Photo: Pathomporn Phueakphud
Fashion Editor: Ratchakrit Chalermsan
พูดคุยกับ ‘บาร์โค้ด-ตฤณสิษฐ์ อิสระพงศ์พร’ ศิลปินและนักแสดงหนุ่มจากค่าย Be On Cloud ที่กำลังมีผลงานโดดเด่นทั้งด้านดนตรีและการแสดง เขาเริ่มฉายแววจากซีรีส์ ‘KinnPorsche The Series’ และได้ขึ้นเวทีคอนเสิร์ตมาแล้วมากมาย สุภาพบุรุษสุดน่าเอ็นดูผู้พกความสดใสไปทุกที่ มีความอ่อนโยนในหัวใจ ขณะเดียวกันก็เปี่ยมไปด้วยแพสชั่นและความมุ่งมั่น
บาร์โค้ดคือใคร และช่วยเล่า Timeline ฉบับย่อให้ฟังหน่อย เข้าวงการมาได้อย่างไร?

ผมชื่อบาร์โค้ด-ตฤณสิษฐ์ อิสระพงศ์พร อายุ 19 ปี เกิดวันที่ 4 สิงหาคม 2547 ครับ ก่อนเข้าวงการผมก็เป็นเด็กนักเรียน ม.5 คนหนึ่งในโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ช่วงนั้นผมอยากเข้าหมอเลยซื้อหนังสือมาอ่านเยอะมาก แต่สุดท้ายจับผลัดจับผลูได้เข้ามาทำงานในวงการ ก็กลายเป็นว่าชอบในสิ่งนี้
และที่ผมเข้าวงการมาได้เพราะผมไปเรียนร้องเพลงกับพี่สาว (ครีมมี่-พลอยปภัส อิสระพงศ์พร) จากนั้นครูที่สอนร้องเพลงก็แนะนำผมให้พี่ปอนด์ (กฤษดา วิทยาขจรเดช) พี่เขาเลยเรียกผมไปออดิชั่นบทปอร์เช่ ในเรื่อง KinnPorsche The Series พอแคสต์ได้ก็มีการเวิร์กช็อป ได้เรียนรู้การทำงานเยอะมาก ตอนนั้นปิดเทอมเลยได้ถ่ายยาว ๆ โชคดีมากเลย รู้สึกแฮปปี้กับการทำงานในกองมาก ทีมงานน่ารัก พี่ ๆ น่ารัก ไม่มีน้อง ๆ เพราะเราน้องสุดแล้ว (หัวเราะ)
อัปเดตผลงาน?

ตอนนี้กำลังถ่ายซีรีส์ ‘Wuju Bakery’ อยู่ครับ เป็นซีรีส์ที่ไปถ่ายทำที่เกาหลี ฝากติดตามด้วยนะครับ น่าดูมาก ๆ แล้วก็มีเพลงใหม่ของผมชื่อ ‘ไม่อยากจะฝันดี’ ตอนนี้ยังอยู่ในกระบวนการทำอยู่ จะปล่อยภายในปีนี้ครับ อยากให้ติดตามฟังกันครับ เป็นเพลงที่ผมแต่งเอง แล้วพี่เจฟ (วรกมล ซาเตอร์) เป็นคนทำดนตรี ความหมายของเพลงคือ ฝันดีเป็นสิ่งที่ไม่ดีเพราะเดี๋ยวเราจะตื่นมาพบความเป็นจริงที่ไม่เหมือนฝัน ผมเลยเอาเรื่องของความรักมาใส่ด้วย คือเราไม่อยากฝันถึงเขาเลย เพราะพอตื่นมาแล้วเราจะรู้ว่ามันไม่มีเขา
เมื่อบาร์โค้ดขึ้นคอนเสิร์ตครั้งแรก?

