พาราลิมปิกเกมส์เป็นมหกรรมกีฬาที่จัดขึ้นเพื่อสงเสริมความมุ่งมั่นของนักกีฬาที่มีความพิการ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนทั่วโลกผ่านรูปแบบของเกมกีฬา อีกทั้งยังสร้างความเข้าใจในความแตกต่างเพื่อเป็นการยกระดับความหลากหลายและสร้างความเท่าเทียมในสังคม … แอลเมนขอพาทุกคนไปย้อนรอยเส้นทางกว่าจะมาเป็นพาราลิมปิกส์เกมส์อย่างที่หลายคนรู้จักในปัจจุบัน
1943: จุดเริ่มจากการบำบัดทหารผ่านศึก
ปี 1943 คือหมุดหมายสำคัญของเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น เมื่อนายแพทย์ชาวยิว Ludwig Guttmann (ลุดวิก กุตต์แมนน์) หัวหน้าฝ่ายประสาทวิทยาในโรงพยาบาลเมืองฮัมบูร์ก ผู้ลี้ภัยสงครามกองทัพนาซีเยอรมันมาอาศัยอยู่ในประเทศอังกฤษ โดยเวลาต่อมาทางรัฐบาลได้มอบหมายให้เขาก่อตั้งแผนกฟื้นฟูผู้ป่วยกระดูกสันหลัง ในโรงพยาบาลบาลทหารผ่านศึก (Ministry of Pension Hospital) ที่ Stoke Mandeville (สโตคแมนเดวิลล์) ในเมืองบักกิ้งแฮมเชียร์ เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพทางกายและจิตใจให้แก่เหล่าทหารผ่านศึกผู้บอบช้ำจากสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยทางนายแพทย์ Ludwig ได้จัดกิจกรรมสงเสริมการฟื้นฟูร่างกายประเภทต่างๆ รวมถึงการจัดให้มีการเล่นกีฬา โดยกีฬาประเภทแรกที่นำมาทดลองใช้กับผู้เข้ารับการรักษาบนเก้าอี้วีลแชร์คือโปโลและฮ็อกกี้
การทดลองเล่นโปโลวีลแชร์ในทศวรรษ 1940
จากจุดเริ่มต้นในวันหนึ่งที่นายแพทย์ Ludwig และ Q เดินไปยังห้องผู้ป่วยที่ว่างจากการใช้งาน และใช้ไม้เท้าสั้นแทนไม้ตีและจานไม้แทนลูกตีสำหรับการทดลองเล่นกีฬาโปโลวีลแชร์ แน่นอนว่ากีฬาที่อาศัยการเล่นเป็นทีมเช่นนี้ย่อมส่งผลดีต่อผู้เข้ารับการรักษาในการมีปฏิสัมธ์ต่อกัน หลังจากเกมการแข่งขันอันดุเดือด เขาพบว่ามันมีความรุนแรงและเจ้าหน้าที่กายภาพบำบัดไม่มีทักษะที่มากพอ ในเวลาต่อมาจึงตัดสินใจแทนที่กีฬาโปโลวีลแชร์เป็นเน็ตบอล
Sir Ludwig Guttmann (1899 – 1980)
บิดาแห่งพาราลิมปิกเกมส์
1948: จัดการแข่งขัน Stoke Mandeville Games เป็นครั้งแรก
หลังจากการทดลองครั้งแรกเป็นเวลา 5 ปี นายแพทย์ Ludwig Guttmann ได้จัดการแข่งขันยิงธนูขึ้นที่โรงพยาบาล โดยปักหมุดวันที่ 29 กรกฏาคม 1948 เพื่อให้ตรงกับพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกส์ครั้งที่ 14 ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยการจัดการแข่งขันกึ่งการสาธิตในครั้งนั้นมีผู้เข้าร่วมทั้งหมด 16 ราย (ชาย 14 ราย และหญิง 2 ราย) จาก Stoke Mandeville และ The Star and Garter Home for Injured War Veterans (บ้านพักทหารผ่านศึกสตาร์และการ์เตอร์) จากเมืองในเซอร์รีย์ (ปัจจุบันเปลื่ยนเป็นริชมอนด์) เพื่อชิงโล่รางวัล Challenge Shield
นายแพทย์ Ludwig Guttmann พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลและนักกีฬาวีลแชร์ในการแข่งกีฬา Stoke Mandeville Games
หลังการจัดการแข่งขันเพื่อชิงโล่รางวัล Challenge Shield ประสบความสำเร็จ นายแพทย์ Ludwig จึงตัดสินใจจัดงานใหญ่ประจำปี Grand Festival of Paraplegic Sport (เทศกาลกีฬาสำหรับผู้พิการขา) ต่อมาได้เปลื่ยนชื่อเป็น Stoke Mandeville Games อีกทั้งยังเพิ่มทีมและกีฬาประเภทอื่นมากขึ้นตามลำดับ จนกระทั่งในปี 1949 มีทีมผู้ร่วมเข้าร่วมแข่งขันทั้งหมด 6 ทีม และได้เสริมกีฬาใหม่ ‘วีลแชร์เน็ตบอล’ ซึ่งเปลี่ยนเป็นบาสเก็ตบอลวีลแชร์ในเวลาต่อมา
1960: การแข่งขันท้องถิ่นสู่โอลิมปิกส์ที่กรุงโรม
