รวมขั้นตอนการดูแลผิวผู้ชายแบบง่ายๆ ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน

Story: พญ.วงศิยา เวียรศิลป์
Edit: ฆนากร เพชรตระกูล

หลายคนอาจคิดว่าการดูแลผิวพรรณนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยากและค่อนข้างซับซ้อน จนบางครั้งทำให้เราละเลยที่จะใส่ใจตัวเองไปบ้าง แต่ทุกคนทราบหรือไม่ว่าการมีผิวสุขภาพดีจะส่งผลต่อความมั่นใจและบุคลิกภาพโดยตรง จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างที่ไม่ควรจะละเลย คุณหมออยากให้ลองเริ่มจากสำรวจผิวของตัวเองว่ามีคุณลักษณะเบื้องต้นดังต่อไปนี้หรือไม่ … ผิวไม่นุ่มชุ่มชื้น เรียบเนียน มีความกระชับ มีสีผิวที่สม่ำเสมอ เพราะลักษณะเหล่านี้เป็นตัวบ่งบอกว่าผิวของเรามีสุขภาพที่ดีหรือไม่ แต่หากใครพบปัญหามากกว่าหนึ่งข้อแล้วละก็ คุณอาจจะต้องหันกลับมาดูแลตัวเองอีกครั้ง

การดูแลผิวไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอย่างที่หลายคิด คุณหมออยากให้ลองเปิดใจและลองนำขั้นตอนง่ายๆ เหล่านี้ไปปฏิบัติจนกลายเป็นกิจวัตรประจำวัน เริ่มจากพยายามหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดจ้าเป็นเวลานาน ซึ่งฟังแล้วอาจจะดูยากสำหรับผู้ชายหลายคน แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้คุณหมออยากให้ทาครีมกันแดดบริเวณใบหน้าและตัวเป็นประจำทุกวัน เพราะครีมกันแดดจะทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันผิว ลดอัตราการเกิดจุดด่างดำ และริ้วรอยบนใบหน้า เพราะคงไม่มีใครอยากจะดูแก่ก่อนวัยจริงไหมคะ

การเลือกครีมกันแดดที่ถูกต้อง

ส่วนครีมกันแดดนั้นก็ควรเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละคน และกิจกรรมที่จะทำในแต่ละวัน เช่น ผู้ที่มีสิวปัญหาหรือผิวมันควรเลือกครีมกันแดดชนิดที่ไม่ก่อให้เกิดสิวอุดตัน (noncomedogenic) หรือสำหรับใครที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น ว่ายน้ำ เล่นน้ำทะเล ตีกอล์ฟ เล่นฟุตบอล และอีกมากมายที่ต้องอยู่กลางแดดเป็นเวลานานจนทำให้มีเหงื่อออกมาก ก็ควรใช้ครีมกันแดดชนิดกันน้ำ (waterproof) เนื่องจากครีมกันแดดต้องมีคุณสมบัติการติดทนนาน และสามารถทนน้ำทนเหงื่อได้มากกว่าสูตรทั่วไป แนะนำว่าควรทาซ้ำระหว่างวันเพื่อคงประสิทธิภาพของครีมกันแดดให้สู้กับรังสียูวีได้ตลอดทั้งวัน สิ่งสำคัญที่ควรรู้เลยก็คือครีมกันแดดเป็นเพียงตัวช่วยลดความอันตรายของรังสีที่กระทำบนผิวหนังของเราเท่านั้น ไม่สามารถป้องกันได้แบบ 100% ดังนั้นหากเป็นไปได้ก็ควรหาที่หลบแดด สวมหมวก หรือกางร่มเพื่อลดการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง

ขั้นตอนการทำควาามสะอาดผิวหน้า

ขั้นตอนต่อไปหลังจากกลับถึงบ้านควรรีบทำความสะอาดผิวหน้า เพื่อขจัดความมันและสิ่งสกปรกที่อาจก่อให้เกิดการอุดตันรูขุมขน โดยเลือกใช้โฟมล้างหน้าที่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง สำหรับผู้ที่ผิวมันลองหาโฟมล้างหน้าที่มีคุณสมบัติล้างความมันส่วนเกินบนใบหน้า ส่วนผู้ที่มีผิวปกติหรือผิวแห้งควรเลือกโฟมล้างหน้าสูตรอ่อนโยน หลีกเลี่ยงการถูผิวแรงๆ หรือการสครับ เนื่องจากความคมของเม็ดบีทส์อาจทำลายความแข็งแรงของผิวได้ และสิ่งสุดท้ายของขั้นตอนการทำความสะอาดคือหลีกเลี่ยงการใช้น้ำอุ่นหรือน้ำร้อนเพราะจะยิ่งทำให้ผิวแห้งตึง ควรใช้น้ำเย็นหรือน้ำอุณหภูมิปกติล้างหน้าเพื่อรักษาสมดุลของผิว

