Words: Paranee P.Pipat
Photo: Nucha Jaitip
Fashion Editor: Ratchakrit Chalermsan
‘ดัง–ณัฎฐ์ฐชัย บุญประเสริฐ’ นักแสดงจากค่าย GMMTV ที่มาพร้อมเอเนอร์จี้น่ารักสดใส ความขี้เล่นและคุยง่ายของเขาทำให้หลายคนตกหลุมรักและอดยิ้มตามไม่ได้ บทสนทนาของเราวันนี้จะพาไปทำความรู้จักความเป็นมาของดัง ตัวตน ผลงานที่น่าติดตาม ไปจนถึงความฝันวัยเด็ก
EM: ช่วงนี้ทำอะไรอยู่บ้าง และผลงานให้แฟน ๆ ติดตาม?
D: ตอนนี้กำลังจะมีซีรีส์เรื่องใหม่ ‘Summer Night ความลับในคืนฤดูร้อน’ กับทาง GMMTV และอีเวนต์แฟนมีตติ้งที่ต่างประเทศครับ แล้วก็มีหลายโปรเจกต์ที่ยังบอกไม่ได้ อยากให้ทุกคนรอติดตามทางไอจี @dunknatachai และทางโซเชียล GMMTV ครับ
EM: ช่วงนี้อินกับอะไรเป็นพิเศษไหม?
D: ช่วงนี้จะอินกับสัตว์เลี้ยงมาก ผมมีปอมชื่อ ฮารุโตะ ที่เลี้ยงมาหนึ่งปีแล้ว แต่ผมจะสงสารเขาเวลาเราต้องออกไปทำงานหรือบางทีไปเที่ยวข้างนอกทั้งครอบครัวแล้วเขาไม่ให้เอาหมาไป เขาก็จะดูหงอย ๆ อยากไปด้วย เราเลยอยากมีหมาอีกตัวให้เป็นเพื่อนกัน ซึ่งตอนนี้เราอินกับหมาใหญ่ อยากให้อยู่ด้วยกันฟีลพ่อลูก
EM: อาชีพในฝันตอนเด็ก ๆ อยากเป็นอะไร?
D: ถ้าตอนเด็กเลยผมอยากเป็นนักบินอวกาศ น่าจะเป็นอาชีพที่ทุกคนเคยฝัน พอโตขึ้นมาหน่อยก็อยากเป็นนักบินตามคุณปู่ เขาเท่มาก แล้วผมมองเขาเป็นไอดอลในชีวิตเลย โตมาอีกหน่อยก็เข้าเรียนคณะวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ภาคอินเตอร์ ที่ลาดกระบัง เลยคิดว่าทำสตาร์ทอัปโปรแกรมมิ่งก็ดีนะ สุดท้ายพอได้มาลองแคสต์แล้วเรียนแอ็กติ้งเราก็รักการแสดงไปเลย
EM: ตอนที่เริ่มอยากเป็นนักแสดงเป็นอย่างไรบ้าง?
D: เราไม่เคยคิดเลยว่าจะได้เป็นนักแสดง ไม่เคยสนใจด้านนี้มาก่อน จุดเริ่มต้นคือรุ่นพี่บอกให้ไปแคสต์เป็นคทากรของมหาวิทยาลัยดู เผื่อจะเปิดประตูไปเป็นนักแสดงหรืออย่างอื่นได้ สรุปเราก็ได้เป็นจริง ๆ ตอนนั้นตื่นเต้นครับ ด้วยความที่ตอนเด็กเราไม่เคยทำกิจกรรมแบบนี้เลย จำได้ว่าช่วงนั้นหนักมาก ต้องฝึกทุกวัน บางวันเลิกเรียนหนึ่งทุ่มก็ต้องซ้อมจนถึงเที่ยงคืน
EM: ตอนที่เริ่มอยากเป็นนักแสดงเป็นอย่างไรบ้าง?
D: ตอนนั้นผมมียอดฟอลโลเวอร์ประมาณ 500 แต่พอเปิดตัวเป็นคทากรยอดฟอลโลเวอร์ก็เด้งขึ้นไปเป็นหมื่นภายในแป๊บเดียว ผมตกใจมาก มันคือพลังโซเชียลเลย พอพี่ในบริษัทเห็นผมจากไอจีเขาก็นัดมาคุยที่ GMMTV แล้วก็ได้ร่วมงานกัน ตอนนั้นเริ่มจากซีรีส์ ‘แล้วแต่ดาว’ ปีต่อมาคือเรื่อง ‘วาระซ่อนเร้น’ ส่วนปีนี้เป็นโปรเจกต์ใหม่คือ ‘ความลับในคืนฤดูร้อน’ ครับ
EM: เราได้อะไรจากการเป็นนักแสดงบ้าง?