ในปี 1958 นายแพทย์ Antonio Maglio (อันโตนิโอ มักลิโอ) นำเสนอแนวคิดการจัดการแข่งขันกีฬาร่วมกับการจัดงานโอลิมปิกส์ครั้งที่ 17 ที่จัดขึ้น ณ กรุงโรม ให้กับนายแพทย์ Ludwig Guttmann ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการนำกิจกรรมการแข่งขันกีฬาคนพิการ International Stoke Mandeville Games ที่จัดขึ้นในปี 1948 และ 1952 เข้าสู่มหกรรมกีฬาระดับโลก โดยในขณะนั้นการแข่งขันใช้ชื่อว่า 9th Annual International Stoke Mandeville Games
นักกีฬาอิตาลีในพิธีเปิด International Stoke Mandeville Games ครั้งที่ 9 ภายหลังได้รับการรับรองจาก IOC เปลี่ยนให้ถือเป็น Paralympic Games ครั้งที่ 1
การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกส์ ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี จัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 – 25 กันยายน 1960 ต่อจากโอลิมปิกส์ครั้งที่ 17 มีนักกีฬาทั้งสิ้น 400 คนจาก 23 ประเทศ ซึ่งภายหลังคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) อนุมัติคำว่า Paralympic Games ในปี 1984 ซึ่งถือเป็นการกำเนิดพาราลิมปิกส์เกมครั้งแรก
1964: พาราลิมปิกส์ครั้งแรกในเอเชีย
การแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกส์ที่โตเกียวในปี 1964 ถือเป็นการจัดงานครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียซึ่งจัดพร้อมกับมหกรรมกีฬาโอลิมปิกส์ นับว่าเป็นการเปิดประตูให้กับการจัดการแข่งขันในภูมิภาคอื่นๆ สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนทั่วโลก โดยการแข่งขันในครั้งนั้นมีนักกีฬาเข้าร่วมประมาณ 375 คนจาก 21 ประเทศ กับการแข่งขันประเภท 10 กีฬา และการจัดการแข่งขันในครั้งนั้นยังได้ช่วยส่งเสริมความเข้าใจและการยอมรับในเรื่องของความพิการ ซึ่งเป็นหนึ่งในรากฐานสำคัญของการออกแบบ Universal Design ที่เราเห็นในประเทศญี่ปุ่น
ตราสัญลักษณ์ประจำการแข่งขัน โตเกียว พาราลิมปิกส์ 1964
นกพิราบตัวแทนแห่งสันติภาพถูกนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก และสัญลักษณ์ของห่วงวงแหวนเป็นรูปล้อสื่อถึงล้อรถวิลแชร์พาหนะของนักกีฬา เดิมวงแหวนถูกจัดวางเป็นรูป W เช่นเดียวกับห่วงโอลิมปิก ทว่า IOC เปลี่ยนการออกแบบเป็นรูป V เพื่อแสดงถึงชัยชนะของนักกีฬาในการเอาชนะปัญหาต่างๆ ในชีวิต
2024: การจัดพาราลิมปิกส์ครั้งแรกในปารีส
มหกรรมกีฬาปารีสพาราลิมปิกส์ 2024 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 สิงหาคม – 8 กันยายน 2024 จัดหลังจากการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 2024 ตามธรรมเนียมปฏิบัติ แม้ว่าเจ้าภาพอย่างกรุงปารีสเคยจัดงานโอลิมปิกมาแล้วถึง 3 ครั้ง (1900, 1924 และ 2024) ทว่าการจัดพาราลิมปิกส์ครั้งนี้ตะเป็นครั้งแรก จึงถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประวัติศาสตร์ของประเทศฝรั่งเศส โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครั้งที่จะแสดงถึงการพัฒนาทางการกีฬาและความมุ่งมั่นในการส่งเสริมความเท่าเทียม โครงสร้างพื้นฐานที่เข้าถึงได้ง่าย รวมไปถึงการใช้พลังงานสะอาดและมาตรการต่างๆ เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมให้สมกับเป็นเมืองแห่งการก่อตั้งข้อตกลงว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
การแข่งขันปารีสพาราลิมปิกส์ 2024 จะมีนักกีฬาเข้าร่วม 4,400 คน จากกว่า 100 ประเทศทั่วโลกที่จะเข้าร่วมแข่งขันกีฬา 22 ประเภท เพื่อลุ้นชิง 529 เหรียญทอง โดยนักกีฬาพาราลิมปิกไทยได้คว้าสิทธิเข้าร่วมมากถึง 79 คน จาก 15 ชนิดกีฬา อาทิ ยิงธนู กรีฑาและวีลแชร์เรซซิ่ง แบดมินตัน บอคเซีย ยกน้ำหนัก ว่ายน้ำ เทเบิลเทนนิส เทควันโด และอีกมากมาย