หนัง Flat Girls: ชั้นห่างระหว่างเรา คือการเดินทางผ่านโลกของ แฟลตตำรวจ ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงแค่ที่พักอาศัย แต่ยังเป็นสัญญะของการแบ่งแยกชนชั้นในสังคมไทย ผลงานล่าสุดของผู้กำกับหญิงคนเก่งแคลร์- จิรัศยา วงษ์สุทิน ที่เล่าเรื่องผ่านมุมมองชีวิตของเด็กๆ ที่เติบโตในพื้นที่จำกัด ทั้งในแง่ของพื้นที่ทางกายภาพและพื้นที่ทางสังคม ผ่านการเดินทางของตัวละครสองสาวอย่าง น้องเจน (รับบทโดยแฟร์รี่-กิรณา) และ พี่แอน (รับบทโดยเอินเอิน-ฟาติมา) ที่สะท้อนความฝันและการดิ้นรนในโลกที่ถูกกำหนดด้วยชนชั้นและสถานะทางเศรษฐกิจ
*คำเตือน: เนื้อหาอาจมีสปอยล์
หากคุณยังไม่ได้ดูภาพยนตร์ การอ่านเนื้อหาต่อไปอาจทำให้คุณทราบข้อมูลสำคัญหรือการหักมุมที่สำคัญของเรื่อง
แฟลต: พื้นที่ที่ไม่เคยหยุดพัฒนา
แฟลตไม่ใช่แค่ตึกที่มีชีวิตอยู่ในแง่ของการใช้สอยเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่ที่มี ความฝัน และ ความไม่เท่าเทียม แฝงอยู่ในทุกมุม ทุกการเคลื่อนไหวของผู้คนที่อาศัยอยู่ภายในมัน แม้ว่าภายนอกแฟลตจะดูเป็นแค่แหล่งที่อยู่อาศัยชนิดหนึ่งที่ให้ความรู้สึกถึงความอึดอัดและจำกัด แต่สำหรับเด็กๆ ในแฟลตแล้ว มันกลับเป็น สนามเด็กเล่น ที่เต็มไปด้วยเรื่องราว ความสัมพันธ์ และความฝันที่ไม่หยุดเดินไปข้างหน้า สัญญะที่แสดงถึง ‘แฟลต’ ในภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ใช่แค่พื้นที่จำกัดที่ถูกขังอยู่ในสถานะทางเศรษฐกิจที่ต่ำกว่า แต่ยังเป็นพื้นที่ที่สร้างโอกาสให้กับทุกคนที่อยู่ในนั้นได้หาวิธีรอดชีวิตและเติมเต็มความฝันด้วยวิธีการของตัวเอง
ช่องว่างระหว่างวัย: ความฝันและการใช้ชีวิตในมุมมองของเจน Z และ Y
ตัวละครอาตองที่บอย ปกรณ์ รับบท เป็นตัวแทนของคนรุ่น Y ที่มีมุมมองชีวิตที่แตกต่างจากเจน Z ซึ่งมีพี่แอน น้องเจนเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ อาตองยังคงยึดมั่นกับค่านิยมเก่าและการใช้ชีวิตที่สังคมกำหนด เช่น ความคิดแบบ “ชายแท้ว่ะ” ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อที่ล้าหลังและถูกตีกรอบด้วยค่านิยมที่ไม่ค่อยยืดหยุ่น โดยยังคงยึดมั่นกับแนวทางการใช้ชีวิตที่ได้รับการปลูกฝังจากครอบครัวและสังคม ขณะที่น้องเจนกลับมองโลกในแง่บวกและพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ชีวิตของตัวเองดีขึ้น โดยไม่ยึดติดกับข้อจำกัดที่สังคมสร้างขึ้น
ช่องว่างระหว่างวัยนี้สะท้อนความคิดที่แตกต่างของทั้งสองรุ่น เจน Z เติบโตในโลกที่มีเทคโนโลยีและเสรีภาพในการแสดงออก ขณะที่อาตองถูกขัดขวางด้วยกรอบของสังคมและครอบครัว ทำให้เกิดความท้าทายในการปรับตัวและมองโลกในมุมมองที่แตกต่างกัน แต่สุดท้ายทั้งสองก็ต้องค้นหาความฝันและยืนหยัดต่อไปในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ความฝันของคนจนกับคนรวย: ระหว่างความหวังและข้อจำกัด
