“ถ้าฟังอัลบั้ม [UPSET] แล้วรู้สึกเหมือนกำลังดูหนังชีวิตของ Coogie อยู่—คุณไม่ได้คิดไปเอง”
หากคุณยังไม่รู้จัก Coogie แร็ปเปอร์หนุ่มจากเกาหลีใต้ที่เคยอยู่ใต้ชายคาค่าย H1GHR MUSIC และเป็นที่รู้จักจากสไตล์แร็ปเฉียบคม จังหวะจัดจ้าน และพลังงานดิบที่สะกดคนดูในรายการ Show Me The Money ตอนนี้คือเวลาที่ควรเริ่มต้นทำความรู้จักเขา
Coogie คือศิลปินที่ไม่เคยหยุดพัฒนา จากเด็กหนุ่มที่หลงใหลในเสียงบีตและไมโครโฟน สู่แร็ปเปอร์ที่คร่ำหวอดในวงการมาแล้วกว่า 7 ปี และตอนนี้เขาพร้อมแล้วกับการเปิดบทใหม่ให้ตัวเองด้วยอัลบั้มเต็มชุดล่าสุดที่ชื่อว่า [UPSET] ผลงานที่ไม่ได้เป็นแค่หมุดหมายทางดนตรี แต่คือบันทึกชีวิตที่บอกเล่าตัวตนของเขาแบบหมดเปลือก
“ผมอยากกลับไปมองจุดเริ่มต้นของตัวเอง แล้วใช้มุมมองที่กว้างขึ้นในตอนนี้ พาเพลงของผมไปสู่ระดับโลก” เขาพูดถึงแรงผลักดันเบื้องหลังอัลบั้มนี้ด้วยแววตาที่เปี่ยมด้วยความมุ่งมั่น
[UPSET] จึงเป็นมากกว่าแค่การรวมเพลงที่ฟังดี มันคือภาพพาโนรามาของอารมณ์ ความทรงจำ และความท้าทายที่ Coogie ผ่านมา ตั้งแต่ความแรงแบบระเบิดของ “Shut Up” ไปจนถึงความละมุนแบบลอยละล่องใน “Spaceship” ทุกแทร็กในอัลบั้มนี้กำลังพาเราเดินทางไปกับเขา จากเกาหลี สู่หัวใจของคนฟังทั่วโลก
จุดเริ่มต้นของเรื่องเล่า
“ผมรู้สึกว่าถึงเวลาแล้วที่ควรกลับไปทบทวนตัวเอง ทบทวนว่ามาจากที่ไหน” Coogie บอกเล่าถึงที่มาของอัลบั้ม “ตอนนี้ผมมองโลกกว้างขึ้น และพร้อมแล้วที่จะพาเพลงของตัวเองไปไกลกว่าที่เคย”
ไม่ใช่แค่การปล่อยอัลบั้มแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย เขาเริ่มสร้างจักรวาลของ [UPSET] ผ่านพาร์ตก่อนหน้าอย่าง [BEFORE UPSET] และ [BEFORE UPSET 2] ซึ่งเหมือนการวางพรมแดงให้แฟนเพลงเดินตามเข้าไปสู่โลกใหม่ของเขาแบบเนียนๆ “ผมไม่ได้วางแผนอะไรเป็นขั้นตอนเลย แค่อยากให้คนฟังรู้สึกคุ้นเคยกับอารมณ์ของอัลบั้ม”
ความสุดขั้วที่ตั้งใจเลือก
ใน [UPSET] เราจะได้ยินทั้ง “Shut Up” ที่แรงและขบถแบบสุดขีด ไปจนถึง “Spaceship” ที่เบาลอยราวกับล่องอยู่ในอวกาศ Coogie บอกว่าเขาตั้งใจโชว์ให้เห็นศักยภาพในทุกมิติ “มากกว่าสิ่งอื่นใด ผมแค่อยากทำเพลงที่เวลาเล่นสดแล้วจะ ‘ระเบิด’ ให้สุด”
