แปลกล้ำไม่ซ้ำใคร Dyson Zone หูฟังตัดเสียงรบกวน ANC พร้อมเครื่องกรองอากาศ

ขึ้นชื่อว่า Dyson ทั้งแฟนตัวยงหรือไม่ก็ตามทราบดีว่าเป็นแบรนด์เทคโนโลยีเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านในฝันที่ต่างก็อยากมีติดที่พักกันถ้วนหน้า ไม่ว่าจะเป็น Supersonic, Purifier, Vacuum Cleaner และอีกมากมาย ทีมงานของ Dyson เองยังก็ไม่หยุดความสร้างสรรค์ วิจัยอุปกรณ์ใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อไม่ทิ้งลายการเป็นเจ้านวัตกรรม

ผลจากการวิจัยของทีมวิจัยและวิศวกรของ Dyson พบว่าประชากรโลกมากกว่าครึ่งอาศัยในเมืองใหญ่ โดยคาดการณ์ว่าภายในปี 2550 สัดส่วนของคนที่อาศัยในตัวเมืองจะเพิ่มขึ้นเป็น 7 ใน 10 คน และเมื่อประชากรที่อาศัยในตัวเมืองมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น การขยายระบบโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง เช่น การคมนาคม การก่อสร้าง การจราจร ย่อมส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมที่เราอาศัยอยู่ ก่อให้เกิดทั้งมลภาวะทางเสียงและมลพิษทางอากาศ หนึ่งในตัวอย่างน่าสนใจคือผลการวิจัยในปี 2563 พบว่าระดับมลพิษทางเสียงจากการจราจรในกรุงเทพฯ สูงกว่า 90 เดซิเบลเลยทีเดียว

Dyson Zone (Ultra Blue/Prussian Blue)

ด้วยเหตุนี้ Dyson จึงคิดค้นวิจัยนวัตกรรมเฮดโฟน Dyson Zone ที่มาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวน Advanced Noise Cancelling และหน้ากากกรองฝุ่นแบบถอดแยกได้ โดยเปิดตัวไปตั้งแต่ต้นปี 2022 และเพิ่งกำหนดวางจำหน่ายทุกสาขาอย่างเป็นทางการวันที่ 27 พฤศจิกายน 2023 นี้ มีสองออปชั่นให้เลือกด้วยกัน คือ 28,900 บาท (Ultra Blue/Prussian Blue) สำหรับรุ่นเริ่มต้น และ 32,900 บาท Dyson Zone Absolute+ (Prussian Blue/Bright Copper) มาพร้อมกับ Explorer Case, Inflight Adaptor Kit และซองผ้า

บางส่วนของต้นแบบการพัฒนา Dyson Zone

อากาศสะอาดที่พกติดตัวไปได้ทุกที่

สิ่งที่ Dyson Zone สร้างความแตกต่าง คือการเป็นหูฟังตัดเสียงรบกวนที่มาพร้อมเครื่องกรองอากาศเพียงหนึ่งเดียวในโลก ถูกรังสรรค์ขึ้นเพื่อตอบสนองกลุ่มคนที่ใส่ใจทั้งเรื่องเสียงและสุขภาพ โดยเฉพาะกับกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ซึ่งหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับมลพิษไม่ได้ และด้วยประสบการณ์ 30 ปีด้านเทคโนโลยีการไหลเวียนของอากาศ การกรอง และเทคโนโลยีมอเตอร์ Dyson Zone จึงมาพร้อมกับเทคโนโลยีคอมเพรสเซอร์บริเวณหูฟังทั้งสองข้าง ดึงอากาศผ่านฟิลเตอร์ Electrostatic แผ่นกรองประจุไฟฟ้าสถิต 2 ชั้น ขจัดอนุภาคที่มีขนาดเล็กถึง 0.1 ไมครอนได้ 99% มีชั้นกรองคาร์บอนที่ช่วยดูดซับก๊าซอย่างไนโตรเจนไดออกไซด์ และการกรองกลิ่น โดยจะปล่อยอากาศบริสุทธิ์ไปในจมูกและปากของผู้ใช้งาน โดยไม่มีเสียงรบกวนเวลาใช้งาน

