ช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมาคำว่า ‘Gender-Fluid’ หรือ ‘Gender-Neutral’ ได้กลายมาเป็นคีย์เวิร์ดหลักของแบรนด์สินค้าในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมแฟชั่นที่พยายามชูคำนี้ให้กลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ของโลกแฟชั่นอันกว้างใหญ่ แต่นอกจากอุตสาหกรรมแฟชั่นแล้วอุตสาหกรรมความงามก็เป็นส่วนหนึ่งในการเฉลิมฉลองให้กับความหลากหลายทางเพศนี้ ทำให้ตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมาเราเริ่มเห็น ‘แบรนด์เครื่องสำอางไร้เพศ’ กันมากขึ้น
การตื่นตัวในประเด็นเรื่องความหลากหลาย (Diversity) และการรวมความหลากหลายของผู้คน (Inclusion) ของผู้คนทั่วโลกทำให้แบรนด์บิวตี้น้อยใหญ่ออกมามีส่วนร่วมในการขยายกรอบและบรรทัดฐานด้านความงามที่แตกต่างนี้ และ ELLE MEN โฉมใหม่ก็ขอเป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงที่ช่วยผลักดันให้ผู้ที่มีเพศสภาพ ‘ผู้ชาย’ ได้ก้าวออกมาเพื่อแสดงออกตัวตนที่แท้จริงที่อาจถูกกดทับไว้ด้วยบรรทัดฐานของสังคมไทยโดยไม่ต้องแคร์กรอบหรือกฎเกณฑ์เรื่องเพศอีกต่อไป
วันนี้เราจึงได้รวบรวมบิวตี้แบรนด์น่าสนใจที่ยืดอกโอบรับกับคำว่า Gender-Neutral และ Gender-Fluid แถมเต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์อันหลากหลายตอบโจทย์กับทุกเพศ ทุกรสนิยม ทุกเชื้อชาติ ร่วมขับเคลื่อนและสร้างสังคมในอุดมคติที่เต็มไปด้วยความเท่าเทียมและหลากหลาย
Fenty Skin
เราขอเริ่มกันที่แบรนด์สกินแคร์ในอาณาจักร Fenty ของ Rihanna (ริฮานน่า) อย่าง ‘Fenty Skin’ กันเป็นอันดับแรกเลย เพราะนอกจาก Fenty Beauty แบรนด์เมคอัพสุด Inclusive แล้วเธอยังได้ปั้นแบรนด์สกินแคร์แบรนด์นี้ขึ้นมาให้เป็นแบรนด์สกินแคร์ที่โอบรับกับทุกคนจริงๆ เราจะเห็นความมุ่งมั่นนั้นผ่านผลิตภัณฑ์ที่ใช้ง่ายและใช้ได้กับทุกคน จนกลายเป็นจุดเด่นของแบรนด์สกินแคร์แบรนด์นี้แถมยังแบรนด์นี้ยังชูความ Gender-Neutral ในทุกภาคส่วนของแบรนด์ตั้งแต่แพคเกจจิ้ง มาร์เก็ตติ้ง แคมเปญ ไปจนถึงโซเชียลมีเดียของแบรนด์อย่าง @fentyskin
ซึ่งแบรนด์สกินแคร์แบรนด์นี้เคยเป็นทอล์คออฟเดอะทาว์น มาแล้วเพราะในปี 2020 แรปเปอร์หนุ่มหวานใจเจ้าของแบรนด์อย่าง A$AP Rocky (เอแซ็ป ร็อกกี้) เคยขึ้นแคมเปญของ Fenty Skin มาแล้ว นำร่องให้ผู้ชายอย่างเราๆ กล้าก้าวเข้ามาในโลกของสกินแคร์อย่างไม่เคอะเขิน
Milk Makeup
