สืบต่อความสำเร็จกับคอลเล็กชั่นนาฬิกา Chiffre Rouge ที่รังสรรค์ผลงานต้นแบบให้ก้าวไปตามยุคสมัยมาจนถึงผลงานใหม่ล่าสุด ด้วยการนำรหัสสัญลักษณ์แฟชันอันงามสง่า และเต็มเปี่ยมไปด้วยแบบฉบับแห่ง House of Dior โดยเฉพาะ ‘เลขแปด’ กับ ‘สีแดง’ มาเป็นรายละเอียด ทวีความพิเศษเหนือชั้นให้แก่เครื่องบอกเวลารุ่นนี้ผ่านความประณีตสุดพิถีพิถันของงานสลักลายเส้นกราฟิกลงบนพื้นหน้าปัด และแผ่นจานเหวี่ยง
เฉดสีแดง บ่งบอก ‘ความเป็นดิออร์’
สีแดงเฉดสดสว่างเจิดจ้า เป็น ‘สีแห่งชีวิต’ ตามคำจำกัดความของนักออกแบบ-ผู้ก่อตั้งห้องเสื้อแฟชั่น ที่ถูกออกแบบขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์บ่งบอก ‘ความเป็นดิออร์’ ได้สร้างเอกลักษณ์ พร้อมสื่อถึงความหมายของชื่อนาฬิกาที่แปลตรงตัวได้ว่า ‘ตัวเลขสีแดง’ ด้วยการนำมาใช้กับเลขแปด หมายเลขนำโชคอันเป็นที่รักยิ่งของมงซิเออร์ดิออร์ และเป็นเพียงหมายเลขเดียวซึ่งใช้สีแดงเฉดนี้ อีกทั้งยังจะกลับมาปรากฏใหม่ในทุกๆ เดือน
2 ลวดลายเด่นตกแต่งบนเรือนเวลา Chiffre Rouge
หนึ่งสัญลักษณ์ตลอดกาลแห่ง Dior อันได้แก่ cannage ก็มาร่วมเติมความเฉียบขาดล้ำสมัย ทวีความพิเศษเหนือชั้นวัสดุโปร่งใสเป็นแผ่นฝาครอบหลังตัวเรือนเพื่อเผยให้เห็นระบบกลไกอัตโนมัติ แต่ละรุ่นยังถูกออกแบบโครงสร้างรองรับการติดตั้งกลไกขับเคลื่อนได้หลากระบบจากโครโนกราฟไปจนถึงตูรบิญ็อง เพื่อมอบตัวเลือกอันหลากหลายให้ตอบสนองต่อทุกรสนิยมเช่นเดียวกับสายข้อมืออำนวยความสะดวกต่อการสลับ-และ-จับคู่ ทั้งแบบแถบยางลายสานหวายทั้งแบบตารางเล็ก (micro cannage) กับตารางใหญ่ (macro cannage) งานออกแบบที่คงความร่วมสมัยตลอดกาลยังมอบตัวเลือกถึงสองขนาดนั่นก็คือเส้นผ่านศูนย์กลาง 38 มม. และ 41 มม. สำหรับทั้งผู้ชาย และผู้หญิง ผลงานยกย่องความเป็นเลิศในงานสร้างสรรค์ของ Dior
