CARTIER เผยโฉมเรือนเวลา TANK  และ SANTOS-DUMONT รุ่นใหม่สำหรับสุภาพบุรุษผู้รักเวลา

เมื่อพลังแห่งการสร้างสรรค์จากอดีตสู่อนาคตของ Cartier (คาร์เทียร์) ไม่มีวันสิ้นสุด อันเป็นวิสัยทัศน์ก้าวไกลจากจุดเริ่มต้นของ Louis-François Cartier (หลุยส์-ฟร็องซัว คาร์เทียร์) ผู้บุกเบิกจักรวาลเรือนเวลาชิ้นเอกอย่าง Tank และ Santos-Dumont และในปี 2023 นี้ คาร์เทียร์ได้สร้างสรรค์ 3 เรือนเวลารุ่นใหม่ที่เผยครั้งแรกในงาน Watches and Wonders Geneva 2023 ณ กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่เพิ่งสิ้นสุดไป

Tank รุ่นแรกของคาร์เทียร์ที่ยังคงประสบความสำเร็จอย่างไม่รู้จบ

เวลานั้นหมุนเวียนเป็นวัฏจักรเข็มสั้น-ยาวยังคงวนเวียนบนหน้าปัดของ Tank ผลงานมาสเตอร์พีซในประวัติศาสตร์วงการนาฬิกาที่โดดเด่นด้วยรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก ‘รถถัง’ และในปีนี้มีตัวแทนคือ Tank Normale รุ่นใหม่ที่อ้างอิงเรือนแรกสุดจากปี 1917 กับ Tank Américaine อันสง่างาม รูปทรงภูมิฐาน ที่ชวนให้คิดถึง Tank Cintrée ในปี 1916 

Tank Normale รุ่นใหม่ที่นักสะสมเฝ้ารอ

หากพูดถึงเรือนเวลาน่าครอบครองในปี 2023 คงมี ‘Tank Normale’ รุ่น hour/minute ผลงานชิ้นที่ 7 ที่ได้รับการบรรจุลงคอลเล็กชั่น Cartier Privé อันเป็นจุดนัดพบของนักสะสมเรียบร้อยแล้ว ด้วยรูปทรงที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรุ่นบุกเบิกของ Tank ที่รังสรรค์โดยหลุยส์ในปี 1917 ยิ่งทำให้สาวกคาร์เทียร์ต่างหลงใหลเรือนเวลานี้ได้อย่างง่ายดายเพียงแค่เห็นครั้งแรก

ความพิเศษของ Tank Normale รุ่น hour/minute 

คาร์เทียร์เนรมิตเรือนเวลารุ่นนี้ด้วยการหยิบยืมสัดส่วนและหน้าปัดแซฟไฟร์ทรงโดม (beveled) จากเรือนเวลาต้นฉบับ โดยใช้วัสดุทั้งตัวเรือนทอง สายหนังอัลลิเกเตอร์สีน้ำตาล และตัวเรือนแพลตินัม ที่สามารถเปลี่ยนเป็นกำไลเยลโลว์โกลด์แบบขัดแต่งซาตินหรือขัดเงา มามอบฟิลลิ่งยุค ‘70s อีกทั้งเมซง มีให้เลือกถึงสองแบบ ได้แก่ แบบเปลือยหน้าหลัง (Skeleton) พร้อมกลไกคอมพลิเคชั่น 24 ชั่วโมง ประดับเครื่องหมายพระอาทิตย์และพระจันทร์เสี้ยว โดยเข็มนาทีจะหมุนรอบหน้าปัดใน 1 ชั่วโมง ส่วนเข็มชั่วโมงจะหมุนรอบหน้าปัดใน 24 ชั่วโมง (ไม่ใช่ 12 ชั่วโมงเช่นนาฬิกาทั่วไป) ผลิตเพียง 50 เรือน