สำหรับใครที่เคยไถฟีดอินสตาแกรมแล้วเจอผลิตภัณฑ์สกินแคร์และเมคอัพแพกเกจจิ้งสุดเฟรนด์ลี่ที่มีคำว่า ‘Milk’ ปรากฏอยู่ ให้รู้ไว้เลยว่านั้นคือผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ ‘Milk Makeup’ แบรนด์วีแกนบิวตี้ที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2017 แต่นอกจากจุดมุ่งหมายด้านสิ่งแวดล้อมแล้ว Milk Makeup ยังให้ความสนใจในเรื่องความหลากหลายทางเพศด้วย โดยแบรนด์ได้ร่วมมือกับ Very Good Light แพลตฟอร์มออนไลน์ด้านความงามสำหรับผู้ชาย ริเริ่มแคมเปญที่ชื่อว่า ‘Blur the Lines’ แคมเปญที่ตั้งคำถามถึงบรรทัดฐานทางเพศและภาพเหมารวมในอุตสาหกรรมความงาม
และหลังจากแคมเปญสุดหลากหลายนี้ได้เกิดขึ้นมา Milk Makeup ได้สนับสนุนและยกระดับชุมชน LGBTQ+ อย่างต่อเนื่อง และปัจจุบัน 2% ของยอดขายทั้งหมดถูกบริจาคให้องค์กรด้านความหลากหลายทางเพศในนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
Malin + Goetz
‘Malin + Goetz’ ชื่อแบรนด์สกินแคร์และน้ำหอมสุดเก๋ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2004 โดยแบรนด์ได้เริ่มจากช้อปเล็กๆ ในนิวยอร์กก่อนที่จะขยายสาขาไปทั่วโลกดังเช่นทุกวันนี้ ตั้งแต่ ลอสแอนเจลิส ซานฟรานซิสโก ลอนดอน ฮ่องกง นอกจากนั้นแบรนด์ยังได้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้กับสายการบินและโรงแรมใหญ่ๆ ทั่วโลกด้วย จุดเด่นของแบรนด์คือผลิตภัณฑ์ที่ถูกคิดค้นขึ้นอย่างพิถีพิถัน อ่อนโยน และก่อให้เกิดอาการแพ้ต่ำ นอกจากแพคเกจจิ้งสุดมินิมัลของแบรนด์นี้ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดยังถูกออกแบบมาให้ใช้ได้กับทุกคนโดยไม่คำนึงถึงเรื่องเพศ อายุ หรือเชื้อชาติ
One/Size
ขยับเข้าสู่ความตื่นเต้นกันมากขึ้นกับแบรนด์ที่ชื่อว่า ‘One/Size’ แบรนด์เมคอัพที่ก่อตั้งขึ้นโดยบิวตี้อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังของอเมริกา Patrick Starrr (แพทริค สตาร์) โดยมีจุดมุ่งหมายในการทำให้เมคอัพหรือการแต่งหน้านั้นเป็นเรื่องของทุกคนตามคำกล่าว “Makeup is One Size Fits All” ที่กลายมาเป็นชื่อแบรนด์สุดกระชับ นอกจากกลุ่มลูกค้าผู้ชายที่แบรนด์ได้ทำลายกำแพงในการแต่งหน้าของพวกเขาลงแล้ว One/Size ยังครอบคลุมไปถึงผู้ที่สภาพผิวผิดปกติตั้งแต่ ปัญหาสิว ไปจนโรคผิวหนังอักเสบ โดยมุ่งหวังให้ทุกคนสามารถแต่งหน้าและดูดีในแบบของตัวเองได้
Byredo Makeup