แรก ๆ ผมจะรู้สึก…เรียกว่าทำตัวไม่ถูกแล้วกัน เพราะครั้งแรกของผมคือ KinnPorsche The Series World Tour 2022 ที่อิมแพ็ค อารีน่า ซึ่งมันเป็นเวทีที่ใหญ่มากสำหรับคนที่เพิ่งเข้าวงการ ผมเลยขอคำแนะนำจากพี่ ๆ เยอะมาก แต่ผมก็รู้สึกมีความสุขมากที่ได้เห็นผู้คนรอบตัว ได้ร้องเพลง ได้เต้น ได้สนุกไปบนเวทีนั้น
ตัวตนของบาร์โค้ด?

ผมเป็นคนชิลล์ ๆ เข้าได้กับทุกคนและทุกสถานการณ์ แล้วก็เป็นคนเฮฮาครับ แต่ก็จะมีมุมนิ่ง ๆ แล้วก็มีมุมเข้มงวดบ้าง ผมเป็นคนรักสุขภาพมาก ต้องการนอน 8 ชั่วโมงต่อวัน ไม่ว่าจะไปเที่ยวเฮฮาที่ไหน ผมต้องกลับบ้านเร็วเพื่อนอนก่อน 4 ทุ่มครับ ทุกคนชวนผมได้นะ เพราะผมเองก็เที่ยวน้อยมาก เลยอยากไปเปิดหูเปิดตาบ้าง (ELLE MEN Thailand: แต่ต้องกลับสี่ทุ่ม?) ใช่ครับ (หัวเราะ) อาจจะมีผ่อนผันบ้าง แต่ผมอยากสูงขึ้น นี่คือประเด็นครับ
งานอดิเรกที่ชอบทำเวลาว่าง?

เวลาอยู่บ้านงานอดิเรกของผมคือร้องคาราโอเกะครับ แต่ว่าไม่มีไมค์นะ มีแค่ลำโพง ส่วนไมค์ก็ใช้เป็นรีโมตแอร์แทน (หัวเราะ) แล้วก็ชอบเต้น ชอบออกกำลังกายครับ ช่วงนี้จะมีฝึกภาษาเกาหลีด้วย คือตั้งแต่ไปเกาหลีก็เริ่มเก็บเกี่ยวจากพี่ ๆ ในกอง ถ่ายเสร็จปุ๊บ ถามปั๊บ จนเขาถามว่าจะเป็นล่ามเหรอ (หัวเราะ) ที่ผมชอบภาษาเกาหลีเพราะทุกครั้งที่เราถ่ายทำซีรีส์เสร็จจะมีคำพูดหนึ่งคือ “ขอบคุณที่ทำงานหนัก” หรือเวลากินข้าวก็จะพูดว่า “จะทานให้อร่อยนะครับ” รู้สึกว่าภาษาเขาน่ารักและลึกซึ้งมากเลย ผมเลยสนใจที่จะเรียนครับ
ศิลปินคนที่เป็นไอดอล?

ถ้าคนที่ฟังตั้งแต่เด็กเลยคือเทย์เลอร์ สวิฟต์ครับ ตอนผมเด็ก ๆ จะมีอัลบั้ม Speak Now เป็นวิดีโอที่เห็นทั้งเวทีเลย เขาร้องเพลงเพราะมาก แล้วก็เป็นคนเอนเตอร์เทนคนด้วย ผมมองเขาเป็นไอดอลแล้วก็ฟังเพลงเขาทุกเพลงเลยตอนนั้น
ได้ข่าวว่าสนิทกับพี่เจฟ ทำไมถึงชอบพี่เขา?

(หัวเราะเขิน) คือเขาเป็นได้ทุกอย่างของผมเลย ทั้งครู เพื่อน ที่ปรึกษา แล้วด้วยความที่ผมเพิ่งเข้าวงการ ทุก ๆ ครั้งที่ผมไม่มั่นใจในส่วนไหน พี่เจฟก็จะคอยสอน ให้คำปรึกษาได้ทุกเรื่องครับ
รู้ตัวว่าชอบดนตรีเมื่อไร?

