Photographer: Pathomporn Phueakphud
จากจุดเริ่มต้นของกลุ่มเพื่อนที่รวมตัวกันเพื่อทำเพลงในแบบที่พวกเขารัก วันนี้ Tilly Birds กลายเป็นหนึ่งในวงดนตรีที่มีเอกลักษณ์และสร้างอิทธิพลในวงการเพลงไทย ประกอบไปด้วย เติร์ด-อนุโรจน์ เกตุเลขา, บิลลี่-ณัฐดนัย ชูชาติ, ไมโล-ธุวานนท์ ตันติวัฒนวรกุล พวกเขาถ่ายทอดบทเพลงที่เต็มไปด้วยอารมณ์และเรื่องราวที่เข้าถึงหัวใจผู้ฟัง ไม่ว่าจะเป็นความรัก ความเจ็บปวด หรือการก้าวข้ามช่วงเวลาที่ยากลำบาก
นับตั้งแต่อัลบั้มแรก ‘ผู้เดียว’ จนถึงปัจจุบัน พวกเขาไม่เคยหยุดพัฒนา ทั้งในแง่ดนตรี เนื้อหา และการนำเสนอ ล่าสุดพวกเขาได้ร่วมงานกับ POLYCAT ในเพลง ‘ล้มแชมป์ (Only You Can)’ ซึ่งเป็นการผสมผสานซาวนด์ของทั้งสองวงได้อย่างลงตัว
ในการสัมภาษณ์ครั้งนี้ เราจะมาพูดคุยกับ Tilly Birds ถึงเส้นทางดนตรีของพวกเขา แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงาน จุดเปลี่ยนสำคัญของวง และโปรเจกต์ใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น!
จุดเริ่มต้นของวง Tilly Birds
Tilly Birds: สวัสดีครับ! วง Tilly Birds เริ่มมาจากกลุ่มเพื่อนที่รักในการเล่นดนตรีครับ เราคุยกันว่าต้องการทำเพลงในแบบที่เราชอบ ไม่จำเป็นต้องตามกระแสหรือกรอบของอะไร ก็เลยเริ่มทำเพลงที่สะท้อนความรู้สึกของเราเอง แล้วก็เริ่มปล่อยเพลงให้คนฟังผ่านทางออนไลน์ จนกระทั่งคนเริ่มสนใจมากขึ้น
ผลงานตั้งแต่อัลบั้มแรก ‘ผู้เดียว’ จนถึงปัจจุบันมีความเหมือนหรือต่างกันยังไงบ้าง?
Tilly Birds: สำหรับเราความแตกต่างมันมีนะครับ ถ้าเทียบกับตอนทำ ‘ผู้เดียว’ อัลบั้มแรก มันจะเน้นไปที่ความเหงาและความสับสนในชีวิตเยอะ แต่พอมาถึงตอนนี้ เรามีความโตขึ้นในหลายด้าน ทั้งด้านดนตรีและเนื้อหาของเพลงครับ เรายังทำเพลงที่สะท้อนความรู้สึก แต่เราเริ่มเข้าใจและตีความความรู้สึกต่างๆ ได้ลึกซึ้งขึ้น เหมือนเป็นการเจออะไรใหม่ๆ ในชีวิตตลอดเวลา
มีจุดเปลี่ยนสำคัญในวงไหม?
Tilly Birds: จุดเปลี่ยนสำคัญคงเป็นตอนที่เราเริ่มมีแฟนๆ มากขึ้นในประเทศและต่างประเทศครับ ตอนแรกเราแค่ทำเพลงในวงเล็กๆ ตอนนี้เราได้ไปเล่นในคอนเสิร์ตใหญ่ๆ และมีโอกาสพบเจอกับศิลปินต่างประเทศมากมาย มันทำให้เราเห็นการเติบโตในด้านต่างๆ ทั้งในเชิงการแสดงและการพัฒนางานดนตรีครับ
พูดถึงเพลง ‘Retro-39’ หน่อยครับ เพลงนี้เกี่ยวกับอะไร?
Tilly Birds: เพลง ‘Retro-39’ เป็นเพลงที่เราอยากย้อนกลับไปในช่วงเวลาที่เราคิดว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของชีวิตครับ ทุกคนเคยมีช่วงเวลาหนึ่งในชีวิตที่รู้สึกดีสุดๆ เราก็เลยอยากจะทำเพลงที่สะท้อนถึงช่วงเวลานั้น ที่ทุกอย่างมันดูเป็นไปได้ดี เพลงนี้ไม่ซับซ้อนมากนะครับ แต่เราพยายามให้มันเรียบง่ายและตรงไปตรงมาที่สุด
เรื่องราวในเพลงนี้ได้แรงบันดาลใจจากที่ไหน?
Tilly Birds: แรงบันดาลใจหลักๆ มาจากความทรงจำของเรานะครับ ทุกคนมีช่วงเวลาที่อยากย้อนกลับไปตอนที่ยังรู้สึกว่าสิ่งต่างๆ เป็นไปอย่างสวยงาม คงจะมาจากประสบการณ์ของพวกเราเองด้วย ทั้งเรื่องรัก ความฝัน หรือแม้แต่การเติบโตในชีวิตที่ต้องผ่านมาหลายๆ สถานการณ์
ความพิเศษ หรือจุดเด่นของเพลงนี้คืออะไร?
Tilly Birds: จุดเด่นของเพลงนี้คือการนำเอาแนวดนตรีเก่าๆ มาผสมกับความทันสมัยครับ เราพยายามให้เพลงมีทั้งความรู้สึกที่อบอุ่นและทันสมัยในเวลาเดียวกัน ฟังแล้วทำให้รู้สึกเหมือนย้อนกลับไปในช่วงเวลาที่เรารู้สึกดีครับ มันเป็นการทดลองอะไรใหม่ๆ ที่เราอยากให้แฟนๆ ได้ฟัง
การทำงานร่วมกันในเพลง ล้มแชมป์ (Only You Can) เป็นอย่างไรบ้าง?
Tilly Birds: พวกเราติดตาม POLYCAT มานานแล้ว จนพี่นะทักมาชวนทำเพลงด้วยกันเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ดีใจมากที่ได้ร่วมงานกัน แต่เพราะตารางงานแน่น เลยใช้เวลานานกว่าจะปล่อยออกมา เพลงนี้เริ่มจากเดโม่ของพี่นะ แล้วเรามาร่วมกันแต่งเนื้อร้องและทำนอง ทำให้มีตัวตนของทั้งสองวงอยู่ในเพลงนี้อย่างชัดเจน
การใส่ท่อนแรปของไมโล และเสียงพากย์ของพี่เพียว POLYCAT ช่วยเติมสีสันให้เพลงนี้อย่างไร?
Tilly Birds: ไมโลเป็นมือกลอง แต่เขามีสไตล์แรปที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเพิ่มพลังให้เพลง ส่วนเพียวมีเสียงพูดที่ฟังแล้วรู้เลยว่าเป็นเขา พอใส่เข้ามาทำให้เพลงมีเสน่ห์เฉพาะตัวมากขึ้น
ฝากอะไรถึงคนที่ยัง Move On จากรักเก่าไม่ได้บ้าง?
Tilly Birds: เราเข้าใจว่าการ Move On ไม่ง่าย แต่สิ่งสำคัญคือให้เวลากับตัวเอง ค่อย ๆ เปิดใจ แล้ววันหนึ่งคุณจะได้เจอใครสักคนที่ทำให้รู้สึกว่า ‘ครั้งนี้แหละใช่’ หวังว่าเพลงของเราจะช่วยให้ทุกคนก้าวผ่านไปได้ครับ
ช่วงนี้ติดตามใครเป็นพิเศษ หรือกำลังอินกับงานแนวไหนบ้าง?
Tilly Birds: ช่วงนี้เราชอบฟังเพลงจากศิลปินหลากหลายแนวครับ ไม่ว่าจะเป็นแนวดนตรีอินดี้ต่างประเทศ หรือแม้แต่เพลงไทยที่มีความหลากหลาย ตอนนี้เราอาจจะได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปินที่ทำเพลงแนวทดลองหรือเล่าเรื่องราวในมุมที่แตกต่างออกไปครับ มันช่วยให้เราได้คิดอะไรใหม่ๆ
โปรเจ็คต์ถัดไปของวง Tilly Birds คาดว่าจะเป็นอะไรครับ?
Tilly Birds: เรากำลังวางแผนโปรเจ็คต์ใหม่ๆ ครับ มันจะรวมไปถึงเพลงใหม่ๆ ที่เรากำลังทำอยู่ในตอนนี้ และอาจจะเป็นคอนเสิร์ตใหญ่ที่แฟนๆ จะได้สัมผัสการแสดงในรูปแบบใหม่ๆ พวกเรากำลังทำงานอย่างหนักเพื่อให้แฟนๆ ได้เห็นความพิเศษในทุกๆ การแสดงและผลงานครับ