คอลเล็กชั่น Luminor ของ Panerai เติบโตจากการสืบทอดตำนานแห่งนาฬิกากองทัพ สู่การสร้างสรรค์ความสวยงามแบบสปอร์ตและสไตล์แคชวลที่น่าสนใจ ซึ่งเชื่อว่าหลายคนยังคงติดตามผลงานรุ่นใหม่ๆ ของตระกูลนี้มาอย่างต่อเนื่องเป็นหนึ่งในทายาทระดับไอคอนที่พัฒนาต่อยอดมาจากนาฬิกาสำหรับกองทัพ ด้วยคุณสมบัติและนวัตกรรมมากมาย ซึ่งรวมไปถึงการใช้สารเรืองแสงชนิดใหม่ในยุคสมัยนั้นที่มีชื่อเรียกว่า Luminor และนั่นเองจึงเป็นที่มาของชื่อคอลเลกชั่นนาฬิกาอุปกรณ์ซึ่งหล่อหลอมและถือกำเนิดมาจากมรดกด้านความเชี่ยวชาญของเมซงแห่งนี้
ด้วยบุคลิกสปอร์ตพร้อมทั้งคุณสมบัติโดดเด่นเฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นความเที่ยงตรงแม่นยำและความทนทาน บวกกับการพัฒนาด้านงานออกแบบสไตล์อิตาเลียนมาอย่างต่อเนื่อง เช่นในตัวเรือนทรงคุชชั่นซึ่งได้กลายเป็นเอกลักษณ์ ขอบตัวเรือนแบบกว้างและเรียบแบน รวมถึงอุปกรณ์ปกป้องเม็ดมะยมที่ช่วยยกระดับทั้งประสิทธิภาพการกันน้ำ ช่วยปกป้องจากการกระแทกและการปรับตั้งนาฬิกาโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้ Luminor เป็นนาฬิกาที่เพียบพร้อมทั้งด้านคุณสมบัติ ทั้งยังสามารถเลือกสวมใส่ได้อย่างหลากหลาย สะท้อนถึงความเชี่ยวชาญในการรังสรรค์นาฬิกาของ Panerai ได้เป็นอย่างดี นับตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกของ Luminor รุ่นตัวเรือน 44 มม. ในช่วงปี 1992 พร้อม ๆ กับการเปิดตัวนาฬิการวม 3 คอลเลกชั่นซึ่งผลิตขึ้นในจำนวนจำกัดและมีวางจำหน่ายในท้องตลาด รุ่นนี้ก็ได้กลายเป็นนาฬิกาที่บรรดานักสะสมและผู้ที่ชื่นชอบในเรือนเวลาต่างให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ก่อนที่จะตามมาด้วยปรากฏการณ์ครั้งสำคัญ เมื่อ Sylvester Stallone ได้สั่งทำนาฬิกา Luminor เฉพาะขึ้นเพื่อสวมใส่ในระหว่างถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Daylight ของเขา นั่นยิ่งยกระดับชื่อเสียงและทำให้นาฬิกาซีรีส์ Luminor Slytech ซึ่งตั้งตามชื่อเล่น Sly ของ Stallone กลายเป็นที่รู้จักและโด่งดัง
รุ่นประวัติศาสตร์ของยุค 1960s
Luminor เป็นคอลเลกชั่นที่เติบโตและขยายความหลากหลายของทั้งคุณลักษณะและคุณสมบัติมาอย่างไม่หยุดนิ่ง และยังคงดึงแรงบันดาลใจมาจากบรรดาผลงานสร้างสรรค์รุ่นประวัติศาสตร์ของยุค 1960s ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ปกป้องเม็ดมะยม งานฝีมือการตกแต่งบนส่วนประกอบตัวเรือน เช่นเดียวกับตัวเรือนทรงคุชชั่นที่มาพร้อมกับหูตัวเรือนแบบทึบ นอกจากนี้ Panerai ยังพัฒนาขีดความสามารถของคอลเลกชั่นนี้มาสู่ Luminor Marina อีกหนึ่งไอคอนที่บ่งบอกถึงสไตล์แคชวลและนาฬิกาสปอร์ตสมรรถนะสูงอันสวยงาม แต่ยังคงได้แรงบันดาลใจมาจากนาฬิการุ่นต่าง ๆ ของยุค ’90s และประเพณีการผลิตนาฬิกาสำหรับกองทัพของ Panerai เอง
แตกต่างกันด้วยขนาดตัวเรือน วัสดุ และการตีความงานดีไซน์อันร่วมสมัย ซึ่ง ณ ปัจจุบัน Luminor Marina ประกอบไปด้วยนาฬิการุ่นสัญลักษณ์มากมาย ทั้งที่เป็นนาฬิกากลไกจักรกลไขลานด้วยมือ สำรองพลังงานได้ 3 วัน หรือ 8 วัน รวมถึงกลไกจักรกลสลับซับซ้อนอื่น ๆ อย่างการผสมผสานด้วยจักรกลทูร์บิญงที่จดสิทธิบัตรโดยเมซง หรือการแสดงปฏิทินถาวรในนาฬิการุ่น Perpetual Calendar เช่นเดียวกับ 2 เวอร์ชั่นคลาสสิกสปอร์ตล่าสุดของ Luminor Marina ซึ่งมาพร้อมกลไกจักรกลอัตโนมัติ ผสานเข้ากับงานดีไซน์ที่สืบทอดมาจากรุ่นต้นตำรับและรุ่นขายดีของแบรนด์ โดยนำเสนอทั้งในรุ่น Luminor Marina – 44mm PAM01312 กับตัวเรือนสเตนเลสสตีล 44 มม. และ Luminor Marina Panerai Goldtech™ – 44mm PAM01112 เด่นด้วยตัวเรือนทำจาก Panerai Goldtech™ วัสดุทองที่ได้มาจากการผสมผสานของแพลทินัมและทองแดงซึ่งให้เฉดทองสีแดงเข้มเฉพาะ ทั้งคู่ขับเคลื่อนด้วยกลไกคาลิเบอร์เดียวกันคือ P.9010 ที่สำรองพลังงานได้นาน 3 วัน
Luminor Marina ทั้ง 2 รุ่นนี้ยังคงใช้หน้าปัดโครงสร้างแบบแซนด์วิชและบรรจุด้วยสารเรืองแสง Super-LumiNova® ให้แสงเรืองสีเขียวที่สามารถอ่านค่าและดูเวลาได้อย่างชัดเจนในที่มืด รวมถึงการแสดงวันที่ ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา และแยกแสดงวินาทีบนหน้าปัดเล็ก ณ ตำแหน่ง 9 นาฬิกา มาพร้อมหน้าปัดสีดำแบบด้านสำหรับรุ่น PAM01312 และหน้าปัดสีน้ำเงินตกแต่งแบบ Satiné Soleil สำหรับรุ่น PAM01112 ถือเป็นการพลิกโฉมอีกครั้งของ Luminor แต่ยังคงไว้ด้วยสัมผัสของประวัติศาสตร์ ประเพณี และตำนานการสร้างสรรค์นาฬิกาอันเข้มข้นของ Panerai
