Words: จอน
นาทีนี้ คงไม่มีใครไม่รู้จัก ‘วิว’ กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักแบดมินตันหนุ่ม วัย 23 ปี ทีมชาติไทย ที่สร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญรางวัลแรกให้กับวงการแบดมินตันไทยในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ได้สำเร็จ
โดย ‘วิว’ จบการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2024 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ด้วยการคว้าเหรียญเงินมาครองได้สำเร็จ
แม้จะแพ้ วิคเตอร์ อเซลเซ่น นักแบดมินตัน ดีกรีแชมป์โลก 2 สมัย จากประเทศเดนมาร์ก ในรอบชิงชนะเลิศ แต่ก็เรียกได้ว่า “ชนะใจคนไทยทั้งประเทศ” เลยทีเดียว จากผลงานในโอลิมปิก เกมส์ ครั้งแรกในชีวิตของเขา
เด็กหนุ่มโรคภูมิแพ้สู่คอร์ทแบดเพื่อชัยชนะ
กุลวุฒิ วิทิตศานต์ เกิดเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2544 ภายใต้ครอบครัวที่มีคุณพ่อคุณแม่ ณัฐวัชร์ และนัฎกนก วิทิตศานต์ ดูแลเป็นอย่างดี
โดยในสมัยเด็ก วิว-กุลวุฒิ เป็นหนุ่มน้อยรูปร่างเจ้าเนื้อ และมีภาวะของการเป็นโรคภูมิแพ้ ซึ่งนั่นก็ทำให้ คุณพ่อณัฐวัชร์ ที่เป็นโค้ชกีฬาแบดมินตัน ตัดสินใจสอนลูกชายคนนี้ให้เล่นกีฬาแบดมินตัน เพื่อส่งเสริมให้ลูกรักในการเล่นกีฬา และรักษาสุขภาพ
จนกระทั่งวันหนึ่งวิวก็สามารถเอาชนะ ‘โรคภูมิแพ้’ ได้สำเร็จ และมีรางวัลติดตัวมาด้วย นั่นก็คือ ฝีมือการตีแบดที่รุดหน้าของเขา และแพสชั่นแห่งชัยชนะที่ไม่อยากแพ้ใครบนคอร์ทแบดมินตัน เหมือนที่เขาเคยไม่ยอมแพ้ต่อโรคประจำตัว
สู่อ้อมกอดของ ‘บ้านทองหยอด’
จากนั้นวิวก็เริ่มฝึกฝนแบดมินตันอย่างจริงจัง และเริ่มประสบความสำเร็จ ในระดับเยาวชนตั้งแต่อายุ 9 ปี จนกระท่ังวันหนึ่ง คุณพ่อของวิว ก็ได้พบกับ โค้ชสุดเขต ประภากมล อดีตนักแบดมินตัน ทีมชาติไทย ที่สนิทสนมกับ ‘โค้ชเป้’ ภัททพล เงินศรีสุข ผู้บริหารโรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด ซึ่งทั้งคู่เคยติดทีมชาติไทย และไปร่วมแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2004 ด้วยกัน ในฐานะประเภทชายคู่
‘โค้ชเต่า’ สุดเขต รู้สึกได้ถึงพรสวรรค์ และการเล่นที่เฉียบคมของ ‘วิว’ ในวัยประมาณ 10 ขวบ จึงโทรปรึกษากับ ‘โค้ชเป้’ ทันทีว่า มีเด็กคนนึงที่มีแวว และอยากแนะนำให้ไปอยู่กับโรงเรียนบ้านทองหยอด ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูง ในการปั้น ‘เมย์’ รัชนก อินทนนท์ จนกลายเป็นนักแบดมินตัน หญิงเดี่ยว ดีกรีแชมป์โลก ที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์มาแล้ว
จากนั้นในวัย 12 ปี หลังจากที่ทุกอย่างลงตัว วิว-กุลวุฒิ ก็ได้เข้ามาเป็นครอบครัวเดียวกับ ‘บ้านทองหยอด’ โดยมีคุณแม่ปุก กมลา ทองกร ผู้ก่อตั้งโรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด คอยดูแลซัพพอร์ตวิวเป็นอย่างดี
และนั่นคือ จุดเริ่มต้นของ ‘หนุ่มน้อยมหัศจรรย์’
แชมป์โลกเยาวชน 3 สมัยติดต่อกัน เทียบรัศมีไอดอล ‘เมย์’ รัชนก
วิว-กุลวุฒิ ถูกฟูมฟักอย่างดี ทั้งเรื่องของโภชนาการ, วิทยาศาสตร์การกีฬา, การโค้ชชิ่ง, การดูแลร่างกายทุกรูปแบบจากโรงเรียนบ้านทองหยอด และก็ฉายแววเก่งทันที
