จากศิลปินรุ่นใหม่ผู้มีเอกลักษณ์ทางเสียงที่โดดเด่นจนกลายเป็นลายเซ็นเฉพาะตัว NICECNX กลับมาอีกครั้งกับ EP ‘CITY BOYZ‘ ผลงานที่ต่อยอดจากเสน่ห์ของซินีมาติกซาวด์ (Cinematic Sound) ผสานแรงบันดาลใจจาก City Pop, Sci-Fi และ Neo Tokyo จนเกิดเป็นโลกดนตรีที่ทั้งล้ำสมัยและเต็มไปด้วยความรู้สึก เขาชวนเราพูดคุยแบบตรงไปตรงมา ถึงแรงบันดาลใจ เบื้องหลังการทำงาน และมุมมองความรักในแบบของเขา
CITY BOYZ: เมื่อเพลงคือภาพยนตร์ และทุกความรู้สึกคือฉากหนึ่งของชีวิต
“EP CITY BOYZ เป็นสิ่งที่ตั้งใจทำมาก ๆ ครับ ผมคิดถึงคนฟังตั้งแต่ตอนเริ่มแต่งเพลงเลย เพลงที่ดีสำหรับผมคือเพลงที่ทำให้คน ‘คล้อยตาม’ ได้ ถึงแม้เรื่องราวในเพลงจะไม่ได้เกิดกับเขาโดยตรง แต่ต้องมีสักประโยคที่เขารีเลตได้แน่นอน” NICECNX เริ่มต้นเล่าด้วยแววตาจริงใจ
สไตล์ดนตรีของเขามักจะมีความเป็น Cinematic อยู่แล้ว แต่ครั้งนี้เขาขยายขอบเขตให้ไกลกว่าเดิม
“ผมอยากให้คนฟังรู้สึกเหมือนอยู่ในหนังของตัวเองครับ เหมือนเวลาขับรถตอนฝนตก แล้วเปิดเพลงหนึ่งขึ้นมาแล้วมัน ‘ใช่’ พอดี เหมือนเพลงนั้นเป็นซาวด์แทร็กของชีวิตเราเลย ความรู้สึกแบบนั้นแหละที่อยากให้ทุกคนสัมผัสได้ตอนฟัง EP นี้”
เพลงที่สะท้อนตัวตนที่สุด
ใน EP “CITY BOYZ” มีทั้งหมด 4 เพลง โดย NICECNX ยอมรับว่าแต่ละเพลงต่างสะท้อนช่วงเวลาหนึ่งของชีวิตเขา แต่ถ้าต้องเลือกเพลงที่เป็น “ตัวเองที่สุด” เขาขอตอบว่า “ที่ระบาย”
“เพลงนี้เหมือนเป็นผมเลยครับ มันพูดถึงการเป็นที่ปรึกษาให้ใครบางคน ถึงแม้เราจะแอบชอบเขามากแค่ไหน แต่เราก็ยินดีอยู่ข้าง ๆ แบบไม่ต้องการอะไรตอบแทน แค่ได้เป็นที่ระบายของเขาก็พอแล้ว”
นอกจากนี้เขายังพูดถึงเพลงอื่นใน EP อย่างอบอุ่น “Toxic Love คือเพลงที่สื่อถึงการเจอความรักที่ไม่ดี แต่เรายังเลือกจะผ่านมันไปด้วยใจที่เข้มแข็ง ส่วน ร้องเพลงรัก จะพูดถึงทุกครั้งที่เราฟังเพลงรัก เรามักจะคิดถึงใครบางคนเสมอ และ ยิ่งโตยิ่งสวย เป็นเพลงที่พูดถึงการเห็นการเติบโตของใครคนหนึ่ง ไม่ใช่แค่รูปลักษณ์ แต่รวมถึงความคิดและจิตใจของเขาด้วยครับ”
การฟีเจอริ่งกับ PONDERING ใน ‘ร้องเพลงรัก‘
“ผมรู้สึกว่าถ้าเล่าเรื่องคนเดียว มันอาจจะยังไม่ครบ” เขายิ้ม “เพลงนี้มันมีความเป็น Cinematic อยู่แล้ว ผมเลยอยากได้แร็ปเปอร์ที่เล่าเรื่องเก่ง ๆ มาช่วยเติมมิติให้เพลง พอได้ PONDERING มาร่วมงาน มันกลายเป็นอีกโลกหนึ่งเลย เพราะเขาใช้คำง่าย ๆ แต่สื่ออารมณ์ได้ดีมาก เราเล่าเรื่องให้เขาฟัง แล้วเขาแต่งท่อนของเขาเองออกมาได้ตรงใจมาก ๆ”
