หลังจากคอลเล็กชั่นแรก Sabato De Sarno นำเอา ‘เทเลอริ่ง’ หัวใจสำคัญของงานดีไซน์จาก Gucci มาใช้เพื่อเปิดตัวคอลเล็กชั่น Menswear เพื่อเป็นการปูรากฐานใหม่ให้กับทิศทางที่เขาจะพาแบรนด์อิตาเลียนนี้ไปในอนาคต ความแน่วแน่ในการล้างภาพเดิมจากสไตล์แม็กซิมัล สู่งานดีไซน์โมเดิร์นเน้นความเรียบแต่หรูหราในเนื้อสัมผัสกำลังเริ่มเดินเครื่องทำงาน เมื่อรากฐานแข็งแรงแล้ว Gucci ก็พร้อมจะพาเราเสี่ยงมากขึ้น เพื่อเพิ่มอรรธรสในการเสพเฉกเช่นคอลเล็กชั่นที่สองของเขาในคอลเล็กชั่น Spring-Summer 2025 นี้
สิ่งแรกที่สะดุดตาป๊อปออกมาจากคอลเล็กชั่นนี้คือ ‘โทนสี’ ที่ไล่จากฉูดฉาดอย่างสีเขียวเเอซิด สีม่วงสังเคราะห์ สีส้มสะท้อนแสง ชมพูช็อคกิ้งพิงก์ ไปจนถึงพาสเทลและคลาสสิกอย่างขาวและดำ อย่างถัดไปคืองานดีไซน์ของซาบาโตที่เขาปรับเทคนิคเทเลอริ่งให้ดูสนุกขึ้น ไอเท็มเสื้อแจ็กเกตหรือเบลเซอร์ซิลูเอตรีแลกซ์ที่เขาเลือกแมตช์เข้ากับกางเกงขาสั้นกุดปรับไลฟ์สไตล์ของผู้ชาย Gucci ให้ดูขี้เล่นและซ่าขึ้น
ดังนั้นผู้ชายของ Gucci คราวนี้เริ่มนำเอาความเซ็กซี่แบบยุค 90s กลับมาอีกครั้ง เพียงแต่รอบนี้ซาบาโตอยากให้ ‘เรียวขา’ เป็นพระเอกแทนกล้ามท้องซิคแพค อย่างไรก็ตามหากเรียวขาไม่ใช่สิ่งที่คุณมั่นใจนักแต่กลับเป็นลอนหน้าท้องแน่นๆ คอลเล็กชั่นนี้ยังมีไอเท็มหมัดเด็ดอยู่ที่เสื้อโปโลตาข่ายหลากสีที่ซาบาโตเลือกชูไม่แพ้กางเกงขาสั้นเลย ทั้งหมดที่เรากล่าวมานี้ล้วนได้แรงบันดาลใจจากสไตล์ของนักเซิร์ฟที่ซาบาโตได้นำมาใช้เป็นแรงบันดาลใจผสมผสานเข้ากับเทคนิคการตัดเย็บแบบอิตาเลียน
ความสนุกในงานดีไซน์ของซาบาโตเริ่มชัดเจนมากขึ้นรวมถึงทิศทางใหม่ของแบรนด์ Gucci ที่เราเริ่มมองเห็นเป็นรูปเป็นร่างกว่าแต่ก่อน ความท้าทายต่อจากนี้คือการสร้างความต่อเนื่องอย่างไรให้กับสไตล์ใหม่นี้ไม่ดูน่าเบื่อ อย่างน้อยในฝั่ง Menswear ซาบาโตสามารถสร้างเซอร์ไพรส์ผ่านชิ้นงานที่ดูสนุกและกล้าเสี่ยงมากขึ้น ซึ่งการปรับตัวเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาและแบรนด์เองก็มีเวลาให้เขาพอสมควร ที่สำคัญแผนกเส้นเลือดดำของแบรนด์อย่างแอ็กเซสเซอรี่ส์สามารถทำหน้าที่ของมันได้เป็นอย่างดี และเราเชื่อว่าคอลเล็กชั่นนี้เมื่อเริ่มเข้าหน้าร้านกระเป๋าและรองเท้าสีสันฉูดฉาดจะต้องได้รับความนิยมกลายเป็นไอเท็มที่ผู้ชายหลายคนอยากจับจองอย่างแน่นอน
Photo: Launchmetrics/Spotlight