Photograher: Manosit Boonnon
Location: MeStyle Museum Hotel
ถ้าจะให้นิยามความเป็น ‘โม-มนชนก’ ในสามคำ บางทีคนอาจคิดว่าเธอ ‘ขี้วีน’ เพราะน้ำเสียงและหน้าตาที่ดูเฉยชาของเธอ แต่โมเองกลับชี้แจงอย่างตรงไปตรงมาว่า “โมไม่ได้วีนค่ะ” เธอแค่มีเสียงที่คม และใบหน้าที่นิ่งเฉย จนคนเข้าใจผิด แต่ความจริงแล้ว โมเรียนรู้จากประสบการณ์ว่าบางเรื่อง “ช่างมันเถอะ” เพราะไม่ใช่ทุกคนจะเข้าใจเรา หรือสนใจเราเท่าที่เราคิด
โมยอมรับว่าเคยเจอกระแสดราม่าที่ทำให้รู้สึกนอยด์ แต่เธอเลือกจะไม่จมอยู่กับคำวิจารณ์ เพราะสุขภาพจิตสำคัญกว่าใคร “ไม่มีใครรักเราเท่าตัวเองและคนรอบข้าง” ดังนั้น การปกป้องตัวเองและคนที่เรารักจึงเป็นเรื่องที่เธอให้ความสำคัญอย่างมาก

ในวันนี้ โม-มนชนก ไม่ใช่คนเดิมจาก 5 ปีก่อนอีกแล้ว เธอเล่าว่าการอยู่ในช่วงคาบเกี่ยวระหว่างโลกที่ปิดกับโลกที่เปิดทำให้เธอรู้สึกเหมือน ‘อยู่ผิดยุค’ บ้าง แต่ก็ได้เรียนรู้ที่จะปรับตัวและยอมรับตัวเองมากขึ้น จนกลายเป็นโมที่มีความสุขและเป็นตัวเองมากที่สุด
ถ้าพูดถึงเรื่องแฟชั่น โมบอกว่าเธอหันมาชอบสไตล์มินิมัลที่เรียบง่าย และเลือกสิ่งที่ใส่ได้บ่อยๆ และทนทาน เช่น เสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ ที่เธอมักจับคู่กับแอ็กเซสเซอรี่ส์ที่โดดเด่น “มันสะท้อนความเป็นตัวเองที่ไม่ต้องคิดเยอะ แค่ขี้เกียจคิดตอนเช้า” โมหัวเราะอย่างจริงใจ
ชีวิตในวงการบันเทิงสิบกว่าปีที่ผ่านมาทำให้โมโตขึ้นทั้งในแง่การรับผิดชอบและความเข้มแข็ง “วงการให้ชื่อเสียง เงินทอง และโอกาสดีๆ แต่ก็แลกด้วยความเป็นส่วนตัวที่ลดลง และเสียงวิจารณ์ที่ต้องระวังตัวเสมอ”

โมยังเล่าถึงโปรเจ็กต์การแสดงที่ท้าทายที่สุด คือบทบาทในละครเรื่อง คู่เวร และ ทวง ที่ไม่เหมือนใครและทำให้เธอปลดล็อกทั้งสกิลการแสดงและการจัดการจิตใจได้อย่างลึกซึ้ง
เมื่อถูกถามถึงคำว่า ‘เซ็กซี่’ โมนิยามไว้ว่า “คือระบบความคิดและการจัดการตัวเอง เป็นการเป็นตัวเองโดยไม่เบียดเบียนใคร และไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน” นี่คือความเซ็กซี่ที่เธอเชื่อจริง ๆ

สุดท้ายโมฝากถึงแฟนๆ ว่าอยากให้ติดตามผลงานในอนาคต และย้ำว่าในโลกออนไลน์อย่าง TikTok เธอก็ยังเป็นตัวเองที่แท้จริง ที่พร้อมจะเล่าเรื่องราวในมุมมองของตัวเอง ผ่านช่องทาง @momonhappygirl ซึ่งจะทำให้ทุกคนได้รู้จักเธอในแบบที่ลึกซึ้งและใกล้ชิดกว่าเคย

“โม มนชนก คือผู้หญิงที่เรียนรู้ที่จะรักและปกป้องตัวเองในทุกบทบาท ทั้งในชีวิตจริงและบนจอ ที่สำคัญคือเธอทำทั้งหมดด้วยความเรียบง่ายแต่หนักแน่นในตัวตน”
Credit Team:
Makeup: JARATPIM ITTITHANAKORN
Hair:Sittipong Metha
Clothes: SELF PORTRAIT BANGKOK, VICKTEERUT