Best in Complications Class
เริ่มกันที่ผลงานคอมพลิเคชั่นจาก Vacheron Constantin ที่ปีนี้ฉลองครบรอบ 270 ปี พร้อมเปิดตัวนาฬิการุ่นสลับซับซ้อนใน Traditionnelle Tourbillon Perpetual Calendar ซึ่งบรรจุไว้ด้วยกลไกคาลิเบอร์ใหม่ และผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 127 เรือนกับตัวเรือนแพลทินัม ต่อกันด้วย Patek Philippe ที่โชว์ทักษะการรังสรรค์นาฬิกาอันซับซ้อนผ่านรุ่น Quadruple Complication Ref. 5308G-001 โดยรวมไว้ด้วยฟังก์ชันมินิท รีพีทเตอร์, สปลิท-เซกคันด์ โครโนกราฟ และปฏิทินถาวรแบบเฉียบพลัน ทำงานด้วยกลไกจักรกลอัตโนมัติ Calibre R CHR 27 PS QI ที่จดสิทธิบัตรใหม่ถึง 2 ฉบับ และเด่นด้วยช่องหน้าต่างแสดงวัน-วันที่-เดือน เรียงโค้งตามหน้าปัดด้านบน มาพร้อมตัวเรือนไวต์โกลด์และหน้าปัดสีไอซ์บลู
สะท้อนมรดกงานออกแบบที่พลิกโฉมสู่ความทันสมัย คือนาฬิการุ่นใหม่ของ Reverso Tribute Monoface Small Seconds จาก Jaeger-LeCoultre ซึ่งมากับสายนาฬิกาพิงก์โกลด์แบบ Milanese และหน้าปัดลายเกรนสีทองแบบด้าน ส่วนตัวเรือนยังคงคอนเซ็ปต์พลิกกลับด้านได้ ขณะที่ Cartier นำคอลเล็กชั่นที่นักสะสมเฝ้ารอคอย อย่าง Tank à Guichets จากปี 1928 กลับมาทำใหม่ โดยเฉพาะรุ่นเด่นของตัวเรือนแพลทินัม แสดงเวลาผ่านช่องหน้าต่างโค้งเรียงแบบทแยงมุม และผลิตในจำนวนจำกัดแค่เพียง 200 เรือน และ IWC ส่งรุ่นสปอร์ตสไตล์นักบินของ Pilot’s Watch Performance Chronograph Perpetual Calendar Digital Date-Month มาประชันความเท่ในแบบนาฬิกาคอมพลิเคชั่น ด้วยการรวมทั้งฟังก์ชันโครโนกราฟ ปฏิทินถาวร และการแสดงวันที่และเดือนแบบตัวเลขมาไว้ในเรือนเดียวได้อย่างสมบูรณ์
Vacheron Constantin Traditionnelle Tourbillon Perpetual Calendar

Patek Philippe Quadruple Complication Ref. 5308G-001

Jaeger-LeCoultre Reverso Tribute Monoface Small Seconds

Cartier Tank à Guichets

IWC Pilot’s Watch Performance Chronograph Perpetual Calendar Digital Date-Month

Best in Smart Looks
ต่อกันที่กลุ่มนาฬิกาลุคเท่และทันสมัยที่ผสมผสานความเชี่ยวชาญในการรังสรรค์นาฬิกาชั้นสูง อย่างรุ่นเด่นของ Arceau Le temps suspendu จาก Hermès ด้วยการบรรจุโมดูล ‘Time suspended’ ช่วยให้จดจำเวลาที่แท้จริงได้ แม้มีการเปิดใช้งาน start-stop ของฟังก์ชัน Time suspending อีกหนึ่งสถิติครั้งใหม่ของ Bulgari ที่เผยไฮไลต์แห่งปีด้วยรุ่นไอคอน Octo Finissimo Ultra Tourbillon กับการเป็นนาฬิกาจักรกลฟลายอิ้งทูร์บิญองบางที่สุดซึ่งหนาเพียง 1.85 มม. และสร้างสถิติโลกครั้งที่ 10 ให้กับแบรนด์ได้สำเร็จ
สร้างเซอร์ไพรส์ให้กับคนรักนาฬิกาได้ไม่แพ้กันกับรุ่นไฮไลต์ของ Chanel อย่าง J12 Bleu Diamond Tourbillon ในตัวเรือนและสายนาฬิกาเซรามิกสีน้ำเงินด้านใหม่และหน้าปัดแบบโอเพ่นเวิร์กสีน้ำเงิน โชว์เพชรบนฟลายอิ้งทูร์บิญองและประดับแซปไฟร์สีน้ำเงินบนขอบตัวเรือน ส่วน Hublot ส่งนาฬิการุ่น Big Bang Unico Petrol Blue Ceramic มาร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 20 ปีของคอลเล็กชั่น Big Bang ในปีนี้ กับลุคสีน้ำเงินเข้มของตัวเรือนเซรามิกและสายยางสีเดียวกัน ส่งท้ายกับรุ่นเด่นจากฝีมือของ TAG Heuer ใน Monaco Split-Seconds Chronograph | F1® ที่เวอร์ชันพิเศษนี้มาพร้อมกับตัวเรือนเซรามิกสีขาว ตัดกับหน้าปัดแบบสเกเลตันตกแต่งด้วยสีแดง และเม็ดมะยมเซรามิกสีขาว จับคู่มากับสายหนังวัวสีขาวแบบสปอร์ตเนี้ยบ แต่ดูลงตัว
Hermès Arceau Le temps suspendu

Bulgari Octo Finissimo Ultra Tourbillon

Chanel J12 Bleu Diamond Tourbillon

Hublot Big Bang Unico Petrol Blue Ceramic

TAG Heuer Monaco Split-Seconds Chronograph F1®


