หลังพ้นวิกฤตการณ์โควิด-19 เรียกได้ว่าตลาดลักซ์ชัวรี่ในประเทศไทยนั้นเนื้อหอมที่สุดในภูมิภาค ไม่ว่าจะโปรเจกต์พิเศษ การประกาศแบรนด์แอมฯ และวางขายสินค้า ก็มักเลือกให้สยามเมืองยิ้มเป็นประเทศแรกๆในภูมิภาคเสมอ ไม่เว้นแม้แต่ Celine ที่เลือกให้กรุงเทพฯ เป็นแห่งแรกในการเปิดตัว Celine Soap หรือสบู่ก้อนจากไลน์ Celine Bath and Body ต่อยอดความสำเสร็จจากไลน์น้ำหอม Celine Haute Parfumerie นำเสน่ห์ของความคลาสสิคเหนือกาลเวลาทั้ง 4 กลิ่น Parade (พาเหรด), La Peau Nue (ลาโปนู), Eau de Californie (โอเดอแคลิฟอร์นีย์) และ Raptile มาบรรจุอยู่ในสบู่ก้อนทรง 12 เหลี่ยม สนนราคาค่าตัวก้อนละ 1,300 บาท

จิตวิญญาณแห่งกลิ่นหอม
ก่อนที่โลกจะรู้จักน้ำหอมชื่อที่เราเรียกกันคุ้นหู Eau de Parfum หรือ Eau de Toilet เฉกเช่นทุกวันนี้ ‘สบู่’ คือกิจวัตรแห่งการปลอบประโลมในการสร้างกลิ่นหอมให้ร่างกาย เสื้อผ้า และบ้านของผู้คนในอดีต Celine จึงอยากปลุกจิตวิญญาณแห่งประวัติศาสตร์อันยาวนานให้กลับมามีสีสันอีกครั้งด้วย Celine Haute Parfumerie Soap มีกลิ่นหอมหอมอันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ชำระล้างเรือนร่างอย่างหมดจดพร้อมด้วยกลิ่นหอมที่พึงปรารถณา อีกทั้งยังนำไปวางในตู้หรือลิ้นชักเพื่อกระจายกลิ่นหอมอ่อนละมุนให้กับผ้า หรือแม้แต่นำไปวางในห้องเพื่อมอบกลิ่นหอมแนวพาวเดอร์รี่ให้ความรู้สึกงามสง่าและสุขุม ผสานรวมกับเรื่องราวแห่งห้วงอารมณ์และความทรงจำอันชัดเจนของ Hedi Slimane (เอดี สลิมาน)

ส่วนผสมจากธรรมชาติ
ความพิถีพิถันใส่ใจขั้นสูงสุดของ Celine ในการพัฒนา Haute Parfumerie Soap นั้นเริ่มตั้งแต่กระบวนพัฒนาสูตรก่อนการผลิต โดยจะเลือกใช้ส่วนผสมที่สำคัญที่ดีสุดเท่านั้น และยังเป็นวัตถุดิบจากธรรมชาติมากถึง 96 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีการใส่สารเติมแต่งใดเพื่อเปลี่ยนแปลงสีดังเดิมของเนื้อสบู่ แน่นอนว่าสีของสบู่อาจแปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลา แต่ก็ได้มาซึ่งความปลอดภัยในการใช้งาน โดยส่วนผสมของ Celine Haute Parfumerie Soap มีตั้งแต่สวีทอัลมอนด์ออยล์ และกลีเซอรีนที่สกัดจากพืชพรรณธรรมชาติ ช่วยชำระล้างร่างกายได้อย่างอ่อนโยน มอบความชุ่มชื่น และกลิ่นหอมอ่อนๆ ให้กับผิว สบู่ทุกก้อนได้รับการรังสรรค์โดยนักทำสบู่ชาวฝรั่งเศสแห่งแคว้นโพรวองซ์ ผู้มีชื่อเสียงด้านความเชี่ยวชาญในการผสมผสานเทคนิค ประสบการณ์ และประสาทสัมผัสด้านกลิ่นเข้าไว้ด้วยกัน มั่นใจได้ว่าคุณภาพอัดแน่นในทุกก้อน

