ขอนิยามการแสดงคอลเล็กชั่นบุรุษฤดูกาล Fall/Winter 2024 จาก Gucci ผลงานการออกแบบเสื้อผ้าและเครื่องประดับชายอย่างเป็นทางการครั้งแรกของผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์คนใหม่ Sabato de Sarno (ซาบาโต เด ซาร์โน่) ว่าคือ “การผลิกเกม!” แถมแผนที่เขาเลือกใช้คราวนี้ยังมีทีท่าว่าจะไปในทิศทางที่ใช่ และแม้คอลเล็กชั่นชายครั้งแรกของเจ้าตัวเป็นการเชื่อมโยงคอลเล็กชั่นบุรุษเข้ากับสตรีในชื่อ ‘Ancora’ บวกด้วยโฆษณาคอลเล็กชั่นวันหยุดเมื่อปลายปีที่ผ่านมาซึ่งให้บรรยากาศความเก๋ไก๋และก๋ากั่นฉบับของหนุ่มสาวชาวปาร์ตี้แบบ Halston (ฮาลสตัน) ในยุค ’70s ทำให้ก่อนหน้านี้มีการคาดเดากันว่าเขาจะยังเดินตามรอยเท้า Tom Ford (ทอม ฟอร์ด) อดีตผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ของ Gucci ที่เจ้าตัวชื่นชมอยู่หรือไม่ และจะมีการนำผลงานชิ้นใดในยุคฟอร์ดกลับมาปัดฝุ่นใหม่อย่างที่เห็นในคอลเล็กชั่นสตรี แต่! … คอลเล็กชั่นนี้คือการแสดงให้เห็นแล้วว่า “เขาไม่ได้ตามรอยเท้าฟอร์ดแบบติดๆ อย่างที่หลายคนคิดแต่อย่างใด” สิ่งที่เขาทำเป็นเพียง “การเดินไปในทิศทางเดียวกัน”

ทิศทางที่ว่าคือการนำเสนอผลงานที่ดูน้อยชิ้น แต่ในแต่ละชิ้นนั้นมากด้วยรายละเอียดและใช้เทคนิคการตัดเย็บเทียบชั้นกูตูร์เพื่อสร้างโครงสร้างที่จะเปลี่ยนให้ซิลลูเอตของผู้ชายออกมาทั้งดูแข็งแกร่งและอ่อนโยน อย่างโค้ทยาวปกใหญ่ไหล่ตั้งลุคเปิดและปิด และเบลเซอร์คัตติ้งสลิมที่จับย่นตรงกลางให้ผิวสัมผัสดูแปลกตา Sabato นำเสนอเดบิวต์คอลเล็กชั่นฝั่งชายด้วยการพากลับไปพบกับรากเหง้าของเฮาส์ ทั้งในแง่การเลือกใช้วัสดุเป็นผืนผ้าคู่ผืนหนังเนื้อนุ่มในการตัดเย็บ ขณะเดียวกันก็สะท้อนความเชี่ยวชาญที่ถือเป็นงานเลื่องชื่อของแฟชั่นเฮาส์จากอิตาลีอย่างการตัดเย็บชุดเทเลอร์สไตล์ใหม่ๆ ที่พร้อมจะปฏิวัติวงการแฟชั่นบุรุษอย่างที่นักออกแบบรายใหญ่ๆ ได้ทำจนเป็นที่ประจักษ์
และอย่างที่เกริ่นไว้ตอนต้นว่าเขากำลังเดินไปในทิศเดียวกับ Gucci ที่ Tom Ford ได้กรุยทางไว้ นอกเหนือจากการทำให้ผลงานฝั่งบุรุษเชื่อมโยงกับสตรี แบบที่ไม่ดูคลุมเครือเท่ายุคของ Alessandro Michele (อเลสซานโดร มิเคเล่) ให้กลิ่นอายแฟชั่นในยุค ’70s อิงดีไซน์และการเลือกใช้วัสดุเอลิเมนต์หลักเป็นคริสตัลตกแต่งเช่นเดียวกันแล้ว ชิ้นเติมเต็มให้ลุคออกมาสมบูรณ์แบบอย่างภาพร่างในจิตนการก็น่าสนใจเช่นเดียวกัน ทั้งกระเป๋าและเครื่องประดับชิ้นเด่นให้เซนส์ของเฮาส์ในยุค ’90s หนึ่งในยุคทองของ Gucci ที่กลายเป็นแบรนด์ร้อนแรงแซงหน้าทุกคู่แข่ง แบบไม่มีใครกังขา การขยายขนาดของกระเป๋าไอคอนิก Jackie ให้กลายเป็นสไตล์โฮโบสำหรับผู้ชายอย่างภาพโฆษณาดังเมื่อกว่า 2 ทศวรรษที่แล้ว และเครื่องประดับเป็นเน็คไทน์มีตัวล็อกสไตล์เฟติชคืออีกคีย์พีซที่ช่วยเสริมให้ลุคของหนุ่ม Gucci ดูโดดเด่นเกินใคร

โดยภาพรวมแล้วการผลิกเกมของ Sabato ที่พยายามเดินถอยห่างออกจากรอยเท้าของอดีตผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ที่ปลุกให้ Gucci กลับมาผงาด แต่ยังคงจะก้าวไปในทิศเดียวกันถือเป็นกลยุทธ์ที่น่าจับตา เพราะจริงอยู่ที่ผลงานแนวนี้สอดรับกับเมเจอร์เทรนด์ของโลกที่กำลังมุ่งนำเสนอแฟชั่นสไตล์มินิมัล แต่ก็อาจจะดูเพลย์เซฟไปสักหน่อยสำหรับแฟชั่นเฮาส์รายใหญ่ระดับ Gucci … อย่างไรก็ตาม นี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ผมเชื่อว่าเมื่อ Sabato คิดว่าเขากำลังเดินมาในทิศทางที่ใช่ และเน้นย้ำจุดยืนว่าจะสร้างสรรค์ผลงานสำหรับเฮาส์เก่าแก่อายุ 103 ปีในรูปแบบใด ฤดูกาลต่อๆ ไปเราจะได้เห็นเอกลักษณ์ในผลงานของเขาชัดเจนขึ้นแน่นอน
Gucci Men’s Fall/Winter 2024























