เท่าที่จำความได้คือตอนอนุบาลครับ คือยายกับแม่จะร้องเพลงกล่อมผมตลอด ฟังแล้วผมก็รู้สึกรื่นหู เหมือนหูมันเต้นระบำ (หัวเราะ) แล้วตอนไปโรงเรียนอนุบาล ทุกเช้าผมจะเอนจอยกับเพลงตลอดเลย เหมือนเพลงเป็นเพื่อนเรา มันทำให้เราไม่เหงา หลังจากนั้นตอน ป.1-ป.2 เห็นกีตาร์ของพี่สาวก็หยิบมาเล่น จับคอร์ดอะไรไปเรื่อย ๆ ครับ จากนั้นมาผมก็ไม่ห่างจากดนตรีอีกเลย
เพลงคืออะไรสำหรับเรา มันพิเศษหรือสำคัญอย่างไร?

ผมว่าเพลงมันคือเรื่องราว ผมชอบฟังเพลงเพราะผมชอบฟังชีวิตของใครบางคน เวลาฟังเพลงผมก็จะฟังเนื้อหาแล้วจินตนาการตาม แล้วเพลงก็มีทั้งจังหวะช้า จังหวะเร็ว เพราะเรื่องราวของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน
ถ้าสามารถเปลี่ยนอะไรสักอย่างเกี่ยวกับดนตรี อยากเปลี่ยนแปลงอะไรไหม?

อยากให้ทุกคนเข้าถึงดนตรีได้มากกว่านี้ครับ สิ่งที่อยากจะเพิ่มเลยก็คือคาราโอเกะ ไม่ใช่แค่ในกรุงเทพฯ แต่ทุกที่เลย เหมือนฟิลิปปินส์ที่มีคาราโอเกะแทบทุกที่ คือคัลเจอร์เขาชอบร้องเพลงกันมาก ๆ เสียงเพลงมันสามารถเป็นเพื่อนของทุกคนได้ เพลงก็เป็นเพื่อนให้คุณได้นะครับ
คำแนะนำหรือคำสอนที่เคยได้รับมาและยังนำมาปฏิบัติอยู่เสมอ?

คำสอนของคุณแม่ผมครับ อ่อนน้อม อ่อนโยน แต่ไม่อ่อนแอ ส่วนคุณพ่อคือให้เกียรติผู้อื่น ง่าย ๆ ตรงตัวเลยครับ
อะไรคือความสุขของบาร์โค้ด?

ความสุขของผมคือความสงบ ความพึงพอใจในสิ่งที่ตัวเองมี ผมหาความสุขได้เรื่อย ๆ เพราะเป็นคนชิลล์ ๆ ได้ก็โอเค ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่เป็นคนที่โฟกัสสูงนะครับ ผมมีเป้าหมายชัดเจน แต่สุดท้ายแล้วผมจะไม่คาดหวังครับ
ข้อความที่อยากฝากถึงแฟน ๆ ?
ผมรักยูนิตมาก ๆ เลย บอกฝันดีเขาทุกคืน แต่ไม่เคยพิมพ์ลงไปนะครับ (ยิ้ม) มันเขินอะ เวลาบอกฝันดีใครสักคน ผมบอกรักและอวยพรทุกคืน อยากให้เขามีความสุข นอนหลับฝันดี แม้ว่าเพลงผมจะชื่อ ‘ไม่อยากจะฝันดี’ ก็ตาม (หัวเราะ) ฝันดีของผมหมายถึงหลับสบาย แล้วก็ตื่นมามีความสุขในทุก ๆ วัน หรือเวลาเหนื่อยก็ดูหน้าผมในหน้าจอโทรศัพท์ของคุณก็ได้ ผมรักยูนิตตลอดไป (ยิ้ม)