ในมุมมองของคนอื่น Coogie คือศิลปินที่ versatile หรือพูดง่ายๆ คือ “ไปได้ทุกทาง” ซึ่งเขานิยามคำนั้นในแบบของตัวเองว่า “ผมทำทุกอย่างด้วย mindset ว่าผมเก่งที่สุดในเกาหลีในสิ่งที่ทำ”
ทีมที่ร่วมสร้างโลก
ชื่อของ ZICO, The Quiett, Simon Dominic, Loco, Jvcki Wai ปรากฏอยู่ในเครดิตของอัลบั้มนี้ ไม่ใช่แค่เพื่อเรียกความสนใจ แต่เป็นการแสดงความเคารพต่อคนที่มีอิทธิพลต่อเส้นทางดนตรีของเขา “ผมอยากให้พวกเขายังอยู่ในเครดิตของอัลบั้มต่อไปในอนาคตด้วย”
โดยเฉพาะการได้ทำงานกับ ZICO ในเพลง “Shut Up” ซึ่ง Coogie เล่าว่า “ในท่อน outro ที่โน้ตถูกยกขึ้นอีกหนึ่งขั้น มันคือไอเดียของ ZICO เขาใส่รายละเอียดเล็กๆ ที่เจ๋งมาก ทั้งที่ตารางแน่น แต่เขาก็ยังให้เวลากับผม ผมรู้สึกขอบคุณมากจริงๆ”
เบาะแส ความลับ และความทรงจำ
แฟนๆ อาจสังเกตว่าเพลง “Coogie & Me” โผล่มาแวบๆ ใน MV “idontfreestyle” ก่อนจะปล่อยเวอร์ชันเต็มตามมาในภายหลัง—มันคือการเล่นสนุกที่เขาเริ่มลองเป็นครั้งแรก “ผมอยากให้คนได้เห็นอีกมุมนึงของผม ว่าผมก็มีด้านแบบนี้อยู่เหมือนกัน”
เมื่อถามถึงชื่ออัลบั้มอย่าง [UPSET] ว่ามีภาพไหนลอยขึ้นมาในหัวไหม? กลิ่น อารมณ์ หรือสีสันแบบไหน? Coogie บอกว่าเขาไม่ได้คิดภาพพวกนั้นชัดๆ ตั้งแต่ต้น “แต่สิ่งที่ผมพยายามเสมอเวลาทำอัลบั้มเต็มคือการสะท้อนรากของตัวเองให้มากที่สุด นั่นคือสิ่งที่ผมตั้งใจรักษาไว้ตลอด”
แล้วถ้าอัลบั้มนี้คือหนึ่งลุคในตู้เสื้อผ้า? “ผมไม่รู้ว่ามันจะเป็น street, minimal หรือ tailored หรอก แต่สิ่งที่แน่ๆ คือมันคือ Coogie version แบบที่เป็นตัวผมจริงๆ”
Coogie ในโหมดส่วนตัว
แม้จะอยู่เบื้องหน้าสปอร์ตไลต์ในฐานะแร็ปเปอร์แถวหน้า แต่เมื่ออยู่คนเดียวและย้อนฟังเพลงของตัวเอง Coogie บอกว่าเขายังแปลกใจตัวเองอยู่เสมอ “บางครั้งผมก็คิดว่า ‘โห ตอนนั้นเราทำอะไรแบบนี้ได้ด้วยเหรอ?’ แล้วมันก็ทำให้ผมทึ่งกับตัวเองในอดีต”
[UPSET] จึงไม่ใช่แค่อัลบั้มฮิปฮอปธรรมดา แต่มันคือพอร์ทัลข้ามเวลาของ Coogie ที่พาเราย้อนกลับไปดูตัวตนเก่าๆ ของเขา พร้อมพาเราก้าวไปข้างหน้าพร้อมกันในเวอร์ชันใหม่ที่ทั้งแกร่งขึ้น ลึกขึ้น และจริงยิ่งกว่าเดิม