ความรู้สึกของคุณจะเปลี่ยนไปตลอดกาล เมื่อได้ลิ้มลองอาหารแบบ Chef’s Table on the Move จากความร่วมมือระหว่างเชฟระดับแนวหน้า ทั้งกรุงเทพฯ ฮ่องกง และไต้หวัน พร้อมดื่มด่ำค็อกเทลที่คัดสรรโดยมิกโซโลจิสต์จากบาร์ชั้นนำ ภายในงาน Gourmet Theatre คอร์สพิเศษ จัดขึ้นที่ The Food School ซึ่งแอลเมนไปลองมาแล้ว!
สำหรับใครที่ยังไม่รู้ Gourmet Theatre เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2563 ในฮ่องกง เป็นอีเวนต์ที่ถือกำเนิดขึ้นเพื่อพลิกวงการอาหารคอร์สหรูด้วยการรวม 5 เชฟชั้นนำ ร่วมกันเปลี่ยนบรรยากาศอาคารสำนักงานบนชั้น 37 ของ One Island East ใน Taikoo Place ให้กลายเป็นร้านอาหารชั้นเลิศที่คึกคักในคืนเดียว
และในปีนี้ Gourmet Theatre ได้ฤกษ์เดินทางมาสร้างปรากฏการณ์เป็นครั้งแรกในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นแหล่งรวมวัตถุดิบและวัฒนธรรมที่หลากหลาย พร้อมจับมือกับ The Food School เปลี่ยนโฉมโรงเรียนสอนทำอาหารชั้นนำใจกลางเมืองให้กลายเป็นสนามทำอาหารแบบอินเตอร์แอคทีฟ ต้อนรับเหล่าเชฟชั้นนำและผู้ที่หลงใหลอาหารระดับไฮเอนด์
Gourmet Theatre Bangkok จัดขึ้นเพียงคืนเดียวเท่านั้น เรียกว่าเอ็กซ์คลูซีฟสุดๆ โดยแบ่งออกเป็น 2 คอร์สหลัก ภายใต้ธีม A GastroNOM and Beyond (9,899 บาท) ครองพื้นที่บริเวณชั้น 2 และ 3 ของ The Food School ให้นักชิมเลือกเพลิดเพลินกับประสบการณ์การทำอาหารที่หลากหลาย ทั้งสเตชั่นจากเชฟชั้นนำที่จะมาเสิร์ฟอาหารจานพิเศษ สเตชั่นที่รังสรรค์เมนูจากความร่วมมือของเชฟแบบ Four Hands (เชฟ 2 คน) Six Hands (เชฟ 3 คน) และป๊อปอัพบาร์
กิมมิกคือการให้นักชิมเคลื่อนตัวไปชิมเมนูพิเศษจากเชฟได้ตามสเตชั่นต่างๆ ตามคอนเซปต์ Chef’s Table on the Move ในแต่ละสเตชันสามารถรองรับนักชิมได้ครั้งละ 20 คน พร้อมให้เวลาเพลิดเพลินกับอาหารอีก 30 นาที ก่อนจะย้ายไปสเตชั่นถัดไปเพื่อดื่มด่ำเครื่องดื่มกันต่อ
STAGE #1
สเตชั่นแรก เสิร์ฟคอร์สพิเศษแบบ Four Hands Dinner จากความร่วมมือของเชฟชาวไทย เชฟหนุ่ม-วีระวัฒน์ ตริยเสนวรรธน์ จาก Samuay & Sons อุดรธานี และเชฟแบล็ค-ภานุภน บุลสุวรรณ จากร้าน Blackitch Artisan Kitchen เชียงใหม่ อีกหนึ่งสเตชั่นเป็นคอร์สแบบ Six Hands Dinner รังสรรค์เมนูจากเชฟไพศาล ชีวินศิริวัฒน์ และเชฟจิ๊บ-กัญญารัตน์ ถนอมแสง จากร้านแก่น (KAEN) ในขอนแก่น ร่วมกับเชฟชื่อดังจากมาเก๊า เชฟ Tam Kwok Fung แห่ง Chef Tam’s Seasons ผู้คว้ารางวัล Chef of the Year 2023 จาก Black Pearl Restaurant Guide ส่วนสเตชันที่เป็นหนึ่งไฮไลต์ถูกรังสรรค์โดยเชฟ Barry Quek จาก Whey ร้านอาหารรางวัล 1 ดาวมิชลิน จากเกาะฮ่องกง เสิร์ฟเมนูสไตล์ยุโรปที่ได้แรงบันดาลใจจากสิงคโปร์
ระหว่างนั้น เรายังได้ดื่มด่ำกับค็อกเทลบาร์อีก 2 สเตชั่นที่มาสร้างสรรค์เครื่องดื่มคู่มื้อพิเศษ โดย CMYK แห่งฉางชา ผู้คว้ารางวัล DRiNK Awards Best Bar 2022 จากประเทศจีน และ Bar Us ในกรุงเทพฯ บาร์ค็อกเทลที่ติดอันดับ Asia’s 50 Best Discovery
STAGE #2
สเตชั่นแรกรังสรรค์โดยเชฟตาม-ชุดารี เทพาคำ จากบ้านเทพา (Baan Tepa) ร้านอาหารไฟน์ไดนิง รางวัล 2 ดาวมิชลินในกรุงเทพฯ ถัดมาอีกหนี่งสเตชั่นถูกครองพื้นที่โดยเชฟชาลี กาเดอร์ จากร้านวรรณยุค (Wana Yook) ร้านอาหารไฟน์ไดนิง รางวัล 1 ดาวมิชลินในกรุงเทพฯ ในสเตจนี้เรายังเอร็ดอร่อยกับคอร์สสุดเอ็กซ์คลูซีฟจากเชฟ Ryogo Tahara แห่ง Logy ร้านอาหารรางวัล 2 ดาวมิชลินในไทเป และเชฟ May Chow จากร้าน Little Bao ในฮ่องกง ผู้คว้ารางวัลเชฟหญิงยอดเยี่ยมจาก Asia’s 50 Best Restaurants 2017 ที่มาครีเอตเมนูแบบ Four Hands Dinner ร่วมกันเป็นครั้งแรก
ในขณะที่อีกสเตชั่นเป็นการครองพื้นที่ของเชฟ Susumu Shimizu จากร้าน Den Kushi Flori ร้านอาหารญี่ปุ่นรางวัล 2 ดาวมิชลิน ชื่อดังจากโตเกียว และเชฟ Alex Peng จากร้าน Akame ในไต้หวัน ร้านอาหารที่ติดอันดับ Asia’s 50 Best Discovery ทั้งคู่มาร่วมกันครีเอตเมนูพิเศษด้วยกัน ทางฝั่งเครื่องดื่มก็ไม่น้อยหน้า พบกับ Elliot Faber ผู้เชี่ยวชาญด้านสาเกขั้นสูงจากฮ่องกง ผู้ก่อตั้ง Sake Central อีกทั้งได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ Sake Samurai มาเปิดสเตชั่นร่วมกับเชฟ Dylan Jones และเชฟโบ-ดวงพร ทรงวิศวะ จากร้าน เออ (Err Urban Rustic Thai) นำเสนอการจับคู่สาเกกับเครื่องดื่มไทยรสชาติเข้มข้น
ชาวแอลเมนที่พลาดโอกาสลิ้มลองอาหารและเครื่องดื่มที่งาน Gourmet Theatre Bangkok ในครั้งนี้ สามารถติดตามความเคลื่อนไหวสำหรับการจัดงานครั้งถัดไปได้ทางเว็บไซต์ https://gourmettheatre.com
Photo: Courtesy of Gourmet Theatre