บทบันทึกความทรงจำของ Hedi Slimane ผ่าน 4 กลิ่น
Eau de Californie – เบอร์กาม็อท, ไวท์ออร์ริสบัตเตอร์, กลิ่นพาโลซานโต, ทรีมอส และแพทชูลี่
“บ้านในเบเวอร์ลี่ฮิลส์ที่ผมอาศัยอยู่เป็นเวลาสิบปีท่ามกลางกลิ่นหอมของพาโลซานโต ชายหาดโต้คลื่นซานเคลเมนทีและซานโอโนเฟรที่ผมใช้เวลาช่วงฤดูร้อน กลิ่นของหนังคอนนอลลี่ในรถโรลส์รอยซ์คอร์นิชของผมเมื่อขับมุ่งสู่ถนนเลียบชายฝั่งแปซิฟิก Gus Van Sant ครวญเพลงเบาๆ ด้วยกีตาร์อะคูสติกที่บ้านของ Cary Grant ท่ามกลางความร้อนระอุของเมืองปาล์มสปริงส์ เวลาดูเหมือนจะหยุดลงชั่วขณะ ในขณะที่ต้นปาล์มแผ่กิ่งก้านอันคดเคี้ยวจนสูงเสียดฟ้าที่สดใส ผมได้สร้างสรรค์น้ำหอมที่ชวนให้นึกถึงดนตรีอะคูสติก แสงอาทิตย์ และโลกในอุดมคติอันน่าหลงใหลเพื่อระลึกถึงแคลิฟอร์เนีย”

Parade – เบอร์กาม็อท, เนโรลี, เวติเวอร์, มัสก์ และโอ๊คมอส
“ผมปรารถนาที่จะสร้างสรรค์น้ำหอมที่เป็นแบบแผนพิธีการ โดยคงไว้ซึ่งรูปลักษณ์และการแสดงออกที่ไม่เปลี่ยนแปลง ผมกำลังนึกถึงเสือสิงห์ที่กระโจนไปตามถนนใหญ่ในกรุงปารีส อย่าง Baudelaire, Gainsbourg หรือ Dutronc, The Thin White Duke, Roxy Music ของ Bowie หรือ Warhol หรือใกล้ๆ ที่ผมอาศัยอยู่ คือนายแบบและนางแบบของผมที่เริงระบำและเปล่งประกายภายใต้แสงสีทอง Parade คือผลงานจากการถ่ายทอดมิติใหม่ของสัญลักษณ์อันน่าหลงใหล เพื่อค้นพบกลิ่นพิเศษซับซ้อนสุดหรูหรา”

La Peau Nue – เบอร์กาม็อท, โรสแอ็บโซลูท, ไวท์ออร์ริสบัตเตอร์, ไรซ์พาวเดอร์ และเวติเวอร์
“บ่ายวันฝนพรำ ตอนเป็นวัยรุ่น ผมเคยตัดเก็บบทวิจารณ์ภาพยนตร์ที่พบตามร้านขายหนังสือมือสองแถวท่าเรือของแม่น้ำแซนผมยังคงเห็นลอนผมสีทองและผิวใสๆ ของ Catherine Deneuve ในภาพยนตร์ Manon 70 ความงามที่ผสมผสานความเป็นหญิงและชายอย่างเป็นธรรมชาติของ Jane Birkin และ Joe Dallesandro ใน Je t’aime, moi non plus ความสง่างามและความเรียบโก้ของ Françoise Hardyใน Masculin Féminin ผมเก็บภาพไอคอนของผมไว้ตลอด ภาพของวัยเยาว์ที่เผยตัวตนอันน่าประหลาดใจ ผิวที่ฉาบหน้าไว้ด้วยแป้งฝุ่น และใบหน้าหยิ่งทนงล้อเลนส์กล้อง ภาพพิมพ์ขาวดำของสาวปารีสที่ทำให้ผมหลงใหลอย่างไม่เสื่อมคลาย”

Raptile – ซีดาร์, พริกไทย, ทรีมอส, กลิ่นโทนหนัง และมัสก์
“ประกายแวววาวของเลื่อมสีดำสนิท กลิ่นมัสก์ และหนังเรปไทล์ น้ำหอมชวนให้นึกถึงภาพสวยงามและเสียงดนตรีพร้อมมอบกลิ่นที่ปลุกเร้าอารมณ์ กลิ่นที่คล้ายคลึงกันใน Chiaroscuro ภาพถ่ายขาวดำและภาพเหมือนของบรรดาร็อคสตาร์คือต้นกำเนิดของน้ำหอมสำหรับทั้งบุรุษและสตรี รังสรรค์ขึ้นเพื่อระลึกถึงนักดนตรีที่ผมได้เคยพบเจอ”
