“น้อยแต่มาก…เรียบแต่โก้” วลีเด็ดจากรายการ The Face Thailand คงจะเป็นวลีที่เราคงกลับมาได้ยินบ่อยขึ้นในช่วงนี้ เพราะอย่างที่เราคาดเดากันไว้ว่า Demna (เด็มนา) ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ของ Balenciaga นั้นมีสองทางเลือกในนำเสนอคอลเล็กชั่น Spring 2024 ของแบรนด์หรูสัญชาติสเปนแบรนด์นี้ ทางเลือกแรกคือกลับไปสู่ความ ‘ขบถ’ ที่เขาได้นำเอามาเป็น Core Idea ของแบรนด์ตั้งแต่เขาก้าวเท้าเข้ามากุมหัวเรือแบรนด์หรูแบรนด์นี้ ทางเลือกที่สองคือการ Continue ไดเร็กชั่นมินิมอลของแบรนด์ที่เขาได้เริ่มทำมา 2 คอลเล็กชั่น ตั้งแต่ฤดูกาล Winter 2023
ซึ่งจากแฟชั่นโชว์ดิจิทัลที่แสดงผ่าน Live Straming เมื่อคืนวันที่ 30 พฤษภาคม แสดงให้เห็นว่าเขาเลือกอย่างหลังมากกว่า แทนที่จะกลับไปสู่ไดเร็กชั่นเดิมๆ ที่ก่อดราม่าครั้งใหญ่ให้กับแบรนด์เมื่อปีกลาย ภาพรวมของคอลเล็กชั่นจึงมีความน้อยลงในทุกมิติ เขาได้ลดความขบถทั้งในโชว์และคอลเล็กชั่นเสื้อผ้าลงเหมือนกับที่เคยทำมาในสองซีซั่นก่อนหน้า ดั่งคำพูดที่เขาเคยให้สัมภาษณ์ว่าเขาจะลดความหวือหวาในการทำเสื้อผ้าและการทำแฟชั่นโชว์ลง
Everyday Wear ที่ใส่ใจในรายละเอียดแบบทุกมิติ
Balenciaga Spring 2024 นั้นจึงเป็นคอลเล็กชั่นที่เน้นการสร้างไอเทมแบบ Essential Piece มากขึ้น โอบรับกับเทรนด์ ‘Quiet Luxury’ และเทรนด์มินิมอลที่กำลังครองโลกแฟชั่นอยู่ในตอนนี้! ในส่วนแรกของคอลเล็กชั่นจะเป็นพาร์ตของ ‘Garde-Robe’ (ไลน์เสื้อผ้าของ Balenciaga ที่ควรมีติดตู้เสื้อผ้าไว้ ซึ่งได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นอย่างประณีต) และในพาร์ตที่สองก็คือเสื้อผ้า Ready-to-Wear ตามฤดูกาล
โดยไอเทมทั้งหมดได้รับการสร้างสรรค์ให้เหมาะสำหรับในทุกๆ วัน ด้วยการออกแบบการโชว์ที่มุ่งเน้นการกระทำทั่วไป เช่น การหยิบเหรียญจากทางเท้า หรือการซูมสเกตบอร์ด เสื้อผ้าสุดเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยดีไซน์ที่บ่งบอกถึงอัตลักษณ์งานออกแบบของ Demna อีกทั้งยังสะท้อนความหนาแน่นของการใช้ชีวิตในเมือง ในขณะเดียวกันคอลเล็กชั่นนี้ก็นำเสนอการตัดเย็บอย่างประณีตด้วยฝีเข็มที่เฉียบคม และเหล่าวัสดุหายากสมกับเป็นอีกหนึ่งแฟชั่นเฮ้าส์ชื่อดังของโลกแฟชั่น
‘วิถีชีวิตคนเมือง’ แก่นของ Balenciaga Spring 2024
Balenciaga นำเสนอคอลเล็กชั่นนี้ผ่านวิดีโอไทม์แลปส์ (Time-Lapse) บันทึกจังหวะชีวิตของผู้คนในเมือง ได้แก่ การสัญจรไปมาบนทางเท้า, การทักทายกัน หรือแม้กระทั่งการหยุดเพื่อชื่นชมสิ่งแวดล้อมต่างๆ รอบตัว ทำให้ในโชว์นี้เราจะเห็นภาพของคนที่พาสุนัขไปเดินเล่นไปจนถึงพนักงานส่งพัสดุ หรือชาวเมืองที่หลบฝน หรือหันหน้ารับแสงอาทิตย์ในกรุงปารีส
ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดย ‘Mau Morgó’ (เมา มอร์โก) ร่วมกับ BFRND โดยการนำเพลง ‘Sous le Ciel de Paris’ ของ Édith Piaf (อีดิธ เพียฟ) มารังสรรค์ใหม่ โดยมีฉากหลังเป็นอาคารเลขที่ 10 ถนนฌอร์ฌ-แซงก์ (Avenue George V) ซึ่ง Cristóbal Balenciaga (Cristóbal Balenciaga) นักออกแบบในตำนานผู้ก่อตั้งแบรนด์ เรียกสถานที่นี้ว่า ‘Le Dix’ ถือเป็นจุดกำเนิดของเรื่องราวอันเป็นมรดกของเมซง นับตั้งแต่เปิดร้านครั้งแรกเมื่อปี 1937 และยังคงดำเนินมาจนถึงปัจจุบันนี้
ซึ่งความสำคัญของสถานที่แห่งนี้ และแนวคิดในการประยุกต์เอกลักษณ์ของแบรนด์เข้ากับชีวิตประจำวัน ซึ่งเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนภาพยนตร์เรื่องนี้ ผลลัพธ์ที่ได้คือภาพของมหานครที่พลุกพล่าน ซึ่งเป็นการผสานจิตวิญญาณของ Balenciaga เข้ากับเรื่องราวในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว ถึงกระนั้นในความมินิมอลและเรียบง่ายของเสื้อผ้าและการนำเสนอคอลเล็กชั่นนั้น Demna ยังคง DNA ของเขาเอาไว้ในทุกมิต อีกทั้งยังเอาคงรหัสการออกแบบของ Cristóbal อาทิ Balloon Shape มาไว้ในคอลเล็กชั่นนี้อย่างสมบูรณ์แบบ สำหรับคอลเล็กชั่นนี้ชาวแอลเมนให้คะแนนเท่าไหร่กัน?
Balenciaga Spring 2024 Collection