โด่งดังมาจากน้ำหอมนีชแพคเกจจิ้งยูนีคและกลิ่นสุดโมเดิร์นหลายคนอาจจะไม่รู้ว่า Byredo นั้นก็มีไลน์เมคอัพเป็นของตัวเองด้วยในชื่อ ‘Byredo Makeup’ ที่ได้เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2020 เพื่อสอดคล้องไปกับความคิดน้ำหอมไร้เพศ Ben Gorham หมายมั่นปั้นแบรนด์เมคอัพนี้ในชุดความคิดเดียวกันคือการออกแบบเมคอัพขึ้นสำหรับทุกคน นอกคอนเซปต์ Gender-Neutral ของไลน์เมคอัพไลน์นี้แล้วจุดเด่นของ Byredo Makeup ก็คือแพคเกจจิ้งสุดโมเดิร์น และเฉดสีที่หลากหลายและน่าสนใจ
ซึ่งล่าสุดไลน์ Byredo Makeup นี้ก็ได้ Lucia Pica (ลูเซีย ปิกา) อดีต Global Creative Makeup and Colour Designer ของ Chanel Beauty มานั่งตำแหน่ง Creative Image และ Makeup Partner คนล่าสุดเพื่อผสานมุมมองความงามให้เข้ากับไลน์เมคอัพของแบรนด์น้ำหอมชื่อดังอย่างลงตัว
Humanrace
มาต่อกันที่แบรนด์สกินแคร์สุดคูลของ Pharrell Williams (ฟาร์เรลล์ วิลเลียมส์) นักร้องหนุ่มชื่อดังที่กระโดดมาเปิดแบรนด์สกินแคร์ของตัวเอง ซึ่งเขามองว่ามนุษยชาติไม่ได้แบ่งแยกตามเชื้อชาติ สีผิว เพศ ทุกคนนั้นล้วนเกิดมาในผิวเดียวกันและแบรนด์สกินแคร์แบรนด์นี้ก็กำลังโอบรับกับแนวคิดนั้น นอกจากนั้น Humanrace ยังสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่มีประสิทธิภาพ เรียบง่าย และมีมุมมองไม่เหมือนใคร
โดยผลิตภัณฑ์ของแบรนด์นี้ล้วนคิดถึงผู้คนทุกกลุ่มอย่างรอบคอบตั้งแต่แพเกจจิ้งที่เขียนด้วยอักษรเบรลล์เพื่อให้ผู้พิการทางสายตา หรือสูตรสกินแคร์ที่ไม่แบ่งแยกสภาพผิวแต่ถูกออกแบบมาให้เข้ากับทุกสภาพผิว เพื่อให้ทุกคนสามารถใช้สกินแคร์ของเขาได้อย่างปลอดภัยและรื่นรมย์ ไปจนถึงผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีเพียง 3 ขั้นตอนเท่านั้น (ไม่รวมครีมกันแดด) เพื่อตอบโจทย์แนวคิด Inclusion โอบรับลูกค้าทุกกลุ่มที่ต้องการใช้สกินแคร์ที่เรียบง่ายแต่ตรงจุด
Pleasing
และแบรนด์บิวตี้ไร้เพศแบรนด์สุดท้ายที่ก่อตั้งขึ้นโดยแฟชั่นไอคอนแห่งยุคอย่าง Harry Styles (แฮร์รี่ สไตลส์) ที่กระโดดมาเปิดแบรนด์ที่ชื่อว่า ‘Pleasing’ แบรนด์บิวตี้ที่ถ่ายทอดสไตล์ Gender-Fluid ของเขามาสู่ไลน์บิวตี้ได้อย่างกลมกล่อม ซึ่งถ้าหากใครเคยติดตามการแต่งตัวของเขาก็จะเห็นเขาทาเล็บหลากสีหลากสไตล์อยู่บ่อยๆ ซึ่งยาทาเล็บนี่แหละคือฮีโร่โปรดักส์ของแบรนด์นี้เลย
นอกจากนั้น Pleasing ยังมีไอเท็มสกินแคร์ บอดี้แคร์ และไลฟ์สไตล์โปรดักส์อีกมากมาย อาทิ Eye Gel, Matte Lip Oil และ Illuminating Serum แต่ที่น่าสนใจมากคือคอแลบอเรชั่นระหว่าง Pleasing กับ Marco Ribeiro ดีไซเนอร์ชาวบราซิลที่ได้ออกไอเท็ม Point Makeup มากมายเพื่อตอกย้ำจุดยืนความไร้เพศของแบรนด์บิวตี้แบรนด์นี้