D: ได้ทักษะการสื่อสารแน่นอน ได้เจอสังคมใหม่ ๆ ที่เราไม่เคยเจอด้วย แล้วก็เป็นการเปิดโลกเหมือนกันนะ เราได้เจอคนหลากหลาย แล้วแต่ละคนก็มีวิธีเข้าหาที่ไม่เหมือนกันด้วย หรือจะเป็นการได้รับความรักมากมาย ซึ่งผมไม่คิดเลยว่าจะมีคนรักเยอะขนาดนี้ถ้าไม่ได้มาทำงานสายนี้ ผมเลยเอ็นดูแฟนคลับทุกคน น่ารักสุด ๆ
EM: ดังตัวจริงเหมือนหรือต่างจาก ‘ดาวเหนือ’ ในเรื่อง แล้วแต่ดาว อย่างไร?
D: ดาวเหนือเป็นตัวละครที่เบบี๋มาก มีความน่ารัก สดใส ยิ้มแย้มตลอดเวลา อินโนเซนต์ ใครพูดอะไรก็เชื่อไปหมดเลย ซึ่งผมเป็นไหม ก็เป็น (หัวเราะ) แต่ไม่ขนาดนั้น จริง ๆ ผมชอบเล่นบทขรึม ๆ มากเลย (ELLE MEN: ตัวตนของดังขรึมไหม) ไม่ได้ขรึมนะ เรียกว่า…(นิ่ง) แบบเนี้ย (หัวเราะ) ไม่รู้เรียกว่าอะไร เราคุยเยอะ ชอบคุยกับคน บางทีถ้าไม่ได้นอนก็จะนิ่งหน่อย แต่ถ้านอนชาร์จมาเต็มอิ่มนี่คือเอเนอร์จี้เต็มเลย
EM: พอได้มาแสดงซีรีส์จริง ๆ แล้วมันเหมือนกับที่เราคิดไว้ไหม?
D: ตอนแรกที่เราเป็นคนดู เรามองว่ามันไม่เห็นมีอะไรเลย แต่พอได้เข้ามาจริง ๆ มันมีหลายเรื่องมากที่เพิ่งรู้ ทั้งมุมกล้อง การรับกล้อง การถ่ายหลาย ๆ เทกเพื่อเอาไปตัดต่อ ซึ่งต้องเล่นอย่างต่ำ 3-4 รอบต่อฉาก มีเรื่องบล็อกกิ้งที่เราต้องเตี๊ยมกับตากล้องตลอดเวลาโดยที่เราต้องเป็นคาแรกเตอร์นั้นด้วย แต่เราสนใจเรื่องเบื้องหลังอยู่แล้ว พอมีโอกาสมาเล่นเราเลยแฮปปี้
EM: นอกจากนักแสดงแล้วเห็นว่ามีธุรกิจขนมและเสื้อผ้าด้วย เรามีเป้าหมายหรืออะไรที่อยากจะต่อยอดไหม?
D: ผมอยากลองเล่นซีรีส์หลาย ๆ แนว แล้วก็อยากลองเล่นหนังขึ้นจอมาก ๆ ส่วนธุรกิจจริง ๆ ผมเคยมีร้านอาหารแต่ขายกิจการไป ถ้าเป็นไปได้ผมเลยอยากขยายร้านขนมเปี๊ยะ Navori ให้มีขนมหวานอย่างอื่น อาจจะมีอาหารคาวด้วย ถ้าเปิดเป็น Navori Café หรือ Navori Restaurant ได้ก็จะแฮปปี้เลย ส่วนแบรนด์เสื้อผ้า Vespera คอนเซปต์มันคือ ‘Be the Light – ไม่ว่าจะมืดแค่ไหนเราก็เปล่งประกายขึ้นมาได้’ เป็นเสื้อผ้าแนวสตรีทแฟชั่น ตอนนี้มีหลายอย่างที่อุบไว้อยู่เพราะเดี๋ยวจะมีแฟชั่นโชว์ด้วย
EM: สุดท้ายอยากฝากอะไรถึงแฟนคลับ?
D: ขอบคุณครับผม ขอบคุณที่ติดตามมาตั้งแต่วันแรกที่เรายังไม่ได้เล่นอะไร ยังไม่ได้รู้จักกัน แต่ก็คอยส่งกำลังใจให้เสมอ จนตอนนี้เราเรียนจบแล้ว ซึ่งถ้าไม่มีแฟนคลับนี่ผมอาจจะไม่จบก็ได้นะ เพราะว่ากำลังใจมันมหาศาลมากจนเราสู้ ไม่อยากทำให้เขาผิดหวัง ซึ่งมันยากมากเลย พอเราต้องทำงานด้วยหัวจะระเบิด (หัวเราะ) แต่พอแฟนคลับให้กำลังใจมาแล้วมันทำได้