ระบบการกรองแบบปิดผนึก 2 ชั้น กำจัด 99% อนุภาคขนาดเล็กที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น

เสียงคุณภาพจากทีมวิจัย Dyson

อีกความแตกต่างจากอุตสาหกรรมเครื่องเสียงคือการที่ต้องใช้ ‘Golden Listener’ ผู้เชี่ยวชาญด้านการฟังมาเป็นผู้ตัดสินคุณภาพของเสียง แต่ทางทีม Dyson กลับมีแนวคิดที่ต่างออกไป พวกเขาได้กำหนดนิยาม ‘เสียงที่ดี’ ใหม่โดยใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วยในการตัดสิน ด้วยการวัดค่าการทำสำเนาเสียง เช่น ค่าสมดุลเสียงซ้าย-ขวา, ค่าการบิดเบือนฮาร์โมนิก และการตอบสนองความถี่เพื่อให้มั่นใจได้ถึงคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม เก็บครบทุกสเป็กตรัมเสียงซึ่งสามารถสร้างช่วงความถี่เสียงตั้งแต่ 6Hz ถึง 21kHz มากกว่าหูฟังคุณภาพสูงที่วางขายในท้องตลาดและยังสร้างรายละเอียดเสียงที่สมจริงเก็บครบทุกย่านเสียง

ไดร์เวอร์นีโอไดเมียมแบบสั่งผลิตพิเศษ 16 โอห์ม ขนาด 40 มม. มอบเสียงคมชัดในทุกย่าน

ตัดเสียงรบกวนยอดเยี่ยม

การตัดเสียงแบบ Advanced Noise Cancelling (ANC) ทำงานร่วมกับไมโครโฟน 11 ตัว โดยมีไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟจำนวน 8 ตัว ช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้างได้สูงสุดที่ 38 เดซิเบล และตรวจจับเสียงรอบข้างได้ถึง 384,000 ครั้ง/วินาที เสียงที่ได้ยินผ่านลำโพงยังมีการควบคุมและชดเชยย่านความถี่เสียงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมด้วยเทคโนโลยีประมวลผลสัญญาณอัจฉริยะที่ระดับ 48,000 ครั้ง/วินาที เมื่อทำงานร่วมกับระบบตัดเสียงรบกวน จะปรับค่าความผิดเพี้ยนฮาร์โมนิกให้เป็นกลางจนถึงระดับที่ไม่สามารถได้ยินในทุกย่านความถี่ (เหลือ 0.08% ที่ระดับความดัง 94 เดซิเบล ที่ความถี่ 1 กิโลเฮิร์ตซ์) พร้อมบันทึกสภาพแวดล้อมแบบเรียลไทม์ในแอป MyDyson ทั้งความดังของเสียงเพลง สภาพแวดล้อมทางเสียงภายนอก รวมไปถึงสภาพอากาศ และที่ขาดไม่ได้คือโหมด Transparency ที่เปิดรับเสียงภายนอกผ่านไมค์โครโฟน ทำให้เราได้ยินเสียงบรรยากาศภายนอกหูฟังได้อย่างเป็นธรรมชาติ

ไมโครโฟนการตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟ 8 ตัว พร้อมเสริมอีก 2 ตัว สำหรับการคุยโทรศัพท์และฟังเสียงภายนอก

ดีไซน์ล้ำอนาคต-ฮาร์ดแวร์จัดเต็ม

นอกจากเรื่องของฟังก์ชั่นที่ครบถ้วนแล้วทีมวิศวกรยังใส่ใจพัฒนารูปแบบของหูฟังให้ผู้ใช้งานสะดวกสบายสูงสุด ดีไซน์แผ่นรองหูฟังที่สามารถปรับองศาได้ มาพร้อมกับโฟมครอบหูที่หนา และแถบคาดศีรษะที่ยึดกระชับ โดยได้แรงบันดาลใจจากรูปทรงของอานม้า เพื่อกระจายน้ำหนักให้เท่ากันทั้งสองข้าง คำนึงถึงรูปทรงศีรษะที่หลากหลายของผู้ใช้งานทั่วโลกเพื่อให้ทุกคนใส่ได้กระชับพอดีและแนบสนิท เลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการใช้งาน นอกจากนี้ในส่วนลำโพง ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ระบบกลไกการทำงาน การใช้วัสดุ และเสียง ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อลดความผิดเพี้ยนของเสียงให้มากที่สุด