ขั้นตอนการบำรุงผิวอย่างถูกวิธี

การทามอยส์เจอร์ไรเซอร์เป็นประจำทุกวันเป็นสิ่งจำเป็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ การเลือกมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีส่วนประกอบของ ไฮยาลูรอน (hyaluronic acid) , กลีเซอรีน (glycerin) หรือเชียบัตเตอร์ (shea butter) ช่วยเพิ่มหรือกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ดี แต่สำหรับใครที่มีผิวแพ้ง่ายควรมองหาสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของเซราไมด์ (ceramide) ที่มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความชุ่มชื้นให้แก่ผิวได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งตัวสกินแคร์ที่มอบความชุ่มชื้นบางชนิดอาจมีส่วนประกอบของสารช่วยลดการอักเสบของผิวหนัง เช่น น้ํามันอาร์แกน (argan oil) , วิตามินอี (vitamin E) หรือสารสกัดจากชาเขียว (green tea extract) สามารถเลือกใช้เป็นครีมบำรุงผิวในชีวิตประจำวันได้ค่ะ

ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับผิวแต่ละประเภท

สำหรับผู้ที่ไม่ได้มีปัญหาผิวหน้า การทำความสะอาดผิวและการเลือกใช้ครีมบำรุงผิวรวมทั้งครีมกันแดดอย่างถูกวิธีตามที่กล่าวข้างต้นก็เพียงพอแล้ว แต่ในกรณีของผู้ที่มีปัญหาอาจจำเป็นต้องเพิ่มการดูแลมากขึ้น ใครที่กำลังประสบกับปัญหาสิวอักเสบหรือสิวอุดตัน ควรมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีเรตินอล (retinol), AHA หรือ BHA เป็นส่วนผสม เพราะส่วนประกอบเหล่านี้มีส่วนช่วยทำให้สิวละลายและหลุดออกง่ายขึ้น ลดการอุดตัน และลดการอักเสบของสิวได้

ผู้ที่มีปัญหารอยดำจากสิวจนทำให้ใบหน้าแลดูหมองคล้ำ ควรเลือกใช้ครีมที่มีส่วนผสมของ ไนอาซินาไมด์, เรตินอล, อาร์บูติน (arbutin) , วิตามินซี (vitamin C) หรือ กรดโคจิก (kojic acid) จะสามารถช่วยให้รอยดำค่อยๆ จางลง

สำหรับผู้ที่กำลังประสบกับปัญหาริ้วรอย

สำหรับผู้ที่กำลังประสบกับปัญหาริ้วรอย (ตื้นๆ) รูขุมขนกว้าง ผิวไม่เรียบเนียน ควรเลือกใช้ครีมบำรุงผิวที่มีเรตินอล หรือ AHA เป็นส่วนประกอบสำคัญ โดยส่วนผสม AHA และ BHA ที่ผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ นั้น จะเป็นกรดผลไม้อ่อนๆ สามารถให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้นได้โดยมากแล้วผลิตภัณฑ์ทั่วไปมักจะมีมีความเข้มข้นที่ไม่สูงมากเพื่อให้ผู้บริโภคสามารถซื้อใช้เองที่บ้านได้อย่างปลอดภัย

อย่างไรก็ตามผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของการดูแลผิวซึ่งสามารถดูแลได้ด้วยตัวเองเป็นประจำทุกวัน ทว่าปัญหาผิวบางรูปแบบอาจไม่สามารถแก้ไขให้หายได้ด้วยการทาครีมเพียงอย่างเดียว มีความจำเป็นต้องใช้ความชำนาญการทางการแพทย์แขนงต่างๆ เข้ามาช่วยในการรักษา เช่น การทายา การรับประทานยา การรักษาด้วยการทำหัตถการต่างๆ หรือการทำเลเซอร์ร่วมด้วย ดังนั้นในผู้ที่มีปัญหาผิวค่อนข้างมาก เช่น สิวอักเสบ สิวอุดตันเยอะ มีรอยดำจากสิว ริ้วรอย หลุมสิว ผิวไม่เรียบเนียนจำนวนมาก หรือใช้สกินแคร์มาสักระยะแล้วยังไม่เห็นผล คุณหมอแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อแก้ไขปัญหาให้ตรงจุดและเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ


ขอบคุณบทความจาก
พญ.วงศิยา เวียรศิลป์
แพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านผิวหนังความงามและศาสตร์ชะลอวัย
Holistique Wellness by iSKY (ชั้น 4 Central Embassy)

Similar Articles

More