พูดคุย Will Hyde: บทสนทนาว่าด้วยดนตรี ความรู้สึก และการตามหาสันติในตัวเอง

ไม่ต้องมีเครื่องดนตรีหรูหรา ไม่ต้องมีทฤษฎีเพลงแน่นปึ้ก Will Hyde เริ่มต้นจากการคลิกเมาส์ สร้างบีตในคอมพิวเตอร์ และใช้หัวใจของเขาบรรจุอารมณ์ไว้ในเสียงเพลง ความจริงใจนั้นชัดเจนในทุกซิงเกิลที่เขาแต่ง และซิงเกิลล่าสุด “dream. (좋은분위기)” ที่ร่วมงานกับ YENTED และ MRCH ก็เป็นอีกก้าวสำคัญที่ทำให้ชื่อของ Will ดังไกลในเอเชีย โดยเฉพาะประเทศไทย

“ผมไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะเป็นนักดนตรีแบบ ‘จริงจัง’ จนกระทั่งเพลงแรกที่ทำกับกลุ่ม SŸDE เริ่มเป็นที่รู้จัก ตอนนั้นผมแค่ลองหาเสียงร้องมาลงโปรเจกต์ จนได้ Ashe มาร่วมงาน แล้วเพลงต่อมาก็คือ ‘above the clouds’ ที่เริ่มพาเราขึ้นไปเหนือเมฆจริง ๆ”

แม้จะไม่ถนัดเรื่องทฤษฎีดนตรี แต่สิ่งที่ Will มีเหนือใครคือความสามารถในการถ่ายทอดความรู้สึกซับซ้อนผ่านเมโลดี้ที่เรียบง่ายแต่กินใจ

“ผมโตมากับการใส่ใจในอารมณ์ของตัวเอง แม้จะไม่รู้วิธีรับมือเสมอไป แต่ผมเชื่อว่าการพูดถึงความรู้สึก—แม้จะเศร้าหรืออ่อนไหว—มันสำคัญ เพลงหนึ่งเพลงสามารถช่วยชีวิตคนไว้ได้ ผมแค่พยายามเขียนให้ซื่อสัตย์ที่สุด แล้วหวังว่ามันจะไปถึงคนที่รู้สึกเหมือนกัน”

“dream.” ที่เริ่มต้นจากเทศกาลดนตรีในเกาหลีใต้

แรงบันดาลใจของเพลงล่าสุดมาจากการแสดงในเทศกาล Have A Nice Trip ที่เกาหลีใต้ ซึ่ง Will บอกว่าทำให้เขาตระหนักอีกครั้งว่าดนตรีไม่มีพรมแดนของภาษา

“ผมอยากเขียนเพลงที่คนฟังแล้วมีความสุข เพลงที่พูดได้หลายภาษาเพราะดนตรีมีพลังเข้าถึงคนทุกชาติ ผมทำบีตไว้แล้วส่งไปให้ YENTED แต่เขาอ่านแล้วไม่ตอบเลยตอนแรก ผมนี่คิดเลยว่าเขาคงไม่โอเคกับเพลงแน่ ๆ ฮ่า ๆ แต่สุดท้ายเขาก็ตอบกลับมาว่าชอบมาก และเขียนท่อนของตัวเองส่งมาให้ ซึ่งมันเติมเต็มเพลงได้ดีมาก”

MRCH ศิลปินหญิงจากเกาหลีใต้ก็เป็นอีกคนที่มาร่วมสร้างมู้ดอบอุ่นในเพลงนี้

“MRCH เป็นคนที่ตั้งใจและมีพลังมาก ผมรู้จักเธอผ่านเพื่อนชื่อ Euncha เราคุยกันเรื่องคำว่า ‘좋은 분위기’ ที่แปลว่า ‘vibe ดี ๆ’ จนผมตัดสินใจใส่ประโยคนี้ลงในเพลงก่อนส่งให้เธอฟัง และเธอก็ชอบมาก” จาก “misfit” ถึงอัลบั้มใหม่ time to love, time to heal.

ถ้าคุณเพิ่งรู้จัก Will Hyde เขาแนะนำให้เริ่มฟังจาก “dream.” และ “misfit.” สองเพลงที่สะท้อนตัวตนของเขาชัดเจนหนึ่งคือความหวัง อีกหนึ่งคือการค้นหาความหมายในความรู้สึกผิดที่ไม่เข้ากับใคร อัลบั้มเต็มที่จะปล่อยในวันที่ 16 พฤษภาคมนี้ “time to love, time to heal.” คือบันทึกของความรักและการเยียวยา—ความหวานของความสัมพันธ์และความเศร้าเมื่อมันจบลง “ผมอยากให้คนฟังรู้ว่ามันไม่ผิดที่จะรู้สึกหลายอย่างในเวลาเดียวกัน คุณอาจจะยังรักเขา แต่อาจถึงเวลาต้องปล่อยมือ ความรู้สึกไม่ใช่สิ่งที่เป็นเส้นตรง และนั่นแหละคือสิ่งที่ผมอยากจะเล่าในอัลบั้มนี้”

บันทึกของการเติบโตทั้งในชีวิตและเสียงร้อง

จากโปรดิวเซอร์ที่หลงใหลในเสียงของ Zayn, Sasha Sloan และ Jeremy Zucker ซึ่ง Will ใช้การฝึกฝนและการฟังเป็นพื้นฐานของสไตล์การร้องที่มีเอกลักษณ์

“ผมฝึกวอร์มเสียงทุกวัน ใช้เครื่องพ่นไอน้ำช่วยบรรเทาเสียงเวลาร้องเยอะ แล้วก็เรียนรู้จากศิลปินที่ผมชอบ ฟังว่าเขาเลือกเมโลดี้ยังไง ร้องยังไง แล้วค่อยหาทางเป็นตัวของตัวเอง”

แม้วันนี้เขาจะย้ายไปใช้ชีวิตที่สหรัฐฯ แต่ประสบการณ์ในออสเตรเลียยังคงเป็นรากฐานสำคัญ

“ที่ออสเตรเลียผมได้เจอ K-Pop เป็นครั้งแรก ได้ฟังดนตรีจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และนั่นทำให้ผมเปิดใจมากขึ้นกับการทำงานกับศิลปินในภูมิภาคนี้ ผมรู้สึกขอบคุณจริง ๆ ที่มันกลายเป็นส่วนสำคัญของเส้นทางดนตรีผม”

เสียงจากหัวใจถึงแฟน ๆ ชาวไทย

“ผมอยากบอกว่า สวัสดีครับ! ผมชื่อ Will Hyde ยินดีที่ได้รู้จักครับ! ขอบคุณที่ให้การสนับสนุนเพลง ‘dream.’ ผมดีใจมากที่ได้ร่วมงานกับ YENTED และ MRCH อยากให้ทุกคนลองฟังเพลงใหม่ ‘eyes off u.’ ด้วยนะครับ ผมหวังว่าจะได้มาเล่นคอนเสิร์ตในไทยเร็ว ๆ นี้ ฝากทักผมในอินสตาแกรม @iamwillhyde ด้วยนะครับ!”

Will Hyde ในคำเดียว

เมื่อให้เขานิยามตัวเองด้วยคำเพียงคำเดียว เขาตอบว่า…

“Peaceful.”

“ตอนนี้ผมเรียนรู้ที่จะปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามทางของมัน ไม่พยายามควบคุมทุกอย่างเหมือนเมื่อก่อน ผมรู้สึกสงบกับสิ่งที่เป็นอยู่ และนั่นคือของขวัญที่ผมให้ตัวเองในวันนี้”