รูปทรงของที่ครอบหูช่วยเก็บกักเสียงไว้ด้านในและไม่ให้เสียงรบกวนเล็ดลอดเข้ามา

สรุปสเปกของ Dyson Zone

  • หูฟังไดรเวอร์ 40 mm ตอบสนองความถี่ตั้งแต่ 6 – 21,000 Hz
  • ตรวจจับเสียงรอบข้างได้มากถึง 384,000 ครั้ง/วินาที
  • ลดเสียงรบกวนได้ 38 dB ด้วยไมโครโฟน 11 ตัว (ใช้สำหรับตัดเสียง 8 ตัว)
  • แบตเตอรี่สามารถใช้ได้นานสูงสุด 50 ชั่วโมง ชาร์จเต็มใน 3 ชั่วโมงผ่าน USB-C
  • สามารถใช้ได้สูงสุด 4 ชั่วโมง เมื่อเปิดระบบกรองอากาศ
  • ระบบกรองอากาศผ่านใส้กรอง 2 ชั้น มอเตอร์ 9400 rpm และไม่มีเสียงรบกวนเวลาใช้งาน
  • ไส้กรองประจุไฟฟ้าสถิตกรองฝุ่นขนาดเล็กสุด 0.1 ไมครอน ช่วยดูดซับก๊าซอย่างไนโตรเจนไดออกไซด์ และกรองกลิ่น
  • เชื่อมต่อกับแอป MyDyson เลือกรูปแบบเสียงได้ 3 แบบ ดูบันทึกกราฟสภาพอากาศรอบตัว และระดับเสียงแบบเรียลไทม์

อากาศจะถูกดึงเข้าไปผ่านตัวกรอง และถูกส่งตรงไปบริเวณจมูกและปาก

Editor’s Note

  • ให้พลังเสียงคุณภาพ ย่านเสียงสูงคมชัดใสเป็นพิเศษ เบสมีมวลอบอุ่น
  • เครื่องดนตรีแต่ละชนิดแยกกันอย่างชัดเจน
  • ซาวด์สเตจกว้างกำลังดีคล้ายนั่งเพลงจากเครื่องเสียงในห้องนั่งเล่น
  • เครื่องกรองอากาศมีประสิทธิภาพยอดเยี่ยม ปรับแรงลมได้ 3 ระดับ
  • หน้ากากทำงานอัตโนมัติเมื่อเชื่อมต่อหูฟัง และสามารถดันลงได้เวลาต้องการสนทนา
  • ขณะเปิดโหมดกรองอากาศจะมีเสียงการทำงานเล็กน้อยแต่ไม่สร้างความน่ารำคาญ
  • ตัดเสียงได้ดีเยี่ยม ไม่สามารถปรับระดับการลดเสียงรบกวนได้
  • สามารถปรับ EQ ได้เพียง Bass Boost และ Neutral เท่านั้น
  • หน้ากากเข้าได้หลากรูปหน้าและขนาดศรีษะ
  • แม้ว่าจะหน้ากากจะเก็บย่อเก็บลงมาได้แต่ยังมีขนาดใหญ่
  • หูฟังแน่นกระชับหัว ฟองน้ำกระชับหู และคืนตัวได้ดี
  • ควมคุมสะดวกผ่านปุ่มจอยสติ๊ก และการแตะที่บริเวณหูฟัง
  • หูฟังมีน้ำหนักอาจจะทำให้เมื่อยล้าเมื่อใช้เป็นเวลานาน

Similar Articles

More