และแบบเป็นหน้าปัดเส้นบอกนาทีรูปรางรถไฟ มาพร้อมลายเซ็นลับที่ผลิตเพียง 20 เรือน ซึ่งทั้งสองแบบนี้พร้อมสลักหมายเลขกำกับทุกเรือน 

Tank Américaine 2023 

เมื่อเข้าสู่ในปี 2023 เมซงได้เน้นย้ำดีไซน์ต้นฉบับและรูปทรงโค้งมนของ Tank Cintrée ให้เด่นชัดยิ่งขึ้น ด้วยการสลักเส้นสายทั้งหน้าปัด ตัวกรอบนาฬิกาให้มีความละเอียดยิ่งกว่าเดิมและดูปราดเปรียวพร้อมใช้กลไกภายในคือรุ่น 1899 MC ที่ปรับขนาดให้สอดคล้องกับตัวเรือนที่บางลง ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบตัวเรือนและสายเป็นทองคำ, แบบตัวเรือนสตีลสายหนัง, ตัวเรือนโรสโกลด์ฝังเพชรสายหนัง และตัวเรือนไวต์โกลด์หรือโรสโกลด์ฝังเพชร บนสายโลหะที่ออกแบบมาสำหรับ Tank Américaine โดยเฉพาะ 

Note: Tank Américaine ได้รับแรงบันดาลใจจาก Tank Cintrée

นับตั้งแต่การเปิดตัวเมื่อปี  1989  โดยได้แรงบันดาลใจด้านกลไกลตลอดจนตัวเรือนทรงโค้งมนมาจาก Tank Cintrée แต่ขณะเดียวกันก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อย่างความพิเศษของการเป็นเรือนเวลารุ่นแรกที่มาพร้อมสายแบบปรับความยาวได้ ที่สอดรับกับหัวบัคเกิลแบบพับได้อันโด่งดัง ซึ่งคาร์เทียร์ได้ยื่นจดสิทธิบัตรตั้งแต่ปี 1910 

Santos-Dumont รุ่นใหม่ (ว่าที่) เรือนเวลาขวัญใจนักบิน

ความพิเศษที่ควรค่าแก่การครอบครองคือ รูปทรงเรียบบาง ที่ถูกยกระดับให้เป็นเอกลักษณ์ของ Santos-Dumont รุ่นใหม่นี้ นับเป็นความท้าทายครั้งใหม่ สำหรับ Cartier Manufacture ที่นำกลไกจักรกลอัตโนมัติ 9629 MC แบบเปลือยหน้าหลัง (Skeleton) มาพัฒนาขึ้นเป็นพิเศษพร้อมออกเปิดตัวในปีนี้ ซึ่งแบบตัวเรือนโรสโกลด์และตัวเรือนสตีล ยกระดับความภูมิฐานขึ้นอีกขั้น และยังมีรุ่นลิมิเต็ด ตัวเรือนเยลโลว์โกลด์เคลือบแลคเกอร์สีกรมท่า ที่รายละเอียดทุกส่วน รวมถึงขอบหน้าปัดและตัวเรือนล้วนเคลือบแลคเกอร์ โดยสะพานจักรแบบสเกเลตันนั้นเคลือบแลคเกอร์ด้วยมืออย่างประณีต

Note: ย้อนทำความรู้จัก Santos-Dumont สร้างขึ้นเพื่อนักบินที่มีชื่อเดียวกันกับเรือนเวลา

ในปี 1904 การพบกันระหว่างหลุยส์กับ Alberto Santos-Dumont (อัลแบร์โต ซานโตส ดูมงต์) นักประดิษฐ์และผู้บุกเบิกการบินชาวบราซิล มิตรภาพของความเป็นเพื่อนที่เห็นความลำบากของซานโตสในการใช้นาฬิกาแบบพกในขณะบิน นำมาดัดแปลงเป็นเรือนเวลาข้อมือเพื่อสะดวกในการใช้งานมากขึ้น และกลายเป็นอีกหนึ่งมรดกที่ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนืองของเมซง 

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.cartier.com/en-th