ความรักคือความสุขและความทุกข์ที่หมุนเวียนกัน
“ผมว่าความรักมันเป็นธรรมชาติของชีวิตครับ มันมีทั้งสุขและทุกข์ และสองสิ่งนี้แหละที่ทำให้เรามีเพลงดี ๆ เกิดขึ้น” เขาว่า “ทุกครั้งที่ผ่านเรื่องอะไรมา มันจะมีเพลงควบคู่ไปด้วยเสมอ เพลงใน EP นี้หลายเพลงก็เป็นเหมือนบันทึกทางอารมณ์ ที่อยากส่งกำลังใจให้คนที่เจอเรื่องท็อกซิกในชีวิต ให้รู้ว่าเราทุกคนผ่านมันไปได้”
เมื่อถามว่าหากให้เลือกหนึ่งมุมมองของความรักจากทั้ง EP ที่อยากให้แฟนเพลงเข้าใจมากที่สุด เขาตอบอย่างมั่นใจว่า
“อยากให้เข้าใจว่าความรักคือการเรียนรู้ครับ มันไม่ใช่แค่เรื่องหนุ่มสาว แต่คือสิ่งที่เราหนีไม่พ้น เป็นบทเรียนที่ทำให้เราเติบโตขึ้นเสมอ”
ยังเชื่อในรักแรกพบไหม?
“เชื่อครับ” เขาตอบทันที “ผมว่าถ้ามันใช่ มันก็ใช่เลย เคมีบางอย่างมันอธิบายไม่ได้ เพลง ยิ่งโตยิ่งสวย ก็พูดถึงความรู้สึกแบบนั้น เห็นใครคนหนึ่งเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ แล้วเรารู้สึกดี เหมือนเราชื่นชมเขาทั้งในแง่ความคิดและความพัฒนาในชีวิต”
ทำงานร่วมกับ CDGUNTEE และทีม
ใน EP นี้ NICECNX มีเพื่อนสนิทอย่าง CDGUNTEE มาช่วยดูแลในฐานะ Project Manager ซึ่งเขายอมรับว่า “ช่วยได้เยอะมาก”
“ผมเป็นคนทำหลายอย่างพร้อมกัน ทั้งร้านเพชร ทั้งร้านกลางคืน บางทีมันเบลอครับ แต่พอมีทีมอย่าง CD กับพี่ขิงคอยตามงาน มันทำให้ทุกอย่างเป็นระบบมากขึ้น ผมว่าคนจะประสบความสำเร็จไม่ใช่เพราะเก่งอย่างเดียว แต่เพราะมีทีมที่ดี”
จากศิลปินสู่คนเบื้องหลัง
“ผมอยากอยู่ในวงการนี้ไปจนแก่เลยครับ” เขาหัวเราะเบา ๆ “เพราะสุดท้ายคนก็ยังต้องฟังเพลงอยู่ดี การได้ทำงานเบื้องหลังสอนผมเยอะมาก เข้าใจว่ากว่าจะได้เพลงหนึ่งเพลงมันต้องผ่านอะไรมาบ้าง วันหนึ่งผมอาจจะได้เป็น Project Manager ให้ศิลปินรุ่นใหม่ ผมก็พร้อมแล้ว”
ศิลปะของการบาลานซ์ระหว่างเข้าถึงง่ายและลึกซึ้ง
“ไม่ยากครับ เพราะเพลงคือศิลปะ และศิลปะคือความรู้สึก” NICECNX ทิ้งท้าย “ถึงแม้บางเพลงคนจะไม่เข้าใจทุกคำ แต่ถ้ามันทำให้รู้สึกบางอย่างได้ แค่นั้นก็พอแล้ว เพลงที่ดีไม่จำเป็นต้องเข้าใจทั้งหมด แต่ต้อง รู้สึก ได้ และนั่นแหละคือสิ่งที่ผมอยากส่งต่อผ่าน CITY BOYZ”
