่าอ่านหนังสือจนเครียดเกิน ปล่อยให้ตัวเองได้มีเวลาพักผ่อนบ้าง อย่าลืมอ่านหนังสือแบบมีความสุข“
“อีกเรื่องที่อยากฝากบอกก็คือ ถ้ามีอะไรที่ตัวเองอยากทำ มีความฝัน ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม อยากให้ลองทำเลย เพราะถ้าไม่ลองก็จะไม่รู้ว่าเราทำได้ไหม ที่ภีมทำได้ตอนนี้เพราะว่าภีมลองในตอนนั้น ก็เลยอยากให้ทุกคนลองดู ถ้ามันไม่ใช่จริงๆ ก็ยังมีทางอื่นให้เราค้นหาอีก แล้วก็อย่าลืมใช้ชีวิตให้มีความสุขนะครับ”
เพราะความสุขของแฟนๆ คือเรื่องสำคัญเสมอสำหรับภีมวสุ
Credit Team
Photographer: Punsiri Siriwetchapun
Editor in Chief: Nichakul Kitayanubhongse
Fashion Editor: Ratchakrit Chalermsan
Makeup : Sutipat Pinchum
Hair : Kongkiat Krissakree