หนังเรื่องนี้ไม่ได้แค่สะท้อนถึงการต่อสู้ของตัวละครในเรื่อง แต่ยังพูดถึงความ แตกต่างของชนชั้น และ การแบ่งแยกระหว่างคนจนกับคนรวย ผ่านมุมมองของการใช้ชีวิตในแฟลตตำรวจที่มักจะถูกมองว่าเป็นพื้นที่ของผู้คนที่ ด้อยโอกาส แต่ในความเป็นจริง พวกเขากลับมองหาความฝันของตัวเองอย่างไม่ย่อท้อ แม้ว่าจะต้องเผชิญกับการจำกัดทางสังคมที่มีอยู่
จากการมองชีวิตในแฟลตที่เต็มไปด้วยความอึดอัด แต่ เด็กๆ ในแฟลต กลับมองหาความสุขในทุกขณะ แม้ว่าพวกเขาจะรู้ดีว่าโอกาสและความฝันของพวกเขาอาจจะไม่เหมือนกับคนในชนชั้นกลางหรือชนชั้นสูงที่มีโอกาสมากมายเข้าถึง แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่พวกเขามีคือความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตให้ดีขึ้นผ่านการ ดิ้นรน และ พยายามอย่างไม่ลดละ
ในทางกลับกัน ตัวละครที่มีโอกาสมากกว่ากลับต้องเผชิญกับข้อจำกัดบางอย่างในชีวิต ที่เป็นผลจากความสัมพันธ์ทางครอบครัวหรือภาระหน้าที่ที่ถูกคาดหวังให้ทำตามขนบของสังคม สัญญะของการแบ่งแยกชนชั้นนี้ยังชัดเจนยิ่งขึ้นจากการที่ตัวละคร พี่แอน ต้องเผชิญหน้ากับความเป็นจริงที่เธอไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้จากการสูญเสียสิทธิในการอาศัยในแฟลต
การเรียนรู้จากกันและกัน: ความสัมพันธ์ที่สะท้อนสังคม
หนึ่งในจุดเด่นของหนังคือการถ่ายทอดการทำงานร่วมกันของตัวละครที่ต่างคนต่างมีพื้นฐานชีวิตที่แตกต่างกัน แม้แต่ตัวละคร พี่แอน และ น้องเจน ก็ยังต้องเรียนรู้ที่จะร่วมมือกันเพื่อเติบโตและพัฒนาตัวเองไปข้างหน้า
หนังจึงไม่เพียงแต่เป็นเรื่องของ ความฝัน แต่ยังพูดถึง การพัฒนา ในทางที่ สมบูรณ์ ของทั้งตัวละครและตัวเราเองที่ต้องเผชิญหน้ากับข้อจำกัดของชีวิต ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นในแฟลตไม่ใช่แค่ความผูกพันของคนที่เกิดในพื้นที่เดียวกัน แต่ยังเป็นการเรียนรู้ที่จะยอมรับความแตกต่างในทุกๆ ด้าน
Flat Girls เป็นหนังที่ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงชีวิตในแฟลตเท่านั้น แต่ยังเปิดเผยมุมมองที่เรามักไม่ค่อยได้เห็นในชีวิตจริง นั่นคือความ แตกต่าง และ ช่องว่างทางสังคม ที่ยังคงส่งผลต่อชีวิตของคนในสังคมไทย หนังเรื่องนี้นำเสนอความจริงของชีวิตผ่านตัวละครที่ดิ้นรนและพยายามที่จะก้าวข้ามอุปสรรคเพื่อให้ความฝันของพวกเขาเป็นจริง และเป็นการเตือนใจให้เรารู้จัก มองเห็นความสำคัญของสิ่งเล็กๆ ในชีวิต ที่อาจเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ได้
Photo: GDH