เส้นทางแบดมินตันของวิวเต็มไปด้วยความสำเร็จ โดยเขาคว้าแชมป์เยาวชนทุกรุ่น ในประเทศไทย และในรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี เขาได้แชมป์ตั้งแต่อายุ 16 ปี เรียกได้ว่า ในระดับเยาวชน ไม่มีใครเก่งกว่าเขาอีกแล้วในประเทศไทย
และไม่เพียงเช่นนั้น ในปี 2017 ในวัย 16 ปี วิวคว้าแชมป์แบดมินตันเยาวชนชิงแชมป์โลก ประเภทชายเดี่ยว ได้เป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย และคว้าแชมป์ได้อีก 2 สมัยติดต่อกัน ในปี 2018 และ 2019
นั่นก็ทำให้ วิว-กุลวุฒิ คว้าแชมป์โลกเยาวชนได้ 3 สมัยติดต่อกัน เหมือนที่ เมย์-รัชนก อินทนนท์ ไอดอลของเขา เคยทำได้ และนอกจากนี้ ในปี 2019 หนุ่มวิวยังคว้าแชมป์เยาวชนของทวีปเอเชีย ได้ตั้งแต่อายุ 18 ปีอีกด้วย ซึ่งนั่นก็ทำให้ประตูสู่วงการแบดมินตันอาชีพโลก ก็เปิดให้ วิว-กุลวุฒิ ก้าวเข้าไปท้าทาย
จากความผิดหวัง สู่ความสมหวัง ‘แชมป์โลกชายเดี่ยว’ คนแรกของไทย
ในช่วงแรกของการเล่นแบดมินตันอาชีพ วิว-กุลวุฒิ เจอความผิดหวังนับไม่ถ้วน โดยในปี 2020 และ 2021 วิวเข้าชิงชนะเลิศ รายการระดับ เวิลด์ ทัวร์ 3 รายการ แต่จบด้วยการเป็นรองแชมป์ทั้งหมด
และที่สำคัญที่สุด เขาทะลุมาถึงรอบชิงชนะเลิศ แบดมินตัน ชิงแชมป์โลก ประเภทชายเดี่ยว ได้ในปี 2022 ก่อนจะแพ้ วิคเตอร์ อเซลเซ่น มือ 1 ของโลก จากเดนมาร์ก 0-2 เกม
แต่ความพ่ายแพ้ทุกครั้ง ทำให้ วิวแข็งแกร่งขึ้นเขาไม่ได้กลัวความพ่ายแพ้ และพยายามที่จะเอาชนะให้ได้ เหมือนกับที่เขาเคยชนะ ‘โรคภูมิแพ้’ ในวัยเด็ก
เขาฝึกฝนหนักขึ้นๆ ดูแลร่างกายตัวเองอย่างเต็มที่ ก่อนที่จะสร้างประวัติศาสตร์ได้สำเร็จ ในปี 2023 ด้วยการเป็นนักแบดมินตัน ประเภทชายเดี่ยว คนไทยคนแรกที่คว้าแชมป์โลกได้สำเร็จ หลังเอาชนะ โคได นาราโอกะ มืออันดับ 4 ของโลกจากประเทศญี่ปุ่น 2-1 เกม ในการแข่งขันแบดมินตันชิงแชมป์โลก 2023 ที่ประเทศเดนมาร์ก
นับเป็นแชมป์โลกแบดมินตันชาวไทย รายการที่ 3 ต่อจาก รัชนก อินทนนท์ (หญิงเดี่ยว, ปี 2013) และ เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย (คู่ผสม, ปี 2021) และ ‘ดีกรีแชมป์โลก’ ก็เป็นอีกหนึ่งรายการที่วิวสามารถทาบรัศมีไอดอลอย่าง เมย์-รัชนก ได้
จากแชมป์โลก สู่นักกีฬาแบดไทยคนแรกบนโพเดียมโอลิมปิก
ให้หลังจากการเป็นแชมป์โลกประมาณ 1 ปี วิว-กุลวุฒิ ในฐานะนักแบดมินตัน ชายเดี่ยว มืออันดับ 8 ของโลก ก็เดินทางเข้าสู่สมรภูมิกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมวลมนุษยชาติอย่าง โอลิมปิกเกมส์ 2024 ซึ่งตั้งแต่อดีตที่ผ่านมา ไม่เคยมีนักกีฬาแบดมินตัน ทีมชาติไทย คนไหน ที่สามารถคว้าเหรียญรางวัลในโอลิมปิกเกมส์ได้เลย
วิวขึ้นเครื่องไปปารีส พร้อมไม้แบดคู่ใจ และความฝันก้อนใหญ่ อะไรที่ไม่เคยเป็นไปได้ สำหรับคนไทย เขาทำให้เห็นแล้ว ว่ามันเป็นไปได้ ทั้งแชมป์โลกเยาวชนสามสมัยติด และแชมป์โลกชายเดี่ยวคนแรก
และอย่างที่ทราบกัน วิว-กุลวุฒิ ได้สร้างประวัติศาสตร์อีกครั้ง ให้กับวงการแบดมินตัน ทีมชาติไทย เมื่อเป็นนักกีฬาคนแรกที่คว้าเหรียญรางวัลในโอลิมปิกเกมส์ โดยคว้าเหรียญเงินการแข่งขันแบดมินตัน ชายเดี่ยว โอลิมปิกเกมส์ 2024 ได้ในวัย 23 ปี ซึ่งในเส้นทางสู่โพเดียม เขาสามารถล้มเต็งแชมป์อย่าง ฉือ หยู่ฉี นักแบดมินตัน ดีกรีมือ 1 ของโลก จากประเทศจีน ได้อีกด้วย
และนี่คือ วิว-กุลวุฒิ วิทิตศานต์ จากเด็กหนุ่มโรคภูมิแพ้ สู่เหรียญประวัติศาสตร์ของวงการแบดมินตันไทยในโอลิมปิก เกมส์