เก็บตก 5 โชว์น่าสนใจจาก Paris Fashion Week Fall/Winter 2024

จบลงอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ Paris Men’s Fashion Week ฤดูกาล Fall/Winter 2024 เรียกว่าซีซั่นนี้ภาพรวมของเมืองนี้นั้นคึกคักอีกเช่นเคย ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัวสุดเก๋ของแขกคนสำคัญหรือบนรันเวย์ที่มีงานดีไซน์ที่หวือหวาและเป็นเอกลักษณ์อันเป็นกิมมิกของสัปดาห์แฟชั่นของเมืองน้ำหอมนี้ จนทำให้หลายคนรอชมดีไซเนอร์คนโปรดปล่อยพลังบนรันเวย์โชว์ของพวกเขา

ซีซั่นนี้เรียกว่าภาพรวมนั้นมีความหลากหลายมากๆ เพราะแนวทางการออกแบบของนักออกแบบแต่ละคนที่ยกโชว์มาจัดที่ปารีสนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง มีตั้งแต่การเน้นประเด็นเรื่องวัฒนธรรม วิถีชีวิต ความยั่งยืน และความตะโกนในงานออกแบบ ชาวแอลเมนอย่ารอช้าไปดูกันดีกว่า 5 โชว์ที่น่าสนใจจาก Paris Men’s Fashion Week ฤดูกาลนี้จะโดนใจคุณหรือไม่

(อ่านบทความเกี่ยวกับปารีสแฟชั่นวีกเพิ่มเติมได้ที่ ส่องลุคเหล่าเซเลบริตี้ที่เด่นไม่แพ้โชว์ใน Paris Men’s Fashion Week Fall/Winter 2024)

KENZO นักเดินคนสำคัญบนเส้นทางสายไหมแห่งโลกแฟชั่น

นักออกแบบสุดเก๋า NIGO ยังคงวาดลวดลายการออกแบบสุดเจ๋งกลิ่นอาย Oriental ของเขาภายใต้แบรนด์ฝรั่งเศสสายเลือดญี่ปุ่นแบรนด์นี้ โดยในคอลเล็กชั่นนี้นั้นเขายังคงโฟกัสไปที่เรื่องราวการเดินทางของวัฒนธรรมเพื่อสดุดีถึงประวัติศาสตร์และเรื่องราวของแบรนด์นี้ ที่คอยผสานวัฒนธรรมตะวันตกและตะวันออกเข้าไว้ด้วยกันของผู้ก่อตั้งแบรนด์ Kenzo Takada

โดยคอลเล็กชั่น Fall/Winter 2024 นี้ Nigo ใช้ยูนิฟอร์ม ‘ชุดนักเรียน’ อันเป็นเดรสโค้ดสากลมาเป็นซิลูเอตของหลายๆ ลุคในคอลเล็กชั่น เพื่อเป็นสื่อกลางในการนำเสนอการผสมผสานของตะวันตกและตะวันออกให้มีความกลมกล่อม อีกทั้งยังหยอดกลิ่นอายตะวันออกเพิ่มเข้าไปโดยดึงลายพิมพ์ที่ได้แรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมญี่ปุ่น เช่น เสื่อทาคามิ หรือลายคารุคาสะที่เราคุ้นตาจากมังงะหลายๆ เรื่อง มาผสานจนกลายเป็นคอลเล็กชั่นที่สะท้อนถึงการหลอมรวมของวัฒนธรรมได้อย่างเพอร์เฟกต์

BOTTER งานดีไซน์กลิ่นอายโมเดิร์นที่ยั่งยืนทุกมิติ

สำหรับแบรนด์ต่อมาเรียกว่าเป็นหนึ่งใน Hidden Gems ของกรุง Paris เลยสำหรับ Botter แบรนด์ปารีเซียงสุดโมเดิร์นที่คอลเล็กชั่นประจำฤดูกาลนี้ที่ชื่อว่า Dark Water ได้ชูงาน ตัดต่อ (Patchwork) เข้ากับงานเทเลอร์กลิ่นอายกรันจ์เพื่อยกระดับนิยาม Caribbean Couture ของแบรนด์นี้ที่สองครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ Rusheny Botter และ Lisi Herrebrugh พยายามชูให้เป็นภาพจำของเฮ้าส์ให้แข็งแรงขึ้นไปอีก

ซึ่งหากนึกถึงแบรนด์นี้คนแฟชั่นอาจจะไม่มีภาพในหัวที่ชัดเจนแต่สำหรับแอลเมน เรารู้สึกว่า Botter นั้นเป็นแบรนด์แฟชั่นที่มีความเป็น Contemporary Wear สูงมาก โดยเฉพาะการดึงเอาเทคนิคสุดล้ำต่างๆ มาผสานลงเข้ากับซิลูเอตเสื้อผ้า Everyday ยิ่งทำให้ Botter ดูร่วมสมัยมากขึ้นไปอีก แถมยังมีดีเทลเล็กๆ น้อยสร้างความน่าสนใจให้กับคอลเล็กชั่นอยู่หลายจุดเลย ตั้งแต่ แขนเสื้อที่ถูกทำให้ดูเลอะ ไปจนถึงลายพิมพ์ที่มีอารมณ์ขัน จนทำให้เราดึง Botter มาอยู่ในลิสต์นี้ด้วย

LEMAIRE นำเสนอมิติใหม่ของวิถีชีวิตสุดเรียบง่ายผ่านคอลเล็กชั่นอันไร้ที่ติ

สำหรับสายมินิมัลเราเชื่อว่าทุกคนต้องตั้งตารอแบรนด์ Lemaire กันอยู่แน่ๆ ซึ่งรอบนี้แฟชั่นโชว์นั้นถูกจัดขึ้นที่ออฟฟิศของพวกเขาเอง ซึ่งเซตติ้งถูกเซตขึ้นอย่างเรียบง่ายเน้นให้เห็นถึงดีเทลและซิลูเอตของคอลเล็กชั่นที่เรียบง่ายไม่แพ้กัน โดยภาพรวมของคอลเล็กชั่นนี้ Christophe Lemaire และ Sarah-Linh Tran นั้นได้ชูประเด็น Everyday Wear ให้กลายเป็นหัวใจหลักของคอลเล็กชั่นนี้ เพื่อทำให้คนแฟชั่นได้สัมผัสคอลเล็กชั่นสุดหรูหราที่สามารถสวมได้ในทุกๆ วัน

วัสดุและผ้าที่ถูกใช้ในคอลเล็กชั่นนี้ก็เรียกว่าสร้างความน่าสนใจเป็นอย่างมา ตั้งแต่ ผ้าสักหลาด ผ้าแคชเมียร์ และผ้าวูล ถูกนำมาสร้างเป็นไอเทมต่างๆ นอกจากนั้นยังมีผ้าที่มีฟังก์ชั่นโอบรับกับทุกสภาพอากาศ เช่น ผ้าฝ้ายเคลือบ ผ้าบล็อกเทคกันน้ำ ไนลอนซาติน และไอเทมอย่างดาวน์แจ็กเกตเพื่อแสดงให้เห็นว่าคอลเล็กชั่นนี้นั้นเหมาะกับใส่ในทุกวันจริงๆ และแฟนๆ กระเป๋ารุ่น Croissant ต้องร้องว้าวเพราะในคอลเล็กชั่นนี้มันถูกดัดแปลงเป็นเวอร์ชั่น โครเชต์ ด้วย

KIDSUPER ดาวเด่นผู้สร้างซีนใหญ่ให้ Paris Fashion Week

และเราก็มาถึงโชว์แย่งซีนของฤดูกาลนี้กันแล้วกับ Kidsuper แบรนด์แฟชั่นจากนิวยอร์กที่นอกจากจะได้นักเตะในตำนาน Ronaldinho มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของรันเวย์แล้ว เขายังสร้างซีนฟินาเล่สุดไวรัลให้คนแฟชั่นได้อ้าปากค้างกันอีกด้วย แต่หากพูดถึงงานดีไซน์ที่ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ Colm Dillane ได้ออกแบบในคอลเล็กชั่นนี้เราก็ต้องบอกว่านี่คืออีกหนึ่งคอลเล็กชั่นที่ร่วมเชปนิยามของคำว่า Street Couture เลย

คอลเล็กชั่นนี้ไลน์อัพตั้งแต่ลุคเทเลอร์สุด Delicate ไปจนถึงเหล่าไอเทมสตรีตสุดเอ็กซ์ตรีมอย่าง โอเวอร์โค้ตเฟอร์สุดเท่ หรือเหล่าพัฟเฟอร์แจ็กเกตที่ถูกยัดดีเทลลงไปอย่างพอเหมาะพอเจาะ หากเราหันมาดูส่วนของการตกแต่งและดีเทลของคอลเล็กชั่นนี้เราก็จะเห็นว่า Colm นั้นได้หยิบยืมองค์ประกอบศิลป์ต่างๆ มาถ่ายทอดในคอลเล็กชั่นเพื่อสร้างไดนามิกและสะท้อน DNA ความเป็นสตรีตแบรนด์ไฟแรง นอกจากนั้นยังแสดงถึงความเป็นนิวยอร์กเกอร์ที่อยู่ในเส้นเลือดดำของแบรนด์นี้อีกด้วย

EGONLAB ดัดแปลงซิลูเอตเครื่องแต่งกายโอบรับความลื่นไหลทางเพศ

มาสู่แบรนด์สุดท้ายที่เราชื่นชอบในงานดีไซน์สุดลื่นไหลของเขามากๆ กับ EGONLAB แบรนด์ที่กุมบังเหียนโดย Florentin Glémarec และ Kevin Nompeix โดยแบรนด์นี้นั้นมีกลิ่นอายพังก์ร็อกมากๆ โดยในคอลเล็กชั่นนี้เขาถ่ายทอดจิตวิญญาณสุดขบถนี้ในซิลูเอตเสื้อผ้าสตรีมากๆ ตั้งแต่ สูทไหลตั้ง ไปจนถึงชุดกลางคืนเปิดไหล่ที่เชื่อว่าไม่ว่าใครใส่จะต้องโดดเด่นและเป็นที่จับตามองในทุกอีเวนต์อย่างแน่นอน

ในคอลเล็กชั่นนี้นอกจาก 2 ไอเทมที่เรากล่าวไปข้างต้นแล้วเรายังสามารถเห็นงานออกแบบแฟชั่นที่พลิกแพลงเมนส์แวร์แบบเดิมๆ เพื่อหนีภาพจำเสื้อผ้าผู้ชายในอุดมคติ เช่น พาวเวอร์โค้ตที่แมตช์กับเข็มขัดยาวเกินจริง หรือเบเซอร์พิมพ์ลายภาพลวงตา รวมไปถึงเสื้อเดรปประดับห่วงทองที่สะท้อนความเป็น Womenswear สุดๆ และนอกจากประเด็นเรื่องความลื่นไหลแล้วเรารู้สึกว่าความเซ็กซี่ของคอลเล็กชั่นนี้คือเต็มปรอทไปเลย!

Similar Articles

More