Photographer: Pathomporn Phueakphud
แม้จะผ่านพ้นยุค 2000 มานานกว่า 20 ปี แต่ความดิบ ความง่าย และความเป็นธรรมชาติของซาวด์ในยุคนั้นยังคงวนเวียนกลับมาสร้างแรงบันดาลใจให้กับศิลปินยุคใหม่ รวมถึงวงดนตรีที่รู้จักหัวใจคนฟังอย่าง Three Man Down อันประกอบด้วย กิต-กฤตย์ จีรพัฒนานุวงศ์ (ร้องนำ), ตูน-พีรพล เอี่ยมจำรัส (กีต้าร์), เต-เตธนันท์ วงศ์ปรีชาโชค (กลอง) และ เส็ง-วิศรุต ปฐมสิริไพศาล (คีย์บอร์ด)
“เสน่ห์ของยุคนั้นคือความง่ายที่คิดมาแล้ว” ตูน มือกีตาร์และโปรดิวเซอร์ของวงพูดถึงกลิ่นอาย Y2K ที่ยังชัดเจนใน “รักใครไม่ไหว” ต่อเนื่องจากซิงเกิลก่อนหน้าอย่าง “ขอโทษที่ติดต่อไป” เพลงที่ซาวด์อัดกันตรง ๆ กลองไม่แต่งมาก กีตาร์เล่นสด แล้วอัดหน้าตู้แอมป์ ทั้งหมดนี้คือความ “ตั้งใจให้เหมือนไม่ได้ตั้งใจ” ที่ในยุคนี้กลับกลายเป็นสิ่งทำยากกว่าที่คิด
“มันฟังง่าย แต่ทำยาก… เพราะเราต้องทำให้น้อยที่สุด แล้วมันต้องลงตัวที่สุด” – ตูน, Three Man Down
ในเชิงเนื้อหา เพลง “รักใครไม่ไหว” ชื่อก็บอกอยู่แล้วถึงภาวะของคนที่ยังไม่สามารถเริ่มต้นรักครั้งใหม่ได้ง่าย ๆ ซึ่งพอถามว่ามาจากประสบการณ์ใครในวงหรือไม่ สมาชิกหัวเราะก่อนตอบอย่างจริงใจว่า “เราทุกคนมีแฟนเก่า” แต่ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็ย้ำว่า บางครั้งศิลปะไม่ได้เกิดจากชีวิตจริงเสมอไป
“มันเหมือนกับผู้สร้าง Spider-Man เขาก็ไม่ได้โดนแมงมุมกัดจริง ๆ ใช่ไหมครับ” – กิต, นักร้องนำ
การเล่าเรื่องในเพลงจึงเป็นการจับ ‘feeling’ เป็นหลัก ความรู้สึกบางอย่างที่เกิดจากการเก็บข้อมูลรอบตัว บวกกับการจินตนาการ สร้างเป็นโลกที่คนฟังสามารถ ‘relate’ ได้ไม่ต่างจากงานหนังหรืองานศิลปะอื่น ๆ
ด้านดนตรี “รักใครไม่ไหว” เริ่มจากการเป็นเพลงกีตาร์โปร่งแบบช้า ๆ ก่อนจะขยับขึ้นมาเป็นซอฟต์ร็อก โดยใช้เทคนิคที่นิยมในยุค 2000 เช่นการร้องช้าแต่ใช้กลองคูณสองจังหวะ เพื่อให้ฟังแล้วรู้สึก ‘เหนื่อย’ อัดแน่นอารมณ์แต่ไม่ต้องเร่งสปีด
“เพลงนี้เล่นแล้วเหนื่อยมาก ทั้งที่มันไม่ได้เร็ว… มันเหมือนต้องพ่นอารมณ์ออกมา” – เต, มือกลอง
เพลงนี้ยังมีการผสานเสียงอีโม ความร็อก และความเศร้าในแบบที่ยัง ‘กลั้นอยู่’ มากกว่าจะระเบิดออกมาเต็ม ๆ นี่อาจเป็นสิ่งที่ทำให้คนฟังรู้สึกว่ามัน “อึดอัดแต่ลึก” ซึ่งเข้ากับเนื้อหาและชื่อเพลงได้อย่างพอดิบพอดี
ด้านมิวสิกวิดีโอ “รักใครไม่ไหว” ก็ชวนให้แฟน ๆ ตั้งคำถามในแบบ “what if” ผ่านโลกมัลติเวิร์สที่ Three Man Down ยังเป็นวงเล็ก ๆ พร้อม twist เล็ก ๆ อย่างการเปลี่ยนมือเบสเป็นผู้หญิง หรือคาแร็กเตอร์ของสมาชิกที่สลับบทบาทกันไป
“ถ้าเป็นอีกจักรวาลหนึ่ง เราอาจยังไม่ดัง แต่สิ่งบางอย่างในชีวิตก็ยังเหมือนเดิม” – เส็ง, มือคีย์บอร์ด
สมาชิกของวงมีส่วนร่วมในการคิด MV ทุกตัว โดยเฉพาะกับผู้กำกับเพื่อนสนิทอย่าง ‘ตุล’ (ผู้กำกับเอ็มวี) ที่เข้าใจวงดีพอจะสร้างจักรวาลคู่ขนานแบบมีความหมาย ซึ่งไม่จำเป็นต้องอธิบายตรง ๆ แต่คนดูจะรู้สึกได้จากรายละเอียดเล็ก ๆ และคาแร็กเตอร์ที่ยัง “เป็นตัวเอง” ในอีกบริบทหนึ่ง
สำหรับฉากทะเลาะกันในวงใน MV แม้จะเป็นแอ็กชันเบา ๆ แต่ก็จริงจังพอสมควร “มันไม่มีเวิร์กช็อปอะไรเลยนะครับ ใช้เวลาถ่ายไม่ถึงสิบห้านาที” สมาชิกเล่าพลางหัวเราะ — แต่นั่นแหละคือเสน่ห์ของวงนี้: จริงใจ ไม่ประดิษฐ์ และเข้าใจว่าสิ่งสำคัญไม่ใช่แค่การ ‘เล่า’ แต่เป็นการ ‘ส่งความรู้สึก’ ออกไปให้ถึงคนฟังจริง ๆ
Three Man Down ในปี 2025
แม้ “รักใครไม่ไหว” จะเป็นเพลงที่ค่อนข้างหม่น แต่สิ่งที่ชัดเจนมากคือ Three Man Down ไม่ได้หยุดอยู่แค่การปลอบใจผ่านเสียงเพลง เพราะพวกเขายังมีโปรเจกต์ต่อเนื่องรออยู่ทั้งอัลบั้มใหม่ การแสดงสด และโชว์พิเศษที่เตรียมมอบให้แฟน ๆ ตลอดปีนี้
“เรากำลังทำเพลงที่มีหลากหลายอารมณ์ขึ้น มีเพลงที่สว่าง มีเพลงที่อยากชวนคนลุกขึ้นเต้นบ้าง แต่ไม่ว่าเพลงจะฟังแล้วร้องไห้หรือยิ้ม เราก็อยากให้ทุกเพลงยังเป็นเหมือนเพื่อนของคนฟังเสมอ” — กิต ทิ้งท้ายอย่างอบอุ่น
