‘ฟรีน-สโรชา’ เบื้องหลังความสำเร็จที่เต็มไปด้วยความสุขและความตั้งใจที่จะเติบโตในทุกบทบาท

Words: Nawajit Ua-apinansakul

ท่ามกลางสนามแข่งอันดุเดือดของคนล่าฝัน ‘ฟรีน-สโรชา จันทร์กิมฮะ’ ถือเป็นนักแสดงวัยรุ่นอีกหนึ่งคนที่สามารถเบียดขึ้นมายืนติดโผอยู่อันดับต้นๆ ได้ในเวลาอันรวดเร็ว เราเชื่อว่าต่อให้คุณไม่ได้อัปเดตติดตามดูซีรีส์หรือภาพยนตร์ไทย ยังไงก็ต้องเคยเห็นหน้าของฟรีนบนโซเชียลมีเดียผ่านตาอยู่บ้าง ปัจจุบันสามารถพูดได้เต็มปากแล้วว่า ‘ฟรีน สโรชา’ นี่แหละคือนักแสดงสาวที่มาแรงที่สุดคนหนึ่งแห่งยุค 

เริ่มต้นด้วยการเป็นนางเอกมิวสิกวิดีโอเพลง ก่อนฤดูฝน

ย้อนกลับไปตั้งแต่วันแรกที่ก้าวเข้ามาในแสงสปอตไลต์ ฟรีนเริ่มต้นด้วยการเป็นนางเอกมิวสิกวิดีโอเพลง ก่อนฤดูฝน เมื่อราว 7 ปีก่อน และโลดแล่นอยู่บนหน้าจอสื่อเรื่อยมา จนกระทั่งถึงวันที่เธอได้รับโอกาสสำคัญกับซีรีส์เรื่อง ทฤษฎีสีชมพู (GAP The Series) ในบทคุณสาม ซึ่งเป็นผลงานแจ้งเกิดของเธออย่างเป็นทางการในฐานะนักแสดงนำที่ทุกคนต้องจับตามอง

ก้าวแรกของผลงานแนว Girl’s Love ในประเทศไทย

มองเผินๆ เส้นทางอาชีพของฟรีนเหมือนจะโรยไปด้วยกลีบกุหลาบ แต่ถ้ามองย้อนกลับไปดูแต่ละย่างก้าว ‘ความท้าทาย’ คงเป็นคำที่ผุดขึ้นมาอย่างเด่นชัดและเป็นสิ่งที่เธอต้องเผชิญอยู่ตลอด เพราะการแจ้งเกิดของฟรีนนั้นมาพร้อมกับก้าวแรกของผลงานแนว Girl’s Love ในประเทศไทย ซึ่งแม้ว่าความหลากหลายทางเพศจะเป็นสิ่งที่คนไทยให้การยอมรับ แต่เป็นความจริงเช่นกันที่ว่า ในช่วงเวลาก่อนหน้านี้ การเป็นผู้ฉายภาพคนกลุ่มเควียร์หรือหญิงรักหญิงให้เด่นชัดบนสื่อไทยก็ไม่ใช่สิ่งที่นิยมอย่างแพร่หลาย และดีไม่ดีอาจได้กระแสตีกลับเชิงลบไปด้วยเหตุผลต่างๆ นานาอีก

อีกก้าวสำคัญในสองผลงานใหญ่ ‘ปิ่นภักดิ์‘ และ ‘URANUS2324‘

และถึงแม้ซีรีส์จะโด่งดังเป็นพลุแตกจนทำให้จำนวนแฟนคลับเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ ก็ไม่ได้เป็นเครื่องการันตีความสำเร็จของผลงานถัดไป เธอยังคงท้าทายตนเองขึ้นไปอีกขั้นในปี 2024 ด้วยสองผลงานใหญ่อย่างซีรีส์พีเรียดเรื่อง ปิ่นภักดิ์ และภาพยนตร์แนวอวกาศเรื่อง URANUS2324 ซึ่งเป็นการพลิกบทบาทครั้งใหญ่ที่ฟรีนต้องเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ มากมายแบบไม่มีคำว่าเพลย์เซฟ เพราะฉะนั้นมันคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะถ่ายทำผลงานที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญทั้งเรื่องภาษาและการแสดงออกที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้วไปพร้อมๆ กัน 

ความพยายามในวันนั้นสู่ความสำเร็จในวันนี้

อย่างไรก็ตาม แรงเสียดทานจากความท้าทายนั้นไม่ได้ทำให้ฟรีนต้องหยุดนิ่งไป เพราะเธอได้พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่าความตั้งใจที่มีนั้นคู่ควรกับการได้รับพลังความรักจากแฟนคลับทั่วโลก ซึ่งเป็นสิ่งเดียวกับคีย์สำคัญที่นำพาให้เธอก้าวขึ้นมาเป็นทั้งนักแสดงสาวเจ้าของปรากฏการณ์ความคลั่งไคล้ของเหล่าแฟนๆ จำนวนมหาศาล เป็นแฟชั่นไอคอนที่ได้ร่วมงานกับแบรนด์ระดับโกลบอล และเป็นผู้สร้างมูลค่าสื่อในหลักร้อยล้านบาทบนเวทีโลกอย่างเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ 2024 พ่วงมากับการได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 6 ของ Woman in Cinema ที่ร่วมพูดคุยเกี่ยวกับบทบาทของผู้หญิงในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ใน Variety’s Global Conversations Panel ซึ่งเป็นพื้นที่ทรงเกียรติที่นักแสดงหญิงทั่วโลกใฝ่ฝัน

เบื้องหลังความสำเร็จของเธอ

ไม่ใช่แค่ภาพการประสบความสำเร็จในฉากหน้าที่ทำให้ทุกคนต้องภูมิใจ แต่ตัวตนเบื้องหลังของเธอก็น่าชื่นชมไม่แพ้กัน ฟรีนมักจะกล่าวเสมอว่าเธอรู้สึกถึงความสำเร็จและความสุขในทุกๆ วัน ถึงจะไม่ใช่เมสเสจสวยหรูใหญ่โตอะไรนัก แต่ข้อความธรรมดาที่เต็มไปด้วยความจริงใจนี้เป็นสิ่งสะท้อนทัศนคติของเธอได้เป็นอย่างดีว่า ไม่ว่าจะอยู่ในบทบาทไหน เธอก็พร้อมจะสนุกไปกับช่วงเวลาเหล่านั้น และเช่นเดียวกันกับตัวเธอที่เอ่ยคำนี้ออกมา ในฟากฝั่งของแฟนคลับเองที่คอยเป็นทั้งเบาะรองรับและแรงผลักดันก็คงรับรู้ได้ผ่านใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของฟรีนอยู่เสมอ

สุดท้ายแล้วใครๆ ต่างก็รู้ว่าเส้นทางสายนี้อาจไม่ได้มีสิ่งตอบแทนเป็นเพียงแค่ชื่อเสียง แต่เธอยังเดินหน้าต่อไปด้วยใจมุ่งมั่นและพร้อมรับความท้าทายที่โถมเข้ามาทุกรูปแบบ แอลเมนเชื่อเหลือเกินว่าฟรีนจะเป็นหนึ่งในผู้พาวงการซีรีส์และภาพยนตร์ไทยให้ทะยานสู่สายตาคนทั่วโลกได้อย่างน่าทึ่